รองหัวหน้าพรรคประชาชน "วิโรจน์ ลักขณาอดิศร" พร้อมคุยกับพรรคเพื่อไทย เพื่อยื่นญัตติ "ซักฟอก" รัฐบาล แต่ย้ำว่า ต้องเน้นเนื้อหาการกระทำผิด แบบ "ฉกรรจ์" หลังนายกรัฐมนตรี ระบุ "Play it by ear" ประมาณว่า "ไว้ค่อยว่ากันอีกที" หาก "ซักฟอก" ด้วยเจตนาทางการเมือง ก็พร้อมจะตัดสินใจยุบสภาทันที
เดิมทีพรรคภูมิใจไทยทำข้อตกลง หรือ MOA ไว้กับพรรคประชาชน เพื่อเป็นรัฐบาลเฉพาะกาล 4 เดือน โดยกำหนดไทม์ไลน์ ยุบสภา 31 ม.ค.2569 และการทำประชามติจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่พร้อมการเลือกตั้ง เท่ากับเวลานี้ นายกรัฐมนตรี ไม่มีแผนการตายตัว
จากที่ลือกัน กำลังจะกลายเป็นจริง เมื่อนายกฯ อนุทิน ยอมรับแล้วว่า "ไม่มีแผนการตายตัว" สำหรับการตัดสินใจยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ แล้วก็พูดชัดว่าจะประเมินสถานการณ์ในแต่ละช่วงไป โดยเฉพาะเดือน ธ.ค.ถ้าเปิดสมัยประชุมแล้วยื่นญัตติซักฟอก ด้วยเจตนาทางการเมือง ก็ตัดสินใจได้ทันที
ก่อนจะยอมรับว่าอาจตัดสินใจยุบสภา หากพบว่าการยื่นญัตติซักฟอก เปิดสมัยประชุมหน้าเดือน ธ.ค. มีเจตนาทางการเมือง นายกฯ ย้ำแล้วว่า พรรคประชาชนทำให้ได้เป็นนายกรัฐมนตรี และจำต้องรักษาสัญญาที่ตกลงกันไว้ แต่สัญญาคือจะยุบสภาเมื่อครบ 4 เดือน ไม่ว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น นั่นละ MOA ซึ่งก็ไปสอดรับกับก่อนหน้านี้ ที่นายกฯ เคยบอกว่า 31 ม.ค.2569 คืออย่างช้า
และเงื่อนไขของสถานการณ์ตอนนี้ คือปม "ซักฟอก" คือปัญหานักการเมืองเกี่ยวข้อง-พัวพันสแกมเมอร์ไหม จะมีหลักฐานชี้ชัดหรือไม่ ยังไม่มีใครรู้..เว้นแต่ฝ่ายค้าน ที่จะคุยกัน เพื่อยื่นญัตติ ซึ่งรองหัวหน้าพรรคประชาชน บอกพร้อมคุยกับพรรคเพื่อไทย แต่ขอเน้นที่เหตุกระทำผิดแบบ "ฉกรรจ์" ไม่ใช่การเมือง
ถึงตอนนี้เป็นไปได้ที่ ฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติซักฟอก เปิดสภาฯ 12 ธ.ค.นี้ และก็เป็นไปได้ที่นายกฯ จะตัดสินใจยุบสภาฯ ก่อนเปิดสภาฯ หรือทันทีที่รู้แกวว่าจะยื่นซักฟอก แล้วก็อาจเป็นไปได้ว่าประเด็นหลักๆ จะเป็นเพราะประเด็นนักการเมืองที่ถูกโยงว่าเกี่ยวข้องกับปม "สแกมเมอร์" ซึ่งที่สุดแล้ว ก็อาจเป็นไปได้อีกว่าการแก้รัฐธรรมนูญ ปี 2560 จะไม่ทันกัน เพราะวาระ 3 ยังไม่ทันโหวต ยุบสภาฯ ซะก่อน
หรือจะยักแย่ ยักยัน เปิดสภาฯ ถกแก้รัฐธรรมนูญ ตามข้อตกลง ว่ากันว่า 17 ธ.ค. ให้เสร็จวาระ 3 ก่อน โดยสรุปแล้วว่า จะเปิดวิสามัญ โหวตวาระ 2 (8-10 ธ.ค.นี้) แต่จังหวะนั้นก็เป็นไปได้ ที่จะโดนญัตติซักฟอก เข้าให้แต่ตามกฎหมายยื่นแล้ว จะหนีซักฟอก ด้วยการยุบสภาฯ ไม่ได้ จากข้อสังเกตว่าเกมนี้พรรคประชาชนเป็นต่อแน่ จะได้เปิดซักฟอกก่อนยุบสภา ลงสนามเลือกตั้ง
แต่เพื่อไม่ให้ ผิดเพี้ยนไปจากข้อตกลงทางการเมือง เวลาเปิดโหวต มีทางเดียวที่พรรคประชาชน ต้องเลือก คือ งดออกเสียง นี่ก็อาจ "วิน-วิน" กับรัฐบาลพรรคภูมิใจไทยไม่ได้ เพราะการโหวต "ไม่ไว้วางใจ" ต้องใช้เสียงมากถึง 247 ซึ่งไม่มีทางที่พรรคเพื่อไทย จะมีเสียงพอ ตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่า มีเสียง สส.ถึง 140 จริงไหม ถ้าจำกันได้ ตอนโหวตเลือกนายกฯ อนุทิน คะแนนอยู่ที่ 311 ต่อ 152 เสียงเลยนะ
ข้อสังเกตจึงมีอยู่ว่าพรรคประชาชน จะเปิดเกม "ซักฟอก" ก็เพราะว่าต้องรักษาศักยภาพตัวเองในสายตาประชาชนและมวลชน แต่ปม-ปัญหา หนึ่ง ป.ป.ช.เตรียมฟันคดี 44 สส.ในเดือนธันวาฯ นี้ด้วย และสองคือคำร้องยุบพรรค ถึงมือ กกต.แล้ว กรณีข้อกล่าวหาว่า สส.พรรคประชาชน โยกค่าตอบแทน ผู้ช่วย สส.ไปเป็นค่าสมัครสมาชิกพรรค เข้าข่ายใช้เงินผิดประเภท ผิดวัตถุประสงค์กฎหมายพรรคการเมือง ดี-ไม่ดี เข้าข่ายฟอกเงิน ไปอีก
ส่วนภาพหลุดรอดมาถึงสื่อมวลชน อาจเป็นการพลิกเกมอะไรบางอย่างไหม? สำหรับ นายกรัฐมนตรี กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ที่หารือกันนอกรอบ บนตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวานนี้ หรือนี่คือเจตนาจะส่งสัญญาณถึงใคร
ทางเดียวที่จะเยียวยาได้ พรรคประชาชนได้ คือ ป.ป.ช.-กกต.และศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนอีกทางหนึ่งที่จะเยียวยา นายกฯ กับ ร.อ.ธรรมนัส คือการตัดสินใจยุบสภา เว้นแต่ว่า นายกฯ อนุทิน ที่กุมอำนาจการตัดสินใจยุบสภา จะมีทางอื่นที่เป็นแต้มต่อ สำหรับพรรคภูมิใจไทย ก็อาจยังไม่ตัดสินใจซะทีเดียว เพราะ "ไม่มีแผนการตายตัว" อยู่แล้ว
อ่านข่าว :
"รังสิมันต์" แนะ "อนุทิน" คิดให้ดี หากชิงยุบสภาฯหนี "ซักฟอก"
"วิโรจน์" หวัง "อนุทิน" ยุบสภาหลังแก้ รธน.ผ่านวาระ 3
นายกฯ ยันยุบสภาฯ ตาม MOA 31 ม.ค. รับขอให้ "วรภัค" ลาออกหลังถูกข้อครหา











