วันนี้ (13 พ.ย.2568) นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำในแหล่งน้ำผิวดิน เป็นประธานการประชุม โดยมีนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รมช.มหาดไทย เป็นรองประธาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 31 แห่งเข้าร่วม
เพื่อเร่งแก้ปัญหาการปนเปื้อนสารหนูในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำโขง และแม่น้ำสาละวิน ซึ่งเกิดจากการไหลมาจากการทำเหมืองในประเทศเพื่อนบ้าน รัฐบาลให้ความสำคัญ โดยลงพื้นที่ตรวจสอบและอธิบายให้ชาวบ้านเข้าใจ พร้อมตั้งคณะทำงาน 3 ชุดเพื่อวางแผนรับมือวิกฤตน้ำในระยะยาว
นายสุชาติ กล่าวว่าการประชุมครั้งนี้ หน่วยงานรายงานผลติดตามคุณภาพน้ำอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ มี.ค.2568 จนถึงปัจจุบัน จากการตรวจครั้งที่ 12 ในเดือน ก.ย.2568 โดยกรมควบคุมมลพิษ พบว่าค่าสารหนูในแม่น้ำกก แม่น้ำรวก และแม่น้ำโขง อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน แต่แม่น้ำสายมีค่าสารหนูเกินมาตรฐานเล็กน้อย ในระดับ 0.015-0.017 มก./ลิตร ซึ่งมาตรฐานคุณภาพน้ำผิวดินของไทยกำหนดไม่เกิน 0.01 มก./ลิตร ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านใช้มาตรฐาน 0.05 มก./ลิตร ตามที่ญี่ปุ่นกำหนดล่าสุด หน่วยงานจะนำมาตรฐานเหล่านี้มาหารือเพื่อประยุกต์ใช้ร่วมกันให้เหมาะสม
ส่วนผลตรวจสัตว์น้ำและผลผลิตเกษตร โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่และเชียงราย พบว่าสารหนู ปรอท ตะกั่ว และแคดเมียม ในเนื้อสัตว์น้ำและพืช อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทั้งหมด ไม่พบปัญหา
สำหรับสุขภาพประชาชน กระทรวงสาธารณสุขสุ่มตรวจปัสสาวะจำนวน 2,337 คน พบผู้ที่มีระดับสารหนูเกินค่าอ้างอิง 7 คน หลังตรวจซ้ำ พบ 6 คนกลับมาปกติ แต่ยังมี 1 คนที่ต้องสืบหาสาเหตุเพิ่มเติม เช่น อาจมาจากยาฆ่าแมลงในบ้านหรือปัจจัยอื่น ไม่ใช่จากน้ำโดยตรง
นายสุชาติ เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานเร่งประชาสัมพันธ์และอธิบายให้ประชาชนเข้าใจ โดยเฉพาะเรื่องปลา พืช ดิน และน้ำประปาในพื้นที่ลำน้ำกก ซึ่งตรวจพบน้ำบาดาลปนเปื้อนสารหนูใน 4 บ่อ แต่หลังจากกรมทรัพยากรน้ำบาดาลเป่าล้างและตรวจซ้ำ ไม่พบการปนเปื้อนแล้ว หน่วยงานต้องให้ความรู้ในทิศทางเดียวกัน เพื่อป้องกันความตื่นตระหนก โดยใช้กำลัง อสม. ในพื้นที่ช่วยอธิบาย
ด้านมาตรการรับมือ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรน้ำ ต้องหาแหล่งน้ำผิวดินเพิ่มสำหรับผลิตน้ำบริโภค เพื่อรับมือวิกฤตในอนาคต การประปาส่วนภูมิภาคต้องเตรียมแหล่งน้ำผลิตเพิ่มเช่นกัน สำหรับการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน กระทรวงการต่างประเทศจะเป็นหลักในการพูดคุยและแลกเปลี่ยนข้อมูล โดยยืนยันว่าประเทศเพื่อนบ้านต้องจัดการมลพิษตามหลักสากลก่อนปล่อยน้ำจากพื้นที่เหมือง
ส่วนเรื่องที่ดักตะกอน ซึ่งเป็นหลักสากลที่ถูกต้อง ชาวบ้านยังกังวลเรื่องทิ้งตะกอนที่ไหน ได้ตั้งคณะกรรมการ โดยอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำเป็นประธาน นำนักวิชาการที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยมาถกเถียงหาข้อสรุป โดยไม่ปิดกั้นแนวคิดนี้
นายสุชาติ ย้ำชัดว่าปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่เป็นปัญหาที่ทุกคนต้องร่วมมือแก้ไข ขอให้นักวิชาการ มหาวิทยาลัย และข้าราชการมาร่วมกัน เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด
ทั้งนี้ เพื่อแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน ได้ตั้งคณะทำงาน 3 ชุดภายใต้อนุกรรมการฯ ได้แก่
- คณะทำงานประสานความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อแก้ปัญหาคุณภาพน้ำผิวดิน
- คณะทำงานติดตามสถานการณ์สิ่งแวดล้อมและผลกระทบสุขภาพในพื้นที่แม่น้ำกก ลำน้ำสาขา แม่น้ำสาย โขง และสาละวิน
- คณะทำงานศึกษาความเหมาะสมและแนวทางบริหารจัดการแหล่งน้ำทดแทน ในพื้นที่ลุ่มน้ำหลัก 22 ลุ่มน้ำของไทยและแม่น้ำโขง เพื่อหาแนวทางและกลไกแก้ปัญหาให้รวดเร็วขึ้น
อ่านข่าวอื่น :
บอร์ดคุมน้ำเมา "ปลดล็อก" ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 14.00–17.00 น.
สส.เดโมแครตเปิดหลักฐาน อ้าง "ทรัมป์" รู้เรื่อง "เอปสตีน" ละเมิดเด็ก