ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ชาวนาชายแดนไทย-กัมพูชา เร่งเกี่ยวข้าวหอมมะลิ ยอมขาดทุนดีกว่าไม่ได้อะไร

ภูมิภาค
16:29
78
ชาวนาชายแดนไทย-กัมพูชา เร่งเกี่ยวข้าวหอมมะลิ ยอมขาดทุนดีกว่าไม่ได้อะไร
อ่านให้ฟัง
04:12อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ชาวนา บ้านภูมิซรอลเร่งเกี่ยวข้าว หวั่นเหตุปะทะชายแดนไทย–กัมพูชาที่อาจกลับมาปะทะกันอีกครั้ง เช่นเดียวกับชาวบ้านหนองหญ้าแก้ว บ้านหนองเสม็ด เร่งเกี่ยวข้าวหอมมะลิ หลังเหตุปะทะชายแดนซ้ำวานนี้ บางรายยอมขาดทุนแต่ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย

วันนื้ ( 13 พ.ย.2568) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ พบว่า ชาวนาในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต่างเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวเพราะความกังวลต่อสถานการณ์ตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ที่อาจกลับมาปะทะกันอีกครั้ง หลังจาก สถานการณ์ตามแนวชายแดน โดยเฉพาะในพื้นที่ฝั่ง จ.สระแก้ว ที่ตรึงเครียดและสถานการณ์อาจบานปลาย เป็นการสู้รบ พื้นที่บ้านภูมิซรอลตั้งอยู่ใกล้เขตชายแดนด้านเขาพระวิหาร ซึ่งในอดีตเคยเป็นจุดปะทะระหว่างทหารสองประเทศ ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ต่างตระหนักถึงความไม่แน่นอนของสถานการณ์ความมั่นคง และไม่อยากเสี่ยงให้ผลผลิตที่เพาะปลูกมาทั้งปีต้องเสียหายหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน

ทั้งนี้ชาวนาหลายครอบครัวจึงเร่งลงแรงเกี่ยวข้าวให้แล้วเสร็จภายในไม่กี่วัน โดยเฉพาะแปลงที่อยู่ใกล้แนวชายแดน เพื่อให้สามารถขนย้ายข้าวออกจากพื้นที่ได้ทันหากมีเหตุฉุกเฉิน บางครอบครัวถึงกับต้องออกมาทำงานตั้งแต่เช้ามืดจนค่ำ เพื่อให้การเก็บเกี่ยวเสร็จสิ้นก่อนเวลา และลดความเสี่ยงจากเสียงปืนหรือการสู้รบที่อาจเกิดขึ้น

แม้ปัจจุบันสถานการณ์ชายแดนจะยังอยู่ในภาวะปกติ แต่ความทรงจำจากเหตุปะทะในอดีตยังคงอยู่ในใจของชาวบ้าน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของชีวิตผู้คนในพื้นที่ชายแดน ที่ต้องดำรงชีวิตท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการเมืองและความมั่นคงของรัฐ

สำหรับชาวบ้านภูมิซรอล การเร่งเกี่ยวข้าว ไม่ใช่เพียงการเก็บเกี่ยวผลผลิตเท่านั้น แต่ยังเป็นการปกป้องผลลัพธ์แห่งความเหนื่อยยากทั้งปีให้ปลอดภัยจากเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นอีกครั้ง

เช่นเดียวกับชาวบ้านหนองหญ้าแก้ว บ้านหนองเสม็ด ที่เร่งเก็บเกี่ยวข้าวหอมมะลิหวั่น หลังเหตุปะทะชายแดนซ้ำวานนี้(12 พ.ย.) บางรายยอมขาดทุนแต่ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย โดย นาง บัวไข วรคำ อายุ 67 ปี ชาวบ้านบ้านหนองเสม็ด เล่าถึงเหตุการณ์ ในวันที่ 12 พ.ย. 68 ที่ผ่านมาว่า ตนได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด จากนั้นชาวบ้านใกล้เคียง ผู้ใหญ่บ้านต่างพากันตะโกนให้วิ่งเข้าไปหลบในบังเกอร์ ตรงศาลเจ้ากลัวลูกปืนใหญ่มันตกลงมา เราก็กลัวไว้ก่อน ยายบัวไขกล่าว

ส่วนวันนี้เอาข้าวที่เกี่ยวไว้มาตากให้แห้งที่บ้าน หลังเกี่ยวมาได้ 2 วัน ชาวบ้านบางคนต้องเร่งเก็บเกี่ยวก่อนข้าวสุก แม้ขาดทุนก็ยอม เพราะเหตุการณ์ปะทะกันช่วงเย็นวานนี้ ทำให้สถานการณ์ในพื้นที่กลับมาตรึงเครียดอีกครั้ง เกรงว่าจะไม่ได้เข้าเก็บเกี่ยวหากเหตุการณ์รุนแรงเหมือนรอบแรกที่ผ่านมา

อยากให้มันจบเร็วๆ ไม่รู้จะทำไงดี มันลำบากคนชายแดน ทั้งวิ่ง ทั้งทำนา จะไปอยู่กรุงเทพฯ จะทำอะไรกิน แก่จนป่านนี้แล้ว“ บัวไข วรคำกล่าว 

ขณะที่บรรยากาศที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ชาวบ้านกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ หลังค่ำวานนี้อพยพเข้าบังเกอร์ช่วงเหตุปะทะ บางส่วนเร่งนำข้าวออกมาตากแดดหลังเก็บเกี่ยว โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร อปพร. รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.

อ่านข่าว:

 ทหารเมียนมาร่วมกับ บีจีเอฟ.ระเบิดตึกสูง ริมแม่น้ำเมยในเมียนมา

ปกครองสั่งอพยพชาวบ้านหนองหญ้าแก้ว-หนองจาน เข้าหลุมหลบภัย

สั่ง "ปิด" จุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก ห้ามเข้า-ออกทุกกรณี