วันนี้ (13 พ.ย.2568) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เตือนพื้นที่ภาคใต้ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก หลังมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ตอนบน ประกอบกับจะมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันออกเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคใต้ ส่งผลให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในพื้นที่ภาคใต้
สทนช.ประเมินวิเคราะห์สภาพอากาศ สถานการณ์น้ำและคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่ามีพื้นที่เสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำ เนื่องจากระบายน้ำไม่ทัน ในช่วงวันที่ 17-22 พ.ย.นี้
สำหรับพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำเนื่องจากระบายไม่ทัน ได้แก่
- จ.ชุมพร (อ.สวี ทุ่งตะโก พะโต๊ะ ละแม และหลังสวน)
- จ.สุราษฎร์ธานี (อ.เมืองสุราษฎร์ธานี ชัยบุรี พระแสง เวียงสระ กาญจนดิษฐ์ ดอนสัก บ้านนาสาร ท่าฉาง และเกาะสมุย และเกาะพงัน)
- จ.ภูเก็ต (อ.เมืองภูเก็ต กะทู้ และถลาง)
- จ.นครศรีธรรมราช (อ.เมืองนครศรีธรรมราช เชียรใหญ่ ชะอวด หัวไทร เฉลิมพระเกียรติ ปากพนัง พระพรหม สิชล นบพิตำ ท่าศาลา ขนอม และช้างกลาง)
- จ.ตรัง (อ.เมืองตรัง ห้วยยอด นาโยง ปะเหลียน และย่านตาขาว)
- จ.พัทลุง (อ.กงหรา ตะโหมด ป่าบอน ศรีนครินทร์ ศรีบรรพต และป่าพะยอม)
- จ.สตูล (อ.เมืองสตูล ควนโดน ควนกาหลง และท่าแพ)
- จ.สงขลา (อ.เมืองสงขลา ระโนด กระแสสินธุ์ สทิงพระ สิงหนคร รัตภูมิ บางกล่ำ ควนเนียง หาดใหญ่ คลองหอยโข่ง สะเดา นาหม่อม จะนะ นาทวี เทพา และสะบ้าย้อย)
- จ.ปัตตานี (อ.เมืองปัตตานี หนองจิก โคกโพธิ์ แม่ลาน ยะรัง ยะหริ่ง มายอ ทุ่งยางแดง ปะนาเระ กะพ้อ สายบุรี และไม้แก่น)
- จ.ยะลา (อ.เมืองยะลา กาบัง ยะหา กรงปินัง รามัน บันนังสตา และธารโต)
- จ.นราธิวาส (อ.เมืองนราธิวาส บาเจาะ รือเสาะ ยี่งอ ศรีสาคร ระแงะ ตากใบ เจาะไอร้อง จะแนะ สุคิริน สุไหงปาดี สุไหงโก-ลก และแว้ง)
เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 ของความจุเก็บกัก บริเวณ จ.ระนอง สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต กระบี่ และอ่างเก็บน้ำที่มีสถิติปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำมากกว่าความจุเก็บกัก ซึ่งมีความเสี่ยงน้ำล้นอ่างฯ และส่งผลกระทบให้น้ำท่วมบริเวณด้านท้ายน้ำ
นอกจากนี้ยังต้องเฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่งและท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของแม่น้ำหลังสวน แม่น้ำตาปี คลองชะอวด คลองลำ คลองท่าแนะ แม่น้ำตรัง แม่น้ำปัตตานี และแม่น้ำสายบุรี
สทนช.ยังขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมอยู่เป็นประจำ
รวมถึงตรวจสอบและซ่อมแซมแนวคันบริเวณริมแม่น้ำ วางแผนการบริหารจัดการน้ำ และปรับการบริหารจัดการน้ำในแหล่งเก็บกักน้ำ รวมถึงเขื่อนระบายน้ำและประตูระบายน้ำ ให้สอดคล้องกันตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และอิทธิพลของการขึ้น-ลงของน้ำทะเล โดยการเร่งระบายและพร่องน้ำรองรับสถานการณ์ฝนที่คาดว่าจะตกหนัก พร้อมเตรียมแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก และแจ้งเตือนล่วงหน้าให้ประชาชนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบให้เตรียมพร้อมอพยพ
อ่านข่าว
นายอำเภอยืนยัน "เกาะสมุย" ปลอดภัย หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 2.4
สสน.เปิดสาเหตุฝนถล่ม กทม.กลางดึก - ย้ำน้ำท่วมกรุงเทพไม่เกี่ยว "น้ำเหนือ-น้ำหนุน"
ซูเปอร์ไต้ฝุ่นคืออะไร ? ถอดบทเรียน "ฟิลิปปินส์" ประเทศที่เจอพายุไม่หยุดหย่อน