“พลังเงียบ” ในโพลมาแรง เบื่อ-ไม่ผูกพันนักการเมือง

เป็นอีกครั้งหนึ่ง ที่ผลสำรวจความเห็นประชาชน จากนิด้าโพล ในพื้นที่ภาคกลาง 17 จังหวัด พบว่า เสียงส่วนใหญ่ยังหาคนที่เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้ สูงถึง 35.65 % ต่อเนื่องจากผลสำรวจ ภาคเหนือและภาคอีสาน ที่ได้ผลคล้ายกัน

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ซึ่งมีเสียงสนับสนุนให้เป็นนายกฯจากคนภาคกลาง ในอันดับ 2 ที่ 19.6 % แต่ยังน้อยกว่า “กลุ่มพลังเงียบ” ที่หายังหาคนเหมาะสมไม่ได้ถึงหนึ่งเท่าตัว

เช่นเดียวกับพรรคการเมือง ที่คนภาคกลางจะเลือกอันดับ 1 สูงถึง 28.95 % ยังหาที่เหมาะสมไม่ได้ ไม่ต่างจากนิด้าโพลสำรวจภาคเหนือ และภาคอีสาน แม้ภาคอีสาน อยู่อันดับ 1 จะเป็นพรรคประชาชน แต่อันดับ 2 ยังหาพรรคเลือกไม่ได้ ตามหลังแค่ 1.5 %

ไม่เพียงนิด้าโพล เมื่อเดือน ต.ค.2568 ซูเปอร์โพล ก็เปิดเผยผลสำรวจไม่ต่างกัน คือประชาชนยังไม่ตัดสินใจจะเลือกใครเป็นนายกฯ รวมทั้งพรรคการเมือง มากถึง 51.9 %

สะท้อนให้เห็นว่า ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่มั่นใจในตัวบุคคลที่จะมาเป็นนายกฯ และมีมากกว่า 76.5 % ยังเปิดกว้างต่อการตัดสินใจทางการเมือง และยังไม่มียึดโยงกับพรรคการเมืองใดอย่างมั่นคง

เท่ากับโอกาสยังเปิดกว้าง ขณะเดียวกับที่การเมืองยังไม่นิ่ง และพร้อมจะพลิกผันเปลี่ยนแปลงได้

จึงเป็นโจทย์ใหญ่สำหรับพรรคการเมืองและนักการเมือง ที่ประชาชนเชื่อว่า มีแต่ความวุ่นวาย ขัดแย้ง และพัวพันผลประโยชน์ และถึงตอนนี้ ยังมีเรื่อง สส.และทุนสีเทา เข้ามาเกี่ยวข้องอีก

แม้แต่เรื่องแก้รัฐธรรมนูญและญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ฝ่ายค้านที่แตกเป็น 2 ฝ่าย ทั้งฝ่ายค้ำและฝ่ายค้าน ต่างมีส่วนได้เสียทั้งสิ้น จึงได้เห็นบางพรรคพยายามยั่วยุให้อีกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมกับญัตติซักฟอกเพราะไม่มั่นใจในเสียง สส.ที่ต้องลงชื่อ 1 ใน 5 หรือเกือบ 100 คน

ขณะที่อีกพรรค ก็ขู่จะเปิดซักฟอก หากรัฐบาลไม่เปิดสภาสมัยวิสามัญพิจารณาแก้รัฐธรรมนูญ เข้าข่ายจับ “แก้รัฐธรรมนูญ” เป็นตัวประกัน

ความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการเมืองยุคนี้ จึงลดน้อยถอยลงดังที่เห็น

วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส

อ่านข่าว : ครบ 1 ปีชนะเลือกตั้ง ของกินแพงขึ้น "ทรัมป์" กลับลำลดภาษีซื้อใจฐานเสียง

"อสส." สั่งอุทธรณ์คดี ม.112 "ทักษิณ" ที่ศาลยกฟ้อง

เร่งระบายน้ำออก "ทุ่งบางระกำ" คาด 30 พ.ย.เหลือน้ำในทุ่ง 100 ล้าน ลบ.ม.