ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

แนะ "อนุทิน" ต้องแยกปมมั่นคง ออกจากการค้า

การเมือง
13:37
121
แนะ "อนุทิน" ต้องแยกปมมั่นคง ออกจากการค้า

เมื่อวานนี้ (17 พ.ย.) รัฐบาลเปิดแถลงข่าว ย้ำในแนวปฏิบัติ ทั้งในส่วนของกระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงพาณิชย์ จากกรณีสถานการณ์ชายแดน "ไทย-กัมพูชา" ประกอบกับเงื่อนไขที่สหรัฐฯ "ระงับชั่วคราว" กรณีภาษีนำเข้า-ส่งออกสินค้า

ในขณะเดียวกัน ก็เป็นที่สังเกตว่า นายกรัฐมนตรี กลับข้อสั่งการใหม่ จากเมื่อวันที่ 17 พ.ย.2568 ได้มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี เรียกประชุม สมช.เป็นเตรียมประชุมด้วยตัวเอง ในวันศุกร์ที่ 21 พ.ย.นี้ ซึ่งเป็นที่สังเกตว่า เกี่ยวข้องกันหรือไม่ กับการพลิกแผน แยกปมมั่นคงออกจากปัญหาการค้า 

น่าจะเกี่ยวข้องกันกับแรง "กดดัน" จากมหาอำนาจตะวันตก ที่ล่าสุด นายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล มีข้อสั่งการใหม่ เตรียมถก สมช.เต็มคณะ วันศุกร์นี้ด้วยตัวเอง เพื่อเปลี่ยนยุทธศาสตร์ ทั้งความมั่นคง-เศรษฐกิจและการต่างประเทศ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ สั่งด่วนให้รองนายกฯ "พิพัฒน์ รัชกิจประการ" เรียกประชุม

เรียกว่า กลับมาตึงเครียด อีกครั้ง หนึ่ง คือ กัมพูชา ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงใน "ปฏิญญา-กัวลาลัมเปอร์" เดิมนายกฯ อนุทิน สั่งข้ามน้ำ-ข้ามทะเลมาจากจีน ให้รองนายกฯ "พิพัฒน์ รัชกิจประการ" ถก สมช.รับมือกับสถานการณ์ชายแดน เหตุกำลังพล เหยียบทุ่นระเบิดใหม่ แต่ก็มีข้อสังเกตว่า สั่งรอบใหม่ ให้เลื่อนออกไปก่อน

นั่นก็อาจเกี่ยวข้องกับประเด็นที่สอง คือ นายกฯ อนุทิน จะเรียกประชุม สมช.เอง วันศุกร์นี้ โดยมีรายงานว่า จะกางยุทธศาสตร์ทุกด้าน โดยเฉพาะ "มั่นคง-เศรษฐกิจและการต่างประเทศ" เพื่อพลิกแผนใหม่ทั้งหมด เบื้องต้นให้ "กลาโหม" สั่งกองทัพบกคงกำลังพลไว้ และให้คงอาวุธหนัก ใน 7 จังหวัดชายแดน ที่ติดกับกัมพูชาไว้

ท่ามกลางข้อสังเกตว่า นายกฯ อนุทิน ดึง 2 เรื่องเข้ามาผูกโยงกัน คือปมความมั่นคงกับปัญหาการค้า น่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้การประชุม สมช. เมื่อวานนี้ เลื่อนออกไป เป็นรอให้ นายกฯ กลับมาถกเองในวันศุกร์นี้ แต่เพื่อการสื่อสารกับประชาชน จึงจัดโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมทีมต้องมาแถลงชี้แจง แยก 2 เรื่องออกจากกัน

การเจรจาทางการค้า ที่แม้จะแจ้ง "ระงับชั่วคราว" กรณีภาษีต่างตอบแทน โดยให้กลับไปอยู่ที่ 19% แต่ พาณิชย์ ยังคงชี้ถึงเป้าหมายเดิม สิ้นปีจะแล้วเสร็จทุกอย่าง แต่ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ระบุด้วยว่าคู่ขนานกันนี้ ไทยยังต้องแสวงหาความร่วมมือ และหาตลาดใหม่ไปด้วย (เหมือนจะรองรับสถานการณ์บางอย่างไหม)

และน่าจะเป็นข้อมูลชุดเดียวกัน กรณีข้อกำชับจากนายกฯ อนุทิน กับการแถลงของทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินหน้าเก็บกู้ทุ่นระเบิด เร่งปราบปรามสแกมเมอร์ คงกำลังพลไว้ชายแดน และให้คงอาวุธหนักไว้ โดย "กลาโหม" ย้ำว่า กัมพูชาเป็นผู้ละเมิดปฏิญญา ด้วยการวางทุ่นระเบิดใหม่ และอยู่ในข่ายรุนแรงกว่าเดิมอีก

ส่วน "การต่างประเทศ" ทั้งข้อกำชับและการแถลงตรงกัน ให้เสนอมาตรการทางการทูต ผ่านหนังสือและเวทีต่างประเทศ และติดตามหนังสือชี้แจงไปยังสหรัฐฯ และมาเลเซียด้วย

ในขณะเดียวกัน ก็มีรายงานว่า แผนความมั่นคงที่จะกำหนดกันใหม่ในวันศุกร์นี้ ผู้บัญชาการทางการทหาร ทั้ง 3 เหล่าทัพ  จะถกกันก่อน 18 พ.ย. จากนั้นจะสรุปและเสนอแผนที่ว่านี้ ต่อสภากลาโหม ในวันที่ 19 พ.ย. หนึ่งในนั้นต้องมีแผนรับมือกับเหตุฉุกเฉินด้วย เพื่อต่อ สมช.

ท่ามกลางข้อสังเกตตัดสินใจผิด ไหม นายกฯ อนุทิน การนำถก ครม.วันนี้ คงต้องชี้แจงทุกมิติเช่นกัน ก่อนจะนั่งเป็นประธาน ถก สมช.เต็มคณะ ในวันศุกร์ และแยกแผนปฏิบัติการ ทางการทหาร ออกจาก การค้า-การลงทุน ที่สำคัญมีสัญญาณอะไร จากประเทศมหาอำนาจ ทั้งสหรัฐฯ และจีน ซึ่งนายกฯ ก็ต้องชี้แจงต่อสาธารณชนด้วย มั่นคง การค้า การลงทุน ก็ต้องแยกออกจากการเมือง

อ่านข่าว :

“เอกนิติ” ยืนยันเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ ยึดกรอบเดิม

"เพื่อไทย" ตั้ง "จาตุรนต์" นั่ง ปธ.ยุทธศาสตร์ เตรียมสู้ศึกเลือกตั้ง

"ณัฐพล" ยืนยันไม่ปล่อยตัว 18 เชลยศึก พร้อมเดินหน้าเก็บกู้ทุ่นระเบิดชายแดนไทย