ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ทบ.ซัดกัมพูชาสร้างข่าวปลอม มุ่งทำลายชื่อเสียงไทยต่อนานาชาติ

การเมือง
07:14
148
ทบ.ซัดกัมพูชาสร้างข่าวปลอม มุ่งทำลายชื่อเสียงไทยต่อนานาชาติ
โฆษกกองทัพบกชี้แจงข้อเท็จจริง โต้กระบวนการสร้างข่าวปลอมของกัมพูชากรณีการกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ทหารพรานไทย เหนี่ยวกักขัง ทำร้ายร่างกายแรงงานกัมพูชา ที่มุ่งทำลายชื่อเสียงประเทศไทยในเวทีโลก เรียกร้องให้มีความซื่อตรง จริงใจต่อการแก้ปัญหา

วันที่ 18 พ.ย.2568 ตามที่ปรากฏการนำเสนอข่าวผ่านสื่อมวลชน รวมถึงแถลงการณ์จากหน่วยงานภาครัฐ องค์กรภาคประชาสังคม และองค์กรสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง ในห้วงวันที่ 17 - 18 พ.ย.2568 โดยมีการกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ทหารพรานไทย จำนวน 7 นาย ได้กระทำการหน่วงเหนี่ยวกักขัง ทำร้ายร่างกาย ปล้นทรัพย์ และล่วงละเมิดทางเพศแรงงานชาวกัมพูชา ณ บริเวณชายแดนจังหวัดพระตะบอง นั้น

พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่สาธารณชน ดังนี้

จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง ยืนยันได้ชัดเจนว่าเป็น "ข่าวปลอม" (Fake News) ซึ่งทันทีที่ปรากฏข่าวดังกล่าว ฝ่ายไทยได้สั่งการให้หน่วยทหารที่รับผิดชอบพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ติดกับ จ.พระตะบอง ได้แก่ กองกำลังบูรพา (จ.สระแก้ว) และประสานงานร่วมกับ กองทัพเรือ (จ.จันทบุรี และ จ.ตราด) ดำเนินการตรวจสอบอย่างเร่งด่วน โดยสอบสวนทหารพรานและชุดปฏิบัติการลาดตระเวนทุกชุดที่ปฏิบัติหน้าที่ในคืนวันที่ 15 พ.ย.2568 (ตามเวลาที่ถูกกล่าวหา) ผลปรากฏว่าไม่พบเหตุการณ์ตามที่ถูกกล่าวหา และ ไม่มีการตรวจพบหรือจับกุมกลุ่มแรงงานต่างด้าวจำนวน 13 คน ในวันและเวลาดังกล่าวแต่อย่างใด

ข้อสังเกตต่อขบวนการบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร (Information Operation) โดยกองทัพบกมีความกังวลเป็นอย่างยิ่งต่อรูปแบบการนำเสนอข่าวและท่าทีของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งส่อเจตนาถึง "กระบวนการปฏิบัติการข่าวสาร" ที่มีการเตรียมการและประสานงานกันอย่างผิดสังเกต ทั้งในด้านความสอดประสานของเวลา โดยมีการออกแถลงการณ์โจมตีฝ่ายไทยอย่างพร้อมเพรียงจากหลายหน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงแรงงานฯ กระทรวงวัฒนธรรมฯ สหภาพแรงงาน และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนกัมพูชา (CHRC) ภายในระยะเวลาเพียง 1-2 วัน

นอกจากนี้ ยังปรากฏการผลิตซ้ำชุดข้อมูลเดิม โดยทุกแถลงการณ์ใช้ข้อมูลเดียวกัน ซึ่งยังไม่ผ่านการพิสูจน์ข้อเท็จจริงร่วมกัน แต่กลับด่วนสรุปกล่าวโทษไทยและอ้างกฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อมุ่งทำลายภาพลักษณ์ของประเทศไทยในเวทีโลก

ที่สำคัญ ฝ่ายกัมพูชาใช้วิธี ตัดตอนพยานหลักฐาน โดยอ้างว่าเหยื่อถูกปล่อยตัวกลับประเทศแล้ว จึงค่อยมาแจ้งเหตุ ทำให้ฝ่ายไทยไม่สามารถตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุหรือพิสูจน์ทราบตัวบุคคลได้ในทันที ซึ่งผิดวิสัยการปฏิบัติงานชายแดนปกติ ที่ต้องมีการประสานข้อมูลกันอย่างใกล้ชิด

กองทัพบกขอยืนยันว่า ทหารพรานไทยยึดถือระเบียบวินัยและเคารพหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด การกล่าวหาทหารไทยในเรื่อง "ข่มขืน รีดไถ ทุบตี" อาจเป็นเพียงการให้ข้อมูลเท็จของบุคคลที่ทำทีเป็นผู้เสียหาย ที่มีลักษณะมีกลุ่มกระบวนการคอยใส่ร้ายป้ายสีคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง มีการแบ่งหน้าที่กันทำ เป็นการสมคบคิดกันจัดฉากใส่ร้ายทหารไทย

ทั้งนี้อาจเพียงเพื่อต้องการจะเบี่ยงเบนประเด็นความสนใจเรื่อง ทุ่นระเบิด และ เรื่อง Cyber Scam ที่กำลังถูกจับจ้องจากนานาชาติและสังคมโลก

สำหรับกรณีที่รองโฆษกกระทรวงมหาดไทยกัมพูชาระบุว่า คำชี้แจงของไทยคือการบิดเบือนนั้น ขอเรียนว่า "ความจริงต้องพิสูจน์ด้วยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่การระดมออกแถลงการณ์โจมตีฝ่ายเดียว" การด่วนสรุปโดยไม่ผ่านกลไกทวิภาคีใดๆ สะท้อนให้เห็นถึงเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์

ฝ่ายไทยคงจะไม่ยอมรับการกระทำอันใดที่ยังมีลักษณะเข้าข่ายถึงความเป็นปฏิปักษ์ต่อกันในลักษณะเช่นนี้ และขอเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชาได้มีความซื่อตรง แสดงความจริงใจต่อการแก้ปัญหา และยุติการใช้กลไกของรัฐมาสร้าง และสนับสนุนการสร้างเรื่องราวที่เป็นเท็จ เพื่อใช้หลอกลวงนานาชาติและสังคมโลก

กัมพูชาชี้ทหารไทยล่วงละเมิดทางเพศแรงงานชาวกัมพูชา

ในวันเดียวกัน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติกัมพูชา หรือ ซีเอชอาร์ซี เผยแพร่แถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรงอย่างไร้มนุษยธรรมโดยทหารไทยต่อแรงงานชาวกัมพูชา 

ซีเอชอาร์ซีเรียกร้องไปยังทางการไทยให้เร่งนำตัวผู้กระทำความผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยทันที พร้อมทั้งรับประกันว่าจะมอบความยุติธรรมและการชดเชยให้แก่ผู้เสียหาย

นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศร่วมกดดันให้รัฐบาลไทยรับผิดชอบต่อกรณีดังกล่าวและปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้หลักสิทธิมนุษยชนและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งการดำเนินการที่ล่าช้าจะยิ่งทำให้ไทยถูกมองว่าเป็นรัฐที่บ่อนทำลายหลักนิติธรรมและปกป้องผู้กระทำความผิด

ด้านกระทรวงแรงงานและอาชีวศึกษากัมพูชาออกแถลงการณ์ประณามกรณีดังกล่าวเช่นกัน โดยระบุว่าแรงงานหญิงคนดังกล่าวอยู่ในกลุ่มแรงงานชาวกัมพูชา 13 คน ที่ถูกทหารไทยกลุ่มเดียวกันทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง ข่มขู่และรีดไถ หลังพยายามข้ามพรมแดนกลับประเทศจาก จ.จันทบุรี ซึ่งกระทรวงแรงงานกัมพูชายังคงเดินหน้าดำเนินมาตรการทางกฎหมาย พร้อมทั้งดูแลทางร่างกายและจิตใจของผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ยังเรียกร้องไปยังหน่วยงานระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง ทั้งองค์การแรงงานระหว่างประเทศ องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ รวมถึงยูเอ็น วีเมน (UN Women) คอยติดตามและกดดันให้ทางการไทยดำเนินการสอบสวนกรณีนี้อย่างโปร่งใสทันที

กระทรวงมหาดไทยกัมพูชาออกแถลงการณ์ประณามเช่นกัน อ้างว่าทหารไทยใช้ปืนข่มขู่เพื่อกรรโชกทรัพย์และใช้ความรุนแรงต่อแรงงานชาวกัมพูชา โดนเฉพาะกรณีล่วงละเมิดแรงงานหญิงชาวกัมพูชาวัย 18 ปี

กระทรวงมหาดไทยกัมพูชาใช้โอกาสออกแถลงการณ์ฉบับนี้ให้คำแนะนำแก่พลเมืองกัมพูชา รวมถึงแรงงานชาวกัมพูชาในไทยที่ประสงค์เดินทางกลับประเทศ โดยแนะนำให้ใช้จุดผ่านแดนที่เป็นทางการเท่านั้น และขอให้ครอบครัวเมื่อเดินทาง หรือแจ้งข้อมูลที่เกี่ยวข้องแก่เจ้าหน้าที่ที่ประจำการตามจุดผ่านแดน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยงและอันตรายต่างๆ ซึ่งรวมถึงเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกับกรณีที่กล่าวถึงข้างต้น

ก่อนหน้านี้เดอะ พนมเปญ โพสต์ รายงานว่าสหภาพ องค์กร สมาคมและชุมชนรวม 216 แห่งของกัมพูชา ออกแถลงการณ์ร่วม ประณามกรณีทหารไทยล่วงละเมิดแรงงานชาวกัมพูชา โดยระบุว่าการล่วงละเมิดที่โหดร้ายและไม่อาจยอมรับได้นี้ ไม่เพียงแต่เป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรมเท่านั้น แต่ยังละเมิดหลักการด้านมนุษยธรรมของอาเซียน ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมและรับประกันสิทธิมนุษยชนในภูมิภาคด้วย พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการสอบสวนอย่างเร่งด่วน

อ่านข่าว :

"สื่อเขมร" ปล่อยข่าวปลอม กล่าวหา จนท.ไทยล่วงละเมิดผู้ต้องหา

คนไทยเสียชีวิตเพิ่ม 1 คน โยงขบวนการคอลเซนเตอร์ในปอยเปต

"พ.อ.เกรียงไกร" เผยเริ่มปักหมุดชั่วคราว "บ้านหนองหญ้าแก้ว" 19 พ.ย.นี้