ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

นายกฯ แถลงจับเครือข่ายส่วยสัญชาติทุจริตสวมบัตรเอื้อจีนเทา สั่งฟันนายอำเภอ

การเมือง
13:37
56
นายกฯ แถลงจับเครือข่ายส่วยสัญชาติทุจริตสวมบัตรเอื้อจีนเทา สั่งฟันนายอำเภอ
นายกรัฐมนตรี แถลงผลปฏิบัติการ "ตัดหมอก เวียงแหง" ปราบขบวนการสวมสิทธิ - ปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ บอกน่าอับอายมีข้าราชการเอี่ยวทุจริตใช้ช่องว่างทะเบียนราษฏรหาผลประโยชน์ โยงทุนจีนสีเทา โวลงดาบนายอำเภอครั้งแรก

วันนี้ (20 พ.ย.2568) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย เป็นประธานในการแถลงผลการดำเนินคดี และ ขบวนการสวมสิทธิและทำหลักฐานเท็จในพื้นที่ อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ และผลปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ ณ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 โดยมี พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาคที่ 5 ฝ่ายปกครอง สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สืบเนื่องจากกรณีการทุจริตเรียกรับผลประโยชน์ ในการขอมีสถานะคนต่างด้าว เข้าเมืองโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งสื่อมวลชนเรียกว่า ส่วยสัญชาติ ซึ่งรัฐบาลเห็นว่า เป็นการบ่อนทำลายนิติรัฐ นิติธรรม และเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ จึงสั่งการให้กระทรวงมหาดไทย เร่งรัดการตรวจสอบ และแก้ปัญหาโดยทันที ซึ่งต้องขอขอบคุณทุกหน่วยงานทั้ง กรมการปกครอง ตำรวจสอบสวนกลาง ป.ป.ท. , ป.ป.ช.และ ดีเอสไอ ที่ร่วมกันบูรณาการสืบสวนสอบสวน ขยายผล พบว่าเป็นขบวนการทุจริตที่เชื่อมโยงไปถึงกลุ่มจีนเทา ที่เป็นภัยกับความมั่นคงของชาติ จึงได้บูรณาการเปิดปฏิบัติ "ตัดหมอก เวียงแหง" เพื่อตรวจสอบและปราบปรามการทุจริตที่เกี่ยวกับการให้สิทธิอาศัยถาวรของคนต่างด้าวโดยมิชอบ โดยจากการสืบสวนและขยายผล พบว่าขบวนการนี้เกี่ยวข้องกับทุนจีนสีเทา ซึ่งเป็นภัยความมั่นคงของชาติ

นายกรัฐมนตรี ระบุว่ามติ ครม.เรื่องนี้ เกิดขึ้นในสมัยที่ตนเป็น รมว.มหาดไทย และมีผลเริ่มกระบวนการยื่นขอสถานะ และเกิดขึ้นในช่วงที่ตนได้พ้นตำแหน่งไป และเมื่อตนกลับมามีอำนาจเต็ม ในฐานะนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ได้สั่งการให้กรมการปกครอง สืบสวนสอบสวน ร่งดำเนินการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดอย่างเร็วที่สุด เช่นกรณี อ.ฝาง ที่มีผู้ใหญ่บ้านเรียกรับเงินจากผู้มีสิทธิ ก็มีการสอบสวนวินัยและปัจจุบันได้ถูกลงโทษให้ออกจากราชการแล้ว

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่าเรื่องนี้ถือเป็นสิ่งที่น่าอับอายและเลวร้ายที่กลุ่มขบวนการนี้มีเจ้าหน้าที่รัฐบางรายมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ที่ไปหาประโยชน์กับสิทธิของคนที่รอกว่า 4.8 แสนคนที่มีสิทธิได้รับสัญชาติไทย ซึ่งบางคนรอคอยมากว่า 30-40 ปี ซึ่งเราได้รับการชื่นชมจากสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR ในการยุติการไร้สัญชาติ แต่กลับมีการหาผลประโยชน์กับสิทธิของคนเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น

อีกทั้งแสดงให้เห็นว่า ประเทศไทยให้ความสำคัญกับการกระทำที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมถึงการใช้ช่องว่าง ของระบบทะเบียนราษฎร และสัญชาติเพื่อหาผลประโยชน์ให้กับกลุ่มจีนเทา ถือเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้เพราะถือเป็นการเปิดทางให้กับอาชญากรรมข้ามชาติ และธุรกิจผิดกฎหมายเข้ามาปลอมแปลงตัวตน ซึ่งมีผลกระทบต่อความมั่นคงโดยตรงกับประเทศ โดยรัฐบาลจะทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้เกิดสิ่งเหล่านี้

จากข้อมูลทราบว่า ที่ อ.เวียงแหง เหมือนเป็นเมืองหลวงของการทุจริตในการสวมสิทธิสถานะบุคคลมาอย่างยาวนาน เพราะทำมาต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2554 และเคยมีการจับกุมดำเนินคดีระดับปลัดอำเภอในคดีนี้ ถูกตัดสินจำคุก 5 ปี และอีกคดีในปี 2563 ซึ่งถูกลงโทษให้ออกจากราชการแล้ว แต่ยังกลับมาเกิดขึ้นซ้ำอีกในปีนี้ จึงเป็นเหตุให้กระทรวงมหาดไทยต้องขอความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้น ดำเนินการล้างบางให้สิ้นซาก ไม่ให้กระทำผิดซ้ำอีก

การจับกุมขบวนการทุจริตครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่กระทรวงมหาดไทย ออกหมายจับระดับนายอำเภอ ซึ่งเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตนเพียงเล็กน้อย ต้องแลกมาด้วยกับความก้าวหน้าทางราชการ สะท้อนให้เห็นเจตนารมณ์ของรัฐบาลว่า ตั้งใจทำให้เห็นว่า ตั้งใจจริง เอาจริง และปราบปรามต่อ กระบวนการนี้ที่ก่อให้เกิดภัยความมั่นคงแห่งชาติและความมั่นคงไม่ว่าจะตำแหน่งหรือสถานะใดก็ตาม

ทั้งนี้ ตนในฐานะนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เราจะเดินหน้าแก้ไขปัญหาเช่นนี้ต่อไป เพื่อความมั่นคงแน่วแน่ ทำบ้านของเราให้สะอาด ฟื้นความเชื่อมั่นของพี่น้องประชาชน ปกป้องความมั่นคงของประเทศไทยอย่างเต็มกำลัง

นายกรัฐมนตรียังได้รายงานผลการปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญที่ใช้เป็นเส้นทาง ลำเลียงยาเสพติดจากนอกประเทศเข้าสู่ประเทศไทย และกระจายไปยังภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หน่วยงานด้านความมั่นคง ทหารตำรวจ ป.ป.ส. รวมถึงฝ่ายปกครอง ได้บูรณาการกำลังอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งด้านข่าวกรอง การปิดล้อมตรวจค้น การสกัดกั้นตามเส้นทางธรรมชาติ และการขยายผลไปถึงผู้สั่งการและเครือข่ายทางการเงิน

ซึ่งผลการปฏิบัติการในรอบล่าสุด มีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม โดยสามารถยึดของกลางยาเสพติดเป็นจำนวนมาก ทั้งยาบ้ายาไอซ์หลายรายการ และสามารถจับกุมผู้ต้องหา ในขบวนการลำเลียงและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมพยานหลักฐานที่สามารถนำไปขยายผล ต่อยอดได้ ความสำเร็จในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการเดินหน้า ปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ด้วยปฏิบัติการ "ตัดวงจรทั้งระบบ" ตั้งแต่ผู้ผลิต ผู้ลำเลียง ผู้ค้ารายย่อย ไปจนถึงเครือข่ายการเงินที่อยู่เบื้องหลัง เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ถึงที่สุด

รัฐบาลได้ประกาศเป็นศัตรูกับผู้ค้ายาเสพติดในทุกรูปแบบและต้องการแสดงให้เห็นว่า ผู้ฝักใฝ่หรือเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจะต้องได้รับโทษอย่างรุนแรงรัฐบาล พร้อมสนับสนุนการทำงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่

นายกรัฐมนตรียังได้ชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้เกี่ยวข้องทุกนาย ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่น เสียสละ และทุ่มเทแรงกายแรงใจ ในการสกัดกั้น และปราบปรามยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง ไม่มีวันท้อถอย การปฏิบัติหน้าที่ของทุกท่าน ถือเป็นแบบอย่างแห่งความ รับผิดชอบ และเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้สังคมไทยปลอดภัยและปลอดยาเสพติด จากอาชญากรรมประเภทอื่นๆ เช่น ออนไลน์ สแกมเมอร์ บ่อนการพนันการฟอกเงิน และธุรกิจสีเทาอย่างยั่งยืน

พร้อมเชิญชวนประชาชน ร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในภารกิจสำคัญนี้ ไม่ว่าจะโดยการแจ้งเบาะแส ดูแลคนในครอบครัวด้วยความรักความเข้าใจ สนับสนุนการบำบัด และ ร่วมรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด ต่อต้านการกระทำที่ผิดกฎหมาย เพื่อปกป้องลูกหลานของเรา และเพื่อสังคมที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน

อ่านข่าว :

"อนุทิน" ยิ้มรับเสียงวิเคราะห์ชี้ "ศุภจี" ช่วยดึงคะแนนภูมิใจไทย

นายกฯ บินเชียงใหม่ตามคดีจับยาเสพติด 10 ล้านเม็ด-ออกบัตร ปชช.เถื่อน

"วราเทพ" คัมแบ็กเพื่อไทย ส่งลูกชายลง สส.กำแพงเพชร