ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

“พริษฐ์” เปรียบ "อนุทิน" ผู้รับเหมาทิ้งงาน หากยุบสภา 12 ธ.ค.นี้

การเมือง
13:42
63
“พริษฐ์” เปรียบ "อนุทิน" ผู้รับเหมาทิ้งงาน หากยุบสภา 12 ธ.ค.นี้
“พริษฐ์” กล่อม “อนุทิน” หากยุบสภา 12 ธ.ค.นี้ ไม่เป็นผลดีแน่นอน เหตุประกาศเป็นแคนดิเดตนายกฯ ไปแล้ว ฉายภาพเหมือนผู้รับเหมาทิ้งงาน เชื่อเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ ระบุชัดไม่อยากให้ยุบสภาหนีศึกซักฟอก ปัดตอบผิด MOA หรือไม่ บอกเคารพสิทธิ “เพื่อไทย” หากจะยื่น

วันนี้ (21 ธ.ค.2568) เวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ระบุว่า กรณียุบสภาวันที่ 12 ธ.ค.นี้ หากมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งอาจจะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญได้รับผลกระทบไปด้วย ว่า ตนเองเคยพูดไว้ว่าหากนายกรัฐมนตรี จะยุบสภาเพื่อหลีกหนีการตรวจสอบ หรือปัดความรับผิดชอบเรื่องรัฐธรรมนูญ ก็ไม่ต่างอะไรกับผู้รับเหมาที่ทิ้งงาน หรือปิดกิจการ เพื่อหนีการตรวจสอบ

นายพริษฐ์ กล่าวว่า แม้เวลานี้ยังมีการถกเถียงในเชิงข้อกฎหมายอยู่ว่าเมื่อยื่นอภิปรายแล้วจะยุบสภาได้หรือไม่ ตนคิดว่าเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญก็เขียนไว้ชัดว่าไม่ต้องการให้นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจในการยุบสภาหนีการตรวจสอบ แม้ว่าจะถกกันว่ากฎหมายตีความอย่างไร ตนคิดว่าในเชิงความรับผิดรับชอบทางการเมือง หากนายกรัฐมนตรีตัดสินใจยุบสภา ก็ย่อมไม่ส่งผลดีต่อมุมมองของประชาชนที่มีต่อนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะในสนามเลือกตั้งที่จะมาถึง

นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่า ส่วนเงื่อนไขของพรรคประชาชนเรื่องการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ได้ประกาศชัดเจนใน 3 เงื่อนไข ได้แก่ 1.หากนายกรัฐมนตรีไม่ยุบสภาภายในวันที่ 31 ม.ค.2569 ก็จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะถือว่าขัดเงื่อนไข MOA 2.หากการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่เสร็จสิ้นในวาระ 3 ภายในสิ้นปีนี้ จะยื่นอภิปราย 3.นอกเหนือจาก 2 เงื่อนไขข้างต้น หากมีการดำเนินนโยบายอะไรที่เห็นว่าสร้างความเสียหายให้ประชาชน จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ

แต่แน่นอนว่าเราไม่ได้เป็นฝ่ายค้านพรรคเดียว ซึ่งเป็นสิทธิอันชอบธรรมของพรรคอื่นที่จะพิจารณายื่นอภิปรายตามมาตรา 151 ด้วยเงื่อนไขของตัวเอง แต่หากเป็นเช่นนั้น เราก็พร้อมที่จะทำหน้าที่ของเราในสภา

เมื่อถามว่าหากยุบสภาในวันที่ 12 ธ.ค. โดยที่รัฐธรรมนูญยังแก้ไขไม่เสร็จ จะถือว่าพรรคภูมิใจไทยผิดข้อตกลงกับพรรคประชาชนหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าชัดเจน ว่า MOA ที่ลงนามกันไว้ มี 2 ประเด็นหลัก คือ ต้องมีการยุบสภาภายใน 31 ม.ค.2569 และการผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อนำไปสู่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และหากไม่มี 2 คำถามในการทำประชามติพร้อมกับการเลือกตั้งก็ถือว่าผิดเงื่อนไข MOA

เมื่อถามว่าสิ่งที่นายกรัฐมนตรีพูดนั้นเป็นความพยามยามส่งสัญญาณทางการเมืองอะไรหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ไม่รู้ว่าเบื้องหลังเป็นอย่างไร แต่ตนขอย้ำจุดยืนเดิมว่าถ้ายุบสภา ก็เหมือนผู้รับเหมาทิ้งงาน หรือปิดกิจการเพื่อหนีการตรวจสอบ แต่ช่วงใกล้เลือกตั้งแบบนี้ก็คงไม่ส่งผลดีต่อตัวนายกรัฐมนตรี เพราะนายอนุทินได้ประกาศไปแล้วว่าจะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยไปแล้ว

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าเสียงโหวตในสภา พรรคประชาชนอาจต้องเลือกว่าจะเป็นฝ่ายค้ำรัฐธรรมนูญและฝ่ายค้ำรัฐบาลหรือไม่ เพราะนายกฯ ระบุว่าไม่ได้กลัวการซักฟอก แต่กลัวเสียงโหวตในสภา นายพริษฐ์ กล่าวว่า เงื่อนไขและท่าทีของเราชัดเจนว่าการยื่นอภิปรายเป็นอย่างไร และชัดเจนมาตลอดว่าในการเซ็น MOA ที่ตั้งใจให้คนที่เป็นคู่สัญญาของเรา ไม่ว่าวันนั้นจะเป็นใครก็ตามมาดำรงสถานะในรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพื่อให้สามารถใช้กลไกอภิปรายไม่ไว้วางใจควบคุมให้รัฐบาลเสียงข้างน้อยรักษาสัญญาตามเงื่อนไข MOA การที่เราคงสถานะเป็นฝ่ายค้าน นอกจากจะสอดคล้องกับสิ่งที่ประกาศมาโดยตลอดว่าจะเป็นฝ่ายค้านไปตลอดสภาชุดนี้ อีกส่วนก็เพื่อให้เราคงสถานะอิสระในการตรวจสอบรัฐบาล โดยใช้กลไกรัฐสภาในการตรวจสอบ

เมื่อถามว่าหากยุบสภาก่อนจนทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญไปไม่ถึงปลายทาง พรรคประชาชนจะสนับสนุนนายกรัฐมนตรีในการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า คงไม่ใช่แค่พรรคประชาชนอยากเห็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไปสู่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ สิ่งที่เราพยายามทำ คือการจูงมือทุกฝ่าย เพื่อทำให้การผลักดันร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จเร็วที่สุด และเข้าใจดีว่าเรื่องนี้จะสำเร็จได้ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย

ส่วนการชะลอการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเป็นผลดีกับทุกฝ่ายหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนเคารพสิทธิ และเป็นสิทธิของพรรคเพื่อไทยในการตัดสินใจว่าจะอภิปรายหรือไม่ ยื่นใคร และยื่นเมื่อใด

อ่านข่าว : ยุบสภาฯ ก่อนยื่นซักฟอก เกมตัดคู่แข่ง? 

"เพื่อไทย" เปิดตัว "บ้านใหญ่อัศวเหม" "อนุทิน" ไม่ตอบ "ตัดขาดกันเลยหรือ?" 

"ภราดร" รับถ้ายุบสภา 12 ธ.ค.นี้ แก้รัฐธรรมนูญไม่ทันแน่