ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

จากจักรวาลสู่เม็กซิโก สะพัด! "แอน จักรพงษ์" แปลงคริปโตฯ 6 พันล้านบาทออกนอกประเทศ

จากจักรวาลสู่เม็กซิโก สะพัด! "แอน จักรพงษ์" แปลงคริปโตฯ 6 พันล้านบาทออกนอกประเทศ
อ่านให้ฟัง
09:39อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ดรามาผลการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2025 ยังไม่ทันจาง ข่าวคราวของอดีตผู้บริหารกิจการจัดการประกวด Miss Universe Organization (MUO) ก็สร้างความวิตกให้กับผู้ลงทุนรายย่อย และผู้ถือหุ้นกู้ บริษัท JKN Global Group Public Company Limited หรือ หุ้น JKN

หลัง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการ กล่าวในรายการเมื่อวันศุกร์ ที่ 21 พ.ย.2568 อ้างว่า นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ หรือ "แอน จักรพงษ์" ได้รับความช่วยเหลือจาก นายราอูล โรชา คานตู ประธาน MUO คนปัจจุบัน ขอสัญชาติ เม็กซิกัน ก่อนแปลงเงินเป็นคริปโตเคอร์เรนซี มูลค่า 6,000 ล้านบาท และเดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว รวมถึงมีกระแสข่าวว่าปิดอินสตราแกรมที่มีผู้ติดตามกว่า 6,600,000 คน

ที่มา : annejkn.official

ที่มา : annejkn.official

ย้อนความสำเร็จ "แอน จักรพงษ์" สู่วันดิ่ง "ผิดนัดชำระหุ้นกู้-บัญชีเท็จ-ปั่นหุ้น"

นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ หรือ "แอน จักรพงษ์" ผู้บริหารบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ จากการนำเข้าและส่งออกลิขสิทธิ์รายการโทรทัศน์ สารคดี การ์ตูน แต่ที่เป็นมีกำไรมากที่สุด ได้แก่ กลุ่มรายการจาก ซีรีย์อินเดีย จนได้รับฉายา "เจ้าแม่ภารตะพันล้าน" ก่อนต่อยอดธุรกิจผลิตอาหารเสริม และซื้อกิจการ ของ Miss Universe Organization (MUO) ซึ่งเป็นผู้จัดการประกวดนางงามจักรวาล หรือ Miss Universe มูลค่า 20,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 800 ล้านบาท ในเดือน ต.ค.2565

ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รายงานผลประกอบการ JKN ในปี 2565 ทำรายได้ได้สูงถึง 2,423 ล้านบาท กำไรสุทธิ 318.35 ล้านบาท

หลังซื้อกิจการ มิสยูนิเวิร์ส หุ้น JKN กลายเป็นหุ้นลิ่งตัวหนึ่งของ นักลงทุนเก็งกำไร เพราะการเคลื่อนไหวของราคาที่ร้อนแรง จากหุ้นราคา 8 บาท ไต่ทำราคาสูงสุดที่ 16 บาท หลังผู้บริหารบริษัท ออกมาแถลงเปิดตัวผลิตภัณฑ์ "กัญชงแท้" รายแรกของไทย ซึ่งรัฐบาลในยุคนั้น ประกาศนโยบายกัญชาเสรี ซ้ำ ประกาศในเฟซบุ๊กของตัวเอง ชี้นำราคาหุ้น JKN จนถูก ก.ล.ต. ลงโทษทางแพ่ง ฐานเผยแพร่ข้อความอันอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อราคาหุ้น ปรับเป็นเงิน 2,000,000 บาท

ปี 2566 บริษัทกลับขาดทุนสุทธิ สูงถึง 2,157 ล้านบาท หลังล้มเหลวจากการจัดการกระแสเงินสด และภาระหนี้ ตลอดจน รายการายจ่ายในการตั้งสำรองด้อยค่าสินทรัพย์ และการบันทึกค่าใช้จ่ายทางการเงินที่พุ่งขึ้น

เมื่อบริษัทขาดสภาพคล่อง จึงกระทบการจ่ายผลตอบแทนหุ้นกู้ ซึ่งถึงกำหนดไถ่ถอน เมื่อวันที่ 1 ก.ย.2566 ชุด JKN239A มูลค่ากว่า 609 ล้านบาท และลุกลามกระทบหุ้นกุ้ชุดอื่น ๆ มูลค่ารวม 2,256 ล้านบาท ถูกเรียกให้ชำระคืนพร้อมกัน ตามเงื่อนไข Cross default ส่งผลให้ ราคาหุ้นดิ่งลงเหลือ 0.80 บาท เมื่อวันที่ 10 พ.ย.2566 และถูกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แขวนป้าย พักการซื้อขาย sp จนถึงตอนนี้ รวม 2 ปีแล้ว

ปัญหาที่เกิดขึ้น ทำให้ JKN ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ ต่อศาลล้มละลาย เมื่อวันที่ 8 พ.ย.2566 และศาลรับคำร้อง เมื่อเดือน เม.ย.2567 ผู้ลงทุนรายย่อยของบริษัท พยายาม ร้องไปยัง ก.ล.ต. และกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอให้ อายัดทรัพย์สินของบริษัทและกรรมการบริษัท ไม่ได้ยักย้ายถ่ายโอนทรัพย์สินแต่กิจการบริษัท เข้าแผนฟื้นฟูกิจการแล้ว ทำให้ การจัดการทรัพย์สินใด ๆ อยู่ภายใต้กรมบังคับคดี

ปี 2567 ก.ล.ต. ตรวจสอบพบปัญหา JKN ยื่นงบการเงินเท็จ บันทึกรายการหนี้ปลอม โดยเฉพาะ ภาระหนี้ลิขสิทธิ์ ไม่ตรงกับช่วเวลาที่ถูกต้องทางบัญชี สอดคล้องกับ ผู้สอบบัญชี ยังพบพิรุธธุรกรรมการซื้อลิขสิทธิ์ ทั้งซื้อซ้ำ ซื้อเยอะ ไม่สมเหตุสมผลทางธุรกิจ ทั้งที่ บริษัท ขาดสภาพคล่อง

เปลี่ยนมือ สู่ "ราอูล" อย่างลับ ๆ

เม.ย.2567 ก.ล.ต. กล่าวโทษ "แอน จักรพงษ์" เผยแพร่ข้อมูลเท็จ หลังตรวจสอบพบว่า "แอน จักรพงษ์" ได้ขายหุ้นร้อยละ 50 ของบริษัท ให้กับ นายราอูล โรชา คานตู ตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค.2566 แต่เพิ่งมาเปิดเผยข้อมูลภายใน เมื่อวันที่ 22 ม.ค.2567

ขณะนั้น ยังไม่มีธุรกรรมจริง มีความผิด ตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 มาตรา 240 ปรับเป็นเงิน 4,120,000 บาท พร้อมกับห้ามเป็นกรรมการ หรือ ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนฯ 56 เดือน

ก.ค.2568 ก.ล.ต. สั่งให้บริษัท แก้ไขงบการเงินให้ถูกต้อง พร้อมเปิดเผยต่อสาธารณชน แต่เมื่อถึงกำหนด บริษัท ไม่สามารถรายงานข้อมูลได้ ก.ล.ต. ก็อนุญาตให้ขยายเวลา

ไม่เพียงคดีทางแพ่ง ตามกฎหมาย ก.ล.ต. "แอน จักรพงษ์" ยังต้องถูก ดีเอสไอ สอบสวนกรณีจงใจ รายงานงบเท็จ บัญชีปลอม เพื่อสิทธิออกเสียงในแผนฟื้นฟู ซึ่งถือเป็นความผิดร้ายแรง และระวางโทษทางอาญา

สำหรับความคืบหน้าคดี ขณะนี้ JKN อยู่ในภาวะ พักการชำระหนี้ หรือ Automatic stay เพื่อเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ แต่กระบวนการก็เป็นไปอย่างล่าช้า เพราะจนถึงตอนนี้ เพิ่งได้ ผู้บริหารแผน หลังศาล สั่งให้ บริษัทแกรนท์ ธอนตัน สเปเชียลิสท์ แอ็ดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด เป็นผู้บริหารแผนชั่วคราว

ที่มา : annejkn.official

ที่มา : annejkn.official

เกิดอะไรขึ้น หาก "แอน จักรพงษ์" หลบหนีระหว่างคดีฟื้นฟูกิจการ

ปัจจุบัน "แอน จักรพงษ์" ไม่ใช่ผู้บริหารบริษัท JKN เป็น นาย โคเฮน กิลเบิร์ต เดซิลวา เป็นประธานกรรมการบริษัท แต่ การปิดไอจีของ "แอน จักรพงษ์" สำทับกับข่าวการหลบหนีออกนอกประเทศ ทำให้ ผู้ลงทุนรายย่อย และผู้ถือหุ้นกู้ อาจกังวลผลกระทบต่อการสืบทรัพย์ เพื่อชำระคืนหนี้ โดยผู้ลงทุนรายย่อย ที่ได้รับผลกระทบ ไม่น้อยกว่า 3,000 คน คิดเป็นเงินเฉพาะ หุ้นกู้ ประมาณ 4,200 ล้านบาท

กรณีนี้ กระบวนการฟื้นฟูกิจการในศาลล้มละลาย ยังคงดำเนินต่อไป โดยมีผู้ทำแผนฯ เป็นผู้ดูแลบริษัท แต่ศาลอาจวินิจฉัยว่า บริษัทมีความเสี่ยงมากขึ้น และอาจกระทบไม่ให้แผนฟื้นฟูฯ ผ่าน นำไปสู่การล้มละลายจริง ของบริษัท ซึ่งเจ้าหนี้ หุ้นกู้ ยังสามารถยื่นขอรับชำระหนี้ได้ และได้สิทธิ ก่อนผู้ถือหุ้น ขณะที่ เจ้าของบริษัท อาจถูกหมายจับ หากมีความผิดคดีอาญา

แต่ที่สร้างความเสียหายที่สุด ในกรณีนี้ คือ เป็นอีกครั้ง ที่ตลาดทุนไทย มีแผลจากผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนฯ ที่ขาดธรรมาภิบาล โดยที่ระบบกำกับดูแลปัจจุบัน ยังไม่สามารถดูแลผู้ลงทุนรายย่อย ซึ่งหลายคนเป็นผู้อยู่ในวัยเกษียณ แต่ต้องรอคอยการชำระหนี้ ที่ไม่รู้วันสิ้นสุด เหมือนคดีก่อนหน้านี้ หลายคดี ซ้ำเติมความเชื่อมั่นอีกครั้งและอีกครั้ง

ที่มา : annejkn.official

ที่มา : annejkn.official

วิเคราะห์โดย : พรรณทิภา ภัทรวรเมธ
ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส

อ่านข่าวอื่น :

FAA เตือนสายการบิน "งดบิน" ผ่านน่านฟ้าเวเนซุเอลา ปมพิพาททรัมป์-มาดูโร

"ปัตตานี" น้ำเต็มเมือง ประกาศเขตภัยพิบัติ 13 อำเภอ รอรับน้ำจากยะลา