ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

พล.ต.วินธัย ย้ำปฏิบัติการทางอากาศที่ตั้งอาวุธ-ฐานโดรนกัมพูชา ยับยั้งโจมตีไทย

การเมือง
11:11
346
พล.ต.วินธัย ย้ำปฏิบัติการทางอากาศที่ตั้งอาวุธ-ฐานโดรนกัมพูชา ยับยั้งโจมตีไทย
อ่านให้ฟัง
04:25อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
โฆษกกองทัพบก ยืนยันความจำเป็นปฏิบัติการทางอากาศ ตอบโต้เน้นเป้าหมายทางทหาร ฐานที่ตั้งยิงอาวุธยิงสนับสนุน และฐานที่ตั้งโดรน ป้องกันความสูญเสียกำลังพล-ประชาชน เบื้องต้นมีรายงานทหารไทยเสียชีวิต 2 นาย เจ็บ 7 นาย

วันนี้ (8 ธ.ค.2568) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า เหตุการณ์เริ่มจากเมื่อวานนี้ (7 ธ.ค.2568) เวลา 14.15 น. กัมพูชาได้เปิดฉากยิงในพื้นที่บริเวณ ภูผาเหล็ก-พลาญหินแปดก้อน

จากนั้นเกิดเหตุอีกหลายพื้นที่ตลอดแนวชายแดน และมีโอกาสใช้อาวุธในพื้นที่อื่น ๆ ซึ่งการใช้อาวุธตอบโต้เป็นไปตามแผนเผชิญเหตุในแต่ละพื้นที่ โดยเป็นไปตามกฎการป้องกันตนเอง ต่อเป้าหมายที่มีเจตนากระทำต่อฝ่ายไทย

พล.ต.วินธัย กล่าวว่า ทหารกัมพูชาเตรียมความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์เข้ามาในพื้นที่เพิ่มขึ้น พิกัดใกล้พื้นที่ตอนใน ห่างชายแดน 30 กม. เช่น สนามบินบุรีรัมย์ รพ.ปราสาท แต่ยืนยันว่ามีมาตรการทางทหารในการดูแลและป้องกัน ส่วนการอพยพประชาชนได้ประสานหน่วยงานท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถือว่าสมบูรณ์แล้ว

กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิงมาโดยตลอด โดยเฉพาะการลักลอบวางทุ่นระเบิดในพื้นที่ที่ฝ่ายไทยปฏิบัติงาน อีกทั้งฝ่ายไทยมักถูกขัดขวางและไม่ได้รับความร่วมมือจากกัมพูชาในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด

โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า เริ่มมีการปะทะหนักขึ้นตั้งแต่เวลา 05.00 น. วันนี้ (8 ธ.ค.2567) กัมพูชาใช้ปืนเล็ก ปืนใหญ่ อาวุธยิงสนับสนุนต่าง ๆ ทำให้ทหารไทยบาดเจ็บและเสียชีวิตในพื้นที่ช่องบก เบื้องต้นยืนยันว่ามีทหารเสียชีวิต 1 นาย แต่มีรายงานการเสียชีวิตเพิ่มเติมอีก 1 นาย รวม 2 นาย บาดเจ็บ 7 นาย

อีกทั้งกัมพูชาเปิดพื้นที่การปะทะเพิ่มเติมอีกหลายจุด เช่น พื้นที่ช่องอานม้า ห้วยตามาเรีย ปราสาทคนา ปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือน โดยฝ่ายไทยตอบโต้เน้นเป้าหมายทางทหาร เช่น ฐานทหาร ที่ตั้งยิงอาวุธยิงสนับสนุนต่าง ๆ และที่ตั้งอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน

นอกจากนี้ ได้ขอรับการสนับสนุนการใช้อากาศยานของกองทัพอากาศ ในการปล่อยอาวุธเพื่อยับยั้งการโจมตีของทหารกัมพูชา ถือเป็นความจำเป็นในการป้องกันตนเอง หลังกัมพูชาใช้อาวุธยิงฝ่ายไทยอย่างต่อเนื่อง ยืนยันว่าฝ่ายไทยปฏิบัติต่อเป้าหมายทางทหารของกัมพูชาเท่านั้น และสามารถจำกัดวงได้ ไม่กระทบพลเรือน เพื่อยับยั้งความสูญเสียต่อกำลังพลฝ่ายไทย

ทั้งนี้ ไทยได้เตรียมความพร้อมทางยุทธวิถีในการตอบโต้ภัยคุกคามจากกัมพูชา และเป็นห่วงการสูญเสียของกำลังพล และพี่น้องประชาชน จึงต้องทำลายระบบอาวุธยิงของฝ่ายกัมพูชา

ฝ่ายไทยจำเป็นต้องเร่งสกัดอาวุธยิงสนับสุนนของฝ่ายกัมพูชา ที่กำลังคุกคามกำลังพลทหาร หรือพี่น้องประชาชน เพราะในการปะทะครั้งที่ผ่านมาอาวุธดังกล่าวเคยยิงใส่พื้นที่เป้าหมายพลเรือนฝ่ายไทย ทำให้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก

อ่านข่าว : "กัมพูชา" ยิงใส่ฐานอนุพงศ์ กำลังพลเสียชีวิต 1 นาย เจ็บ 4 นาย 

กัมพูชายิง BM21 ลงพื้นที่บ้านเรือน ปชช. - แจ้งปิด 3 รพ.ชายแดน 

ทภ.2 ยัน "กระเช้าเนิน 350" ใกล้ปราสาทตาควาย ถูกทำลายแล้ว