วันนี้ ( 8 ธ.ค.2568) นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา พบหารือ กรมศุลกากร เพื่อประสานความร่วมมือในการสกัดกั้นสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่ทะลักเข้ามายังประเทศไทย ทั้งบริเวณด่านชายแดนและแหล่งเก็บสินค้าภายในประเทศ มุ่งผลักดันให้ไทยหลุดพ้นจากบัญชีประเทศที่ต้องจับตามอง (Watch List: WL) และรายงานตลาดที่มีสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาสูง (Notorious Markets) ภายใต้กฎหมายการค้าสหรัฐฯ มาตรา 301 พิเศษ
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา
โดย กรมฯ ให้ความสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการปราบปรามสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าละเมิดฯ เข้าสู่ท้องตลาด โดยสกัดการนำเข้าสินค้าผิดกฎหมายจากต่างประเทศ ส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการค้าการลงทุน สร้างภาพลักษณ์ที่ดีและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ และคุ้มครองประชาชนผู้บริโภคไม่ให้ใช้สินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่ไม่ได้มาตรฐานและอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัยและชีวิตของประชาชน
ทั้งนี้กรมฯและกรมศุลกากรได้หารือร่วมกันในประเด็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น การปรับเปลี่ยนรูปแบบและพัฒนาแนวทางการปฏิบัติงานด้านการปราบปรามการสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าละเมิดฯ ถูกนำเข้ามาจำหน่ายในท้องตลาดภายในประเทศ เนื่องจากปัจจุบันสินค้าละเมิดฯ ส่วนใหญ่ มักมีแหล่งผลิตอยู่ในต่างประเทศ และผู้ค้ามีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการนำเข้าสินค้ามาเป็นการขนส่งทางไปรษณีย์ขนาดเล็ก ซึ่งกรมศุลกากรจะดำเนินการสุ่มตรวจสินค้าในตู้ส่งสินค้ามากขึ้น พร้อมตรวจสกัดบริเวณด่านศุลกากร และขอหมายศาลเข้าตรวจค้นโกดังหรือแหล่งเก็บสินค้าละเมิดฯ
นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ อธิบดีกรมศุลกากร
นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ อธิบดีกรมศุลกากร
รวมทั้ง การจัดทำความร่วมมือแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซไม่ให้มีการจำหน่ายสินค้าผิดกฎหมายบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งสอดรับกับการทำงานของกรมทรัพย์สินทางปัญญาที่มีการจัดทำบันทึกข้อตกลง (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาบนอินเทอร์เน็ต ร่วมกับเจ้าของสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและผู้ประกอบการค้าด้านอินเทอร์เน็ต ได้แก่ Lazada Shopee Tiktok Shop NocNoc และ Nex Gen Commerce เพื่อดำเนินการระงับการจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างทันท่วงที
อธิบดีกรมทรัพย์สินฯกล่าวว่า ปี 2568 (มกราคม – ตุลาคม) สามารถระงับการจำหน่ายสินค้าละเมิดฯ ตามที่เจ้าของสิทธิแจ้งมาได้ทั้งหมด จำนวน 1,069 รายการ ส่วนใหญ่เป็นสินค้าประเภท เสื้อผ้า กระเป๋า ลิขสิทธิ์เพลง และเครื่องสำอาง เป็นต้น และ กรมศุลกากรมีการจับกุมสินค้าละเมิดฯ รวม 319 คดี ยึดของกลางได้ 557,983 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 40 ล้านบาท
อ่านข่าว:
กรมทรัพย์สินฯ จับมือ Google หนุนครีเอเตอร์ไทย ใช้ AI สร้างผลงานลิขสิทธิ์
“ศุภจี” ถก เอกชน ลุยปราบสินค้าด้อยคุณภาพ-สวมสิทธิ
เข้มปราบนอมินี ใช้คนไทยถือหุ้น กรมพัฒน์ ถก 11 จังหวัด จับตา 6 ธุรกิจเสี่ยง











