วันนี้ (12 ธ.ค.2568) นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยกล่าวถึงกรณีการยุบสภาเมื่อวันที่ผ่านมา ว่าหอการค้าไทยเข้าใจถึงความจำเป็นทางการเมืองในการตัดสินใจของท่านนายกรัฐมนตรีในการยุบสภาในครั้งนี้ ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจทั้งในประเทศและระหว่างประเทศที่มีความผันผวนสูง
นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
รวมถึงความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ความขัดแย้งในพื้นที่ชายแดนและปัจจัยเสี่ยงด้านเศรษฐกิจโลก ซึ่งล้วนส่งผลต่อเสถียรภาพและการบริหารประเทศ จึงเห็นว่าเป็นการตัดสินใจที่อยู่บนพื้นฐานของกรอบประชาธิปไตยและกฎหมายรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ หอการค้าไทยขอเรียกร้องให้มีการเร่งดำเนินการจัดการเลือกตั้งตามกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้ประเทศมีรัฐบาลชุดใหม่ที่มีอำนาจเต็มโดยเร็ว เนื่องจากในปัจจุบันยังมีกฎหมายสำคัญและกรอบการเจรจาการค้าระหว่างประเทศที่รอการพิจารณาและผ่านสภาและต้องมีขับเคลื่อนอีกหลายประเด็น อาทิ การเจรจาด้านภาษีกับสหรัฐอเมริกา การเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) กับประเทศคู่ค้า เช่น FTA Thai-EU ซึ่งล้วนมีความสำคัญต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
ในระหว่างช่วงรัฐบาลรักษาการ หอการค้าไทยเห็นว่า รัฐบาลรักษาการณ์ยังคงมีอำนาจตามกฎหมายในการดำเนินนโยบายและมาตรการต่าง ๆ ที่มติคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การช่วยเหลือและเยียวยาประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ภาคใต้ที่ประสบปัญหารวมถึงการดูแลสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดน ซึ่งสามารถและควรดำเนินการต่อเนื่องโดยไม่ให้เกิดความสะดุด โดยให้ระวังเรื่องข้อจำกัดของรัฐบาลรักษาการณ์ตามระเบียบ
หอการค้าไทย รวมถึง กกร เชื่อมั่นว่าทั้ง รัฐบาลรักษาการ ข้าราชการ และภาคเอกชน จะสามารถร่วมกันทำงานต่อเนื่องเพื่อประคับประคองเศรษฐกิจของประเทศได้จนกว่าจะมีการเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาลใหม่ แม้จะมีข้อจำกัดบางประการก็ตาม
ประธานหอการค้า กล่าวว่า หอการค้าไทยไม่ต้องการให้การยุบสภาในครั้งนี้ส่งผลให้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศหยุดชะงัก และขอให้ทุกฝ่ายร่วมกันสร้างบรรยากาศแห่งความเชื่อมั่น เพื่อให้ประเทศไทยสามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง และมีรัฐบาลชุดใหม่โดยเร็วเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ
อ่านข่าว:
“ยุบสภา” ไร้รัฐบาลตัวจริง เอกชนห่วง “ข้าราชการ” เกียร์ว่าง หวั่นประเทศติดหล่ม











