วันนี้ (15 ธ.ค.2568) CNN รายงาน จิมมี ไล อดีตเจ้าพ่อสื่อฮ่องกง วัย 78 ปี ถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาความมั่นคงแห่งชาติ 2 กระทง และ ข้อหายุยงปลุกปั่นอีก 1 กระทง ในการพิจารณาคดีที่ใช้เวลายาวนานถึง 2 ปี และถูกจับตามองจากนานาชาติในฐานะคดีสำคัญที่สะท้อนการถดถอยของเสรีภาพในฮ่องกงภายใต้การปกครองของจีน
ไล เป็นหนึ่งในนักวิจารณ์รัฐบาลปักกิ่งที่มีชื่อเสียงมากที่สุดที่ถูกดำเนินคดีภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งจีนบังคับใช้กับฮ่องกงในปี 2563 หลังเกิดการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยครั้งใหญ่และรุนแรงในช่วงเวลานั้น
เขาเป็นผู้ก่อตั้ง Apple Daily หนังสือพิมพ์แท็บลอยด์สายประชาธิปไตยที่มีจุดยืนแข็งกร้าว วิพากษ์พรรคคอมมิวนิสต์จีนอย่างเปิดเผย ก่อนถูกสั่งปิดกิจการในปี 2564
ในการอ่านคำพิพากษา คณะผู้พิพากษาระบุว่า "ไม่มีข้อสงสัยใด ๆ เลยว่า ไล มีความคับแค้นและความเกลียดชังต่อสาธารณรัฐประชาชนจีน มายาวนานตลอดช่วงชีวิตของเขา" พร้อมชี้ว่า การที่เขาเดินหน้าล็อบบี้นักการเมืองในสหรัฐฯ สมัย โดนัลด์ ทรัมป์ ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี สมัยที่ 1 เป็นหลักฐานสำคัญของการสมรู้ร่วมคิดกับต่างชาติ
ศาลอ้างถึงการพบปะของ ไล กับบุคคลระดับสูงของสหรัฐ อาทิ ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีในขณะนั้น ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ และความพยายามขอเข้าพบทรัมป์เอง โดยผู้พิพากษาระบุว่า ไล เป็น "ผู้อยู่เบื้องหลังหลัก" ของการสมคบคิดทั้งหมด และมีเจตนาเพียงอย่างเดียวคือแสวงหาการล่มสลายของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
แม้ศาลยังไม่กำหนดวันอ่านคำพิพากษาโทษ แต่การสมรู้ร่วมคิดกับต่างชาติถือเป็นความผิดร้ายแรงที่มีโทษสูงสุดคือจำคุกตลอดชีวิต
ระหว่างการอ่านคำตัดสิน ศาลสั่งให้ทุกคนในห้องพิจารณาคดีรักษาความเงียบอย่างที่สุด ไล มีท่าทีสงบนิ่ง เขาโบกมือทักทายภรรยาและบุตรชายก่อนเริ่มกระบวนการ และเมื่อศาลมีคำตัดสิน เขาเพียงถอดแว่น เช็ดหน้า ก่อนถูกนำตัวออกจากห้องพิจารณาคดีโดยไม่กล่าวคำใด
อัยการกล่าวหาว่า ไล ใช้ Apple Daily เป็นเครื่องมือเรียกร้องให้ต่างชาติคว่ำบาตรฮ่องกงและจีน ทั้งในช่วงการประท้วงปี 2562 และหลังการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงในปีถัดมา อย่างไรก็ตาม ไลให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
เขาถูกจับกุมภายใต้กฎหมายความมั่นคงปลายปี 2563 และถูกคุมขังในเรือนจำความมั่นคงสูงมาแล้วกว่า 1,800 วัน โดยหลายช่วงเป็นการขังเดี่ยว นอกจากนี้ ในปี 2565 เขายังถูกตัดสินจำคุกอีก 5 ปี 9 เดือน ในคดีฉ้อโกงที่ไม่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง
คดีของไลได้รับความสนใจจากทั่วโลก รวมถึง ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าจะ "พาเขาออกมาให้ได้"
ใครคือ "จิมมี ไล" ชายผู้ท้าทายอำนาจจีน
จิมมี ไล ชายวัย 78 ปีรายนี้ เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงที่สุดที่ถูกดำเนินคดีภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งจีนประกาศใช้ในปี 2563 เพื่อตอบโต้การประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยครั้งใหญ่ในฮ่องกงเมื่อปีก่อนหน้า กฎหมายดังกล่าวเปิดทางให้รัฐเอาผิดกับกิจกรรมที่ปักกิ่งมองว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง ตั้งแต่การตะโกนคำขวัญ ไปจนถึงการเข้าร่วมการชุมนุม
รัฐบาลจีนยืนยันว่ากฎหมายนี้จำเป็นต่อการรักษาเสถียรภาพของฮ่องกง ขณะที่นักวิจารณ์มองว่าเป็นเครื่องมือที่ทำให้การแสดงความคิดเห็นต่างทางการเมืองแทบกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย
ไล ถูกคุมขังมาตั้งแต่เดือน ธ.ค.2563 และยังไม่มีกำหนดแน่ชัดว่าเขาจะถูกตัดสินโทษเมื่อใด โดยเขาอาจเผชิญโทษสูงสุดคือจำคุกตลอดชีวิต ทางการฮ่องกงยืนยันว่าเขาได้รับการพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรมตามหลักนิติรัฐ แต่ฝ่ายวิจารณ์มองว่าคดีนี้สะท้อนการใช้กระบวนการยุติธรรมเพื่อปิดปากฝ่ายเห็นต่างทางการเมือง
ครอบครัวของไลแสดงความกังวลต่อสุขภาพที่ทรุดโทรมลงของเขาในเรือนจำ โดยในเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา เซบาสเตียน ไล บุตรชาย ให้สัมภาษณ์กับ BBC ว่า แม้หากบิดาถูกตัดสินจำคุกเพียง 5 ปี ก็แทบไม่ต่างจาก "โทษประหารชีวิต" สำหรับชายชราที่ถือสัญชาติอังกฤษรายนี้
จิมมี ไล เป็นหนึ่งในนักวิจารณ์รัฐจีนที่ดุดันที่สุด และเป็นแกนนำการเรียกร้องประชาธิปไตยในอดีตอาณานิคมอังกฤษแห่งนี้ เขาเคยกล่าวกับ BBC ก่อนถูกตั้งข้อหาในปี 2563 ว่า "เป็นกบฏโดยกำเนิด" พร้อมยอมรับว่ามีนิสัยไม่ยอมศิโรราบต่ออำนาจ
ชีวิตของไลเริ่มต้นจากความยากลำบาก เขาเกิดที่กว่างโจวในครอบครัวฐานะดี แต่ทุกอย่างสูญสลายเมื่อคอมมิวนิสต์ขึ้นสู่อำนาจในปี 2492 เขาหนีออกจากจีนแผ่นดินใหญ่เมื่ออายุเพียง 12 ปี โดยลักลอบนั่งเรือประมงมายังฮ่องกง เขาทำงานรับจ้างสารพัด เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง และไต่เต้าจากแรงงานระดับล่างสู่ผู้ก่อตั้งอาณาจักรธุรกิจมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ รวมถึงแบรนด์เสื้อผ้าระดับนานาชาติอย่าง Giordano
แต่เหตุการณ์สังหารหมู่ที่จัตุรัสเทียนอันเหมินในปี 2532 เปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล ไล เริ่มเขียนบทความวิจารณ์รัฐจีน และก่อตั้งสำนักพิมพ์ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในสื่อทรงอิทธิพลที่สุดของฮ่องกง ก่อนจะเปิดตัว Apple Daily หนังสือพิมพ์สายประชาธิปไตยที่โจมตีปักกิ่งอย่างตรงไปตรงมา
ในขณะที่สื่ออื่น ๆ เริ่มระมัดระวังท่าทีต่อจีน ไลยังคงวิจารณ์รัฐบาลอย่างไม่เกรงกลัว ทำให้เขากลายเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญในสายตาชาวฮ่องกงจำนวนมาก แต่ในสายตาของจีนแผ่นดินใหญ่ เขาคือ "ผู้ทรยศ" ที่คุกคามความมั่นคงของชาติ
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาเผชิญภัยคุกคามมากมาย ตั้งแต่การลอบวางเพลิงบ้านและสำนักงานใหญ่ ไปจนถึงแผนลอบสังหาร แต่เขายังคงแสดงจุดยืนอย่างเปิดเผย และเข้าร่วมการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยอย่างสม่ำเสมอ เมื่อกฎหมายความมั่นคงถูกบังคับใช้ ไล เคยบอกกับ BBC ว่ามันคือ "ระฆังมรณะของฮ่องกง" เขาเคยร้องขอความช่วยเหลือจาก ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ โดย Apple Daily ตีพิมพ์จดหมายหน้าแรกวิงวอนให้สหรัฐช่วยปกป้องเสรีภาพของเมืองนี้
สำหรับไล การต่อสู้คือการตอบแทนบ้านที่มอบทุกอย่างให้เขา ดังที่เขาเคยกล่าวกับ AFP ว่า เขามาถึงฮ่องกงโดยไม่มีอะไรเลย และเสรีภาพของที่นี่ทำให้เขามีทุกอย่าง วันนี้อาจถึงเวลาที่ต้องลุกขึ้นปกป้องเสรีภาพนั้น
อ่านข่าวอื่น :
จับตา “รถบรรทุกน้ำมัน” 4 ล้านลิตร ออกจาก “ด่านช่องเม็ก” จะไปไหน?
ทรัมป์กร้าว! ลั่นเอาคืนหนัก ISIS หลังสังหารทหาร-พลเมืองสหรัฐฯ 3 คน











