ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

กรมศิลฯรื้อถอนสิ่งก่อสร้างใหม่ในวัดกัลยาฯ หลังจากวัดรื้อโบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนไว้แล้ว

สังคม
25 ก.ค. 58
03:22
416
Logo Thai PBS
กรมศิลฯรื้อถอนสิ่งก่อสร้างใหม่ในวัดกัลยาฯ หลังจากวัดรื้อโบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนไว้แล้ว

กรมศิลปากรนำกำลังเข้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างใหม่ ที่วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร หลังจากกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานไว้แล้ว แต่ทางวัดกลับทุบทิ้งแล้วสร้างอาคารใหม่ทับที่เดิม กระทั่งกรมศิลป์ต้องฟ้องต่อศาลและแจ้งให้วัดทราบตั้งแต่ปี 2552

จากกรณีกรมศิลปากรมีหนังสือแจ้งเตือนเป็นลายลักษณ์อักษรแก่วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร ตั้งแต่ปี 2552 ไม่ให้ก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างขึ้นใหม่ หลังจากทางวัดทุบทำลายศาลารายหลังเก่า ที่กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานไว้ จนเป็นคดีที่ยังฟ้องร้องอยู่ในศาล โดยกรมศิลปากรได้อาศัยอำนาจรื้อถอนตามคำสั่งศาลล่าสุด ที่มีคำพิพากษาให้กรมศิลปากรมีอำนาจขึ้นทะเบียน และให้ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย

กระทั่งล่าสุด วานนี้ (24 ก.ค.2558) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่กรมศิลปากร จึงเข้าทุบรื้อถอนศาลารายที่ทางวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร สร้างขึ้นภายหลัง

 
นายบวรเวท รุ่งรุจี อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า ก่อนเข้ารื้อถอนได้ทำหนังสือแจ้งมายังทางวัดเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผานมา และมีเจ้าหน้าที่ของวัดลงชื่อรับทราบ ซึ่งนอกจากอาคารศาลารายทีมี 2 หลัง ยังมีสิ่งก่อสร้างอีก 20 หลัง ที่วัดสร้างขึ้นขัดต่อพระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ.2504 เพราะสร้างขึ้นจากการทุบทำลายโบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนไว้ โดยคาดว่าจะดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน และจะมีการฟ้องแพ่งเรียกค่าใช้จ่ายจากผู้กระทำผิดด้วย
 
ระหว่างการรื้อถอนไม่ได้มีการขัดขวางจากพระภายในวัด ซึ่งนายวัชรา พรหมเจริญ ประธานกรรมการที่ปรึกษาวัด ระบุว่า ได้ปรึกษากับเจ้าอาวาสวัดแล้วว่าจะไม่เข้าไปขัดขวาง แต่หลังจากนี้วัดจะปรึกษากับฝ่ายกฎหมายเพื่อดำเนินคดีและไม่ให้กรมศิลปากรรื้อทำลายสิ่งที่วัดปลูกสร้างขึ้น
 
ทั้งนี้ วัดติดป้ายประกาศไว้ที่ศาลารายว่าศาลารายนี้สร้างด้วยเงินบริจาค เป็นศาสนสมบัติของพุทธศาสนาและสมบัติของวัด เพื่อการศึกษาพระปริยัติธรรมของพระภิกษุสามเณร ผู้ใดเจตนาทุบรื้อทำลาย มีความผิดตามกฎหมาย ทางวัดจะดำเนินการทางกฎหมายกับผู้นั้นทันทีด้วย

ติดตามข่าวสารผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ค ไทยพีบีเอสออนไลน์
https://www.facebook.com/ThaiPBSNews?ref=hl
 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง