ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ยูเอ็นชี้จีนปกปิดข้อมูลระเบิดเทียนจินทำ ปชช.เสี่ยงอันตราย-ผลสอบสิ่งแวดล้อมยังไม่ปลอดภัย

ต่างประเทศ
20 ส.ค. 58
09:23
130
Logo Thai PBS
ยูเอ็นชี้จีนปกปิดข้อมูลระเบิดเทียนจินทำ ปชช.เสี่ยงอันตราย-ผลสอบสิ่งแวดล้อมยังไม่ปลอดภัย

ผู้แทนพิเศษองค์การสหประชาชาติชี้ รัฐบาลจีนปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับเหตุระเบิดเทียนจิน ทำให้ประชาชนเสี่ยงได้รับอันตรายมากขึ้น ขณะผลสอบสิ่งแวดล้อมในพื้นที่เกิดเหตุยังไม่ปลอดภัย ด้านกองทัพจีนส่งเจ้าหน้าที่นิวเคลียร์และเคมีชีวภาพ 340 คน เข้ากำจัดสารพิษในอาคารที่พักรอบพื้นที่ระเบิด ล่าสุดยังมีผู้สูญหาย 57 คน ส่วนผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 114 คน

วันนี้ (20 ส.ค. 2558) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านสารเคมีจากกองทัพและตำรวจของสาธารณรัฐประชาชนจีน ลงพื้นที่ร่วมตรวจสอบคุณภาพดิน น้ำ และอากาศ ในเขตอุตสาหกรรมเทียนจิน พร้อมตรวจหาวัตถุอันตรายอื่นๆ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนที่กองทัพจะนำเครื่องจักรจำนวน 80 เครื่อง เข้ามาในเขตอุตสาหกรรม เพื่อจัดการกับตู้คอนเทนเนอร์และสิ่งตกค้างที่ได้รับความเสียหายจากเหตุระเบิดเมื่อวันที่ 12 ส.ค. 2558 โดยผลการตรวจสอบพบว่า สภาพในเขตอุตสาหกรรมฯ ยังไม่เหมาะที่จะนำเครื่องจักรเข้ามา ทั้งนี้ ระหว่างเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน ได้เกิดระเบิดขึ้นอีก 2 ครั้ง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเพิ่มว่า นอกจากเขตอุตสาหกรรมแล้ว กองทัพยังส่งทหารหน่วยนิวเคลียร์และเคมีชีวภาพ 340 คน เข้าไปกำจัดสารพิษในอาคารที่พักอาศัยรอบเขตอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นมาตรการเฝ้าระวังไม่ให้เกิดการระบาด รวมทั้งยังสนธิกำลังทหารจาก 3 เหล่าทัพ และตำรวจ ตั้งกองบัญชาการฉุกเฉิน ขณะที่การค้นหาผู้สูญหายยังคงดำเนินต่อไปล่าสุดยังมีผู้สูญหายอีก 57 คน ส่วนผู้เสียชีวิตยังคงอยู่ที่ 114 คน

ด้าน นายบัสคุท ทุนคัก ผู้แทนพิเศษด้านสิทธิมนุษยชนองค์การสหประชาชาติ ระบุว่า เป็นเรื่องน่าเสียใจที่ทางการจีนไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลจำเป็นให้แก่ประชาชน ทั้งที่ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยบรรเทาหรืออาจยับยั้งไม่ให้เกิดหายนะได้ นอกจากนี้ การที่ประชาชนเข้าไม่ถึงข้อมูลด้านความปลอดภัยและสุขภาพ รวมถึงการปิดกั้นเสรีภาพในการนำเสนอข่าวหลังเกิดเหตุระเบิด ยิ่งทำให้ความเสี่ยงที่จะมีผู้ได้รับความเดือดร้อนเพิ่มมากขึ้นอีก

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานอีกว่า หลายฝ่ายเรียกร้องให้รัฐบาลจีนเปิดเผยข้อมูลการสอบสวนอย่างโปร่งใส หลังมีรายงานข่าวว่าเหตุระเบิดครั้งนี้อาจมีสาเหตุจากการทุจริตคอร์รัปชั่น จนนำไปสู่การละเลยมาตรฐานความปลอดภัย
 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง