ลุ้น กวพ.อ.พิจารณารถเมล์เอ็นจีวีโปร่งใสพร้อมจัดซื้อล็อตแรก 489 คัน ทันที-คาดสิ้นปี 58 ขสมก.มีหนี้รวม 9.6 หมื่นล้านบาท

รมช.คมนาคม คาดสิ้นปี 58 ขสมก. มีหนี้ 9.6 หมื่นล้านบาท เตรียมปรับลดการเดินรถเหลือ 172 เส้นทาง โยกรถร่วมไปสังกัดกรมขนส่งทางบก ก่อนเสนอคลังพิจารณาช่วยเหลือเพื่อลดภาระดอกเบี้ย 250 ล้านบาทต่อเดือน ระบุหากไม่ต้องจ่าย ขสมก.จะมีกำไรภายใน 6 เดือน ส่วนโครงการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีล็อตแรก 489 คัน หาก กวพ.อ.พิจารณาว่าขั้นตอนโปร่งใส สามารถดำเนินการลงนามจัดหารถใน 50 วัน ได้ทันที

วันนี้ (28 ก.ย. 2558) นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมช.คมนาคม กล่าวภายหลังมอบนโยบายคณะกรรมการและผู้บริหารองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ว่า การจัดซื้อรถโดยสารเอ็นจีวีล็อตแรกจำนวน 489 คัน มีความคืบหน้าโดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ (กวพ.อ.) เนื่องจากมีการร้องเรียนว่ากระบวนการจัดซื้อไม่โปร่งใส

“หาก กวพ.อ.พิจารณาว่าขั้นตอนไม่มีปัญหา ก็สามารถลงนามและจัดหารถมาภายใน 50 วัน แต่หากพิจารณาว่าทุจริตก็จะเร่งกระบวนการจัดหาใหม่ภายใน 2 เดือน” รมช.คมนาคม ระบุ

นายออมสินกล่าวว่า ส่วนแผนฟื้นฟูของ ขสมก.ในการแก้ไขหนี้สิน คาดว่าสิ้นปีนี้จะมีหนี้สินอยู่ประมาณ 9.6 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ดีขสมก.ได้ดำเนินการร่วมกับกรมการขนส่งทางบกปรับลดเส้นทางเดินรถให้เหลือ 172 เส้นทาง นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการโยกย้ายรถร่วมบริการไปอยู่ภายใต้การกำกับของกรมขนส่งทางบก เพื่อเสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณาช่วยเหลือว่าจะรับหนี้ให้ทั้งหมดหรือพักชำระหนี้

“ซึ่งหากกระทรวงการคลังรับเรื่องก็จะทำให้ภาระรายจ่ายค่าดอกเบี้ยที่ ขสมก.ต้องจ่ายเดือนละ 250 ล้านบาท จะหมดไป และจะทำให้ขสมก.มีกำไรภายใน 6 ปี” รมช.คมนาคมกล่าว