ผบ.ตร.เสียดาย
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยอมรับเสียดายความรู้ความสามารถของ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ หากตัดสินใจลาออกจากตำรวจ พร้อมเปิดโอกาสพูดคุยและทบทวนใบลาออกอีกครั้ง ขณะที่รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ยอมรับรู้สึกเสียใจที่ต้องลาออกก่อนเกษียณอายุราชการ
วันนี้ (10 พ.ย.2558) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีที่ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ยื่นหนังสือลาออก หลังจากถูกไปปฏิบัติหน้าที่เป็นรักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจชายแดนภาคใต้ว่า เสียดายความรู้ความสามารถของ พล.ต.ต.ปวีณ หากขอเข้าพบเพื่อสอบถามถึงสาเหตุที่ตัดสินใจลาออก ก็ยินดีพูดคุยและทบทวน แต่ยังไม่ได้พูดคุยเป็นการส่วนตัว ซึ่งทราบเพียงว่าหนังสือลาออกได้มาถึงสำนักงานกำลังพลแล้ว แต่ยังไม่เสนอมาถึงตัวเอง ซึ่งตามระเบียบการยื่นหนังสือลาออก ต้องใช้ระยะเวลาภายใน 30 วัน หลังจากยื่นหนังสือ ส่วนจะอนุมัติลาออกหรือไม่นั้น ขอพิจารณาอีกครั้ง และจะมีปรับเปลี่ยนตำแหน่งอื่นให้ พล.ต.ต.ปวีณ หรือไม่นั้น ต้องมีการพูดคุยกันก่อนและเปิดโอกาสให้เข้าพบตลอดเวลา
ด้าน พล.ต.ต.ปวีณ กล่าวว่า รู้สึกเสียใจที่จะต้องลาออกก่อนเกษียณราชการ เพราะคิดว่าหากตัวเองรับราชการต่อ จะสามารถทำประโยชน์ให้องค์กรได้ ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการพูดคุยกับครอบครัวเพื่อทำความเข้าใจแล้ว
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.กล่าวว่า การพิจารณาคำสั่งย้ายถือว่าสมเหตุสมผล แต่หากเห็นว่าคำสั่งย้ายมิชอบ ก็สามารถยื่นเรื่องร้องเรียนขอความเป็นธรรมได้ตามขั้นตอน แต่จะต้องมั่นใจในหลักฐานที่มี เพื่อไม่ให้เกิดความผิดซ้ำ
ด้าน พ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า ทหารไม่เคยข่มขู่ตำรวจที่จับทหารเกี่ยวข้องคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา มีแต่ให้ความร่วมมือทุกครั้ง จึงเชื่อว่าการข่มขู่ไม่น่าจะเกิดขึ้นจริง เพราะทหารอยู่ในระเบียบวินัย
สำหรับ พล.ต.ต.ปวีณ เป็นหัวหน้าชุดพนักงานสอบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา และถูกคำสั่งย้ายไปเป็นรองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยยื่นสำนวนคดีสั่งฟ้องทหาร ตำรวจ และพลเรือน รวม 153 คน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ร้องเรียนผ่านสื่อว่าพนักงานสอบสวนและพยานในคดีนี้ถูกข่มขู่คุกคาม
แท็กที่เกี่ยวข้อง: