"พล.อ.อุดมเดช" ย้ำปัญหาโรงหล่อเป็นเรื่องของเอกชน -เพื่อไทยยื่นสตง.เรียกคืนเงินสร้างอุทยานราชภักดิ์ 46 ล้านบาท

การเมือง
8 ธ.ค. 58
07:26
130
Logo Thai PBS
"พล.อ.อุดมเดช" ย้ำปัญหาโรงหล่อเป็นเรื่องของเอกชน -เพื่อไทยยื่นสตง.เรียกคืนเงินสร้างอุทยานราชภักดิ์ 46 ล้านบาท

พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และประธานมูลนิธิราชภักดิ์ ยืนยันว่า กองทัพบกไม่เกี่ยวข้องกับปัญหาโรงหล่อที่รับงานหล่อพระบรมรูปบูรพกษัตริย์ ที่อุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะที่พรรคเพื่อไทยยื่นหนังสือถึงสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เรียกร้องให้เรียกเงินคืนจากโครงการอุทยานราชภักดิ์กว่า 46 ล้านบาท

"พล.อ.อุดมเดช" ยืนยันปัญหาโรงหล่อเป็นเรื่องของเอกชน

พล.อ.อุดมเดช ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (8 ธ.ค.2558) ว่า การดำเนินงานของคณะกรรมการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ว่าเป็นไปอย่างโปร่งใสชี้แจงได้ ส่วนประเด็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับโรงหล่อนั้นเป็นเรื่องการเจรจาระหว่างเอกชนกับเอกชน ส่วนกระแสกดดันให้ลาออกนั้น พล.อ.อุดมเดชปฏิเสธที่จะให้ความเห็น โดยขอให้รอการตรวจสอบก่อน
 
"เรื่องที่เจ้าของโรงหล่อจะไปคุยกับภาคเอกชนอื่นใด กรรมการดำเนินงานก็ไม่ได้เกี่ยวข้อง แต่ในเมื่อเราทราบว่ามีการดำเนินการที่อาจจะไม่เหมาะสม ทางคณะกรรมการก็เข้าไปพูดคุยให้เป็นไปในทางที่เป็นบุญเป็นกุศล ผมยังยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปในทางที่สุจริต" พล.อ.อุดมเดชกล่าว

ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเผยแพร่แผนผังที่อ้างว่า แสดงความไม่โปร่งใสของโครงการอุทยานราชภักดิ์ที่จัดทำโดยขบวนการประชาธิปไตยใหม่ว่า ตนได้เห็นแผนผังดังกล่าวแล้วแต่ไม่ได้ให้ความสนใจ และได้มอบหมายให้พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ชี้แจง

พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมช.ยุติธรรม เตรียมประสานให้แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปช.) 2 คน คือ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เข้าให้ข้อมูลกรณีอุทยานราชภักดิ์ภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งแกนนำกลุ่มนปช.ได้ตอบรับที่จะเข้าให้ข้อมูลต่อศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติแล้ว โดยเบื้องต้นได้ประสานสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน และ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เพื่อเตรียมรับข้อมูล พร้อมขอความร่วมมือกลุ่มนักศึกษาที่ออกมาเคลื่อนไหว ขอให้ส่งเรื่องมายังหน่วยงานภาครัฐ โดยให้ความมั่นใจในกลไกการตรวจสอบ

"เรืองไกร" ร้อง สตง.เรียกเงินคืนจากโครงการอุทยานราชภักดิ์ 46 ล้านบาท

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ดำเนินการเรียกเงินคืนจากโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์จำนวนกว่า 46 ล้านบาทเพราะเชื่อว่า อาจมีการใช้งบประมาณผิดประเภทหรือผิดวัตถุประสงค์ กรณีการนำงบกลางของกองทัพบกไปจัดหาวัสดุ คือ หินอ่อนและหินแกรนิต เพื่อใช้สร้างฐานแท่นและลานบันไดในโครงการอุทยานราชภักดิ์

นายเรืองไกรระบุว่า การจัดหาวัสดุที่เป็นทรัพย์สินถาวรใหม่ของกองทัพบก แต่ในความเป็นจริงกลับนำทรัพย์สินนั้น ไปติดตั้งบนทรัพย์สินถาวรของอุทยานราชภักดิ์ ซึ่งถือเป็นหน่วยงานอื่นที่ไม่ใช่กองทัพบกซึ่งการดำเนินการลักษณะนี้ อาจมีลักษณะหลีกเลี่ยงระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องและไม่เป็นการรักษาวินัยการเงินการคลังที่ดี พร้อมกับเทียบเคียงกับกรณีที่สตง.เคยมีหนังสือด่วนมากทักท้วงการจัดซื้อวัสดุครุภัณฑ์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อให้หน่วยราชการอื่นยืมใช้ว่าไม่สามารถทำได้ ดังนั้นการใช้งบกลางของกองทัพบกดำเนินการกรณีอุทยานราชภักดิ์ จึงน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง

ด้านนายพิสิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ยืนยันว่า กำลังเดินหน้าตรวจสอบโครงการนี้แบบไม่เกรงใจใคร ยึดขั้นตอนตามกฏหมายทั้งงบประมาณกลางของกองทัพบกจำนวนกว่า 63 ล้านบาท และเงินบริจาคแต่ขณะนี้เพิ่งผ่านปีงบประมาณ 2558 ไปได้ไม่นาน แต่ละหน่วยงานจึงเพิ่งทยอยส่งเอกสารมาให้ ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบระยะหนึ่ง

เปิดอุทยานราชภักดิ์เปิดให้เข้าชมบ่ายวันนี้ (8 ธ.ค.)

เจ้าหน้าที่เตรียมเปิดอุทยานราชภักดิ์ให้เข้าชมตามปกติช่วงบ่ายวันนี้ หลังจากปิดปรับปรุงต่อเนื่องมาตั้งแต่เมื่อวาน (7 ธ.ค.) ซึ่งตรงกับวันที่นักศึกษาและประชาชนกลุ่มประชาธิปไตยศึกษาจัดกิจกรรม "นั่งรถไฟไปอุทยานราชภักดิ์" เพื่อตรวจสอบแต่ถูกทหารสกัดและควบคุมตัวที่ จ.ราชบุรีก่อนจะเดินทางมาถึง

เจ้าหน้าที่แจ้งว่าเลื่อนเวลาเปิดให้เข้าชมจากช่วงเช้าเป็นช่วงบ่ายทำให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาถึงก่อนต่างจอดรถรอเวลาเข้าเยี่ยมชมบริเวณถนนทางเข้าจำนวนมาก เช่นคณะครูและนักเรียนกว่า 200 คน จากจ.นครสวรรค์ ที่ตั้งใจเดินทางมาเยี่ยมชมอุทยานราชภักดิ์ และมาถึงตั้งแต่ 07.00 น. แต่เจ้าหน้าที่กลับแจ้งกับนักท่องเที่ยวว่า ยังปรับปรุงระบบภายในบริเวณลานด้านหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ไม่แล้วเสร็จจึงต้องเลื่อนเวลาเปิดเป็นเวลา 13.00 น. ทำให้นักท่องเที่ยวที่มารอเข้าชมอุทยานราชภักดิ์ผิดหวัง บางส่วนตัดสินใจเดินทางกลับ นักท่องเที่ยวบางคนแนะนำให้เจ้าหน้าที่ประสานงานกันให้ชัดเจน เนื่องจากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่วางแผนการเดินทางล่วงหน้ามาก่อนแล้ว


ข่าวที่เกี่ยวข้อง