แฟชั่น "อีโม" กลายเป็นเป้าสังหารวัยรุ่น ในอิรัก

การแต่งตัวแบบอีโม ถือเป็นสไตล์ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มวัยรุ่นที่ชื่นชอบในดนตรีร็อกยุคใหม่ แต่ภาพลักษณ์นี้กลับเป็นสิ่งต้องห้ามในอิรัก เมื่อมีการสังหารวัยรุ่นอีโมอย่างแพร่หลายไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยข้อหาบูชาซาตาน และเบี่ยงเบนทางเพศ

กางเกงยีนส์ขาเดฟ เสื้อยืดรัดรูป และแต่งหน้าทำผมแบบพังค์ คือแฟชั่นการแต่งตัวสไตล์อีโม ซึ่งเป็นแนวดนตรีลูกผสมระหว่างฮาร์ดคอร์ และพังค์ซึ่งเป็นกระแสในยุค 2000 และกำลังได้รับความนิยมในกลุ่มวัยรุ่นทั่วโลก รวมทั้งในตะวันออกกลาง แต่ล่าสุดภาพลักษณ์ดังกล่าวกำลังเป็นสิ่งต้องห้ามในสังคมอิรัก เมื่อตลอดเดือนที่ผ่านมามีวัยรุ่นชายหญิงที่แต่งตัวด้วยสไตล์อีโมอย่างน้อย 15 ราย ถูกพบเป็นศพจากการถูกทุบตีตามร่างกาย และศีรษะโดยกลุ่มติดอาวุธตามเมืองต่างๆ ในอิรัก

กระแสความเกลียดชังแฟชั่นอีโมมาจากข่าวลือว่าอีโมปลูกฝังลัทธิซาตานให้กับเยาวชน ถึงกับอ้างว่าพวกเขาทำพิธีดูดเลือดให้กัน สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มผู้นำศาสนา รวมถึงกระทรวงมหาดไทยของอิรัก ที่เคยประณามอีโมว่าเป็นลัทธิต่อต้านพระเจ้า และต้องการกำจัดให้หมดไปจากสังคมให้เร็วที่สุด โดยวันเสาร์ที่ผ่านมา กลุ่มติดอาวุธได้นำรายชื่อของเหยื่อที่ถูกสังหารไปติดตามที่สาธารณะ เพื่อเตือนวัยรุ่นคนอื่นๆ ให้เลิกแต่งกายเช่นนั้น

การปฎิบัติด้วยความรุนแรงครั้งนี้ถูกประณามโดยผู้นำศาสนา เช่น มุขตาดา อัล ซาดาร์ ผู้นำมุสลิมชิอะห์ ที่แม้จะเคยประกาศว่าวัยรุ่นอีโมเป็นกลุ่มคนที่โง่เขลา และสร้างความเสื่อมเสียให้กับสังคมมุสลิม แต่การแก้ปัญหาดังกล่าวต้องเกิดจากการให้ความรู้ และอยู่ในกรอบของกฏหมาย

แม้การแต่งตัวแบบอีโมจะไม่บ่งบอกรสนิยมทางเพศ แต่ในอิรักมักมองคนกลุ่มนี้ว่ามีความเบียงเบนทางเพศ ซึ่งเป็นสิ่งต้องห้ามในศาสนาอิสลาม โดยคณะกรรมาธิการสิทธิเกย์ และเลสเบี้ยนเผยว่า เดือนที่ผ่านมามีชาวเกย์ หรือผู้ที่สงสัยว่าเป็นเกย์ถูกสังหารในอิรักแล้วอย่างน้อย 58 ราย

การสังหารวัยรุ่นอีโม และชาวเกย์ทำให้วัยรุ่นอิรักต่างป้องกันตัวด้วยการพากันไปตัดผมให้สั้น หลายคนไม่พอใจที่การไว้ผมยาวถูกมองว่าต้องเป็นเกย์ บางคนย้ำว่าคัมภีร์อัลกุรอานสั่งห้ามการฆ่าโดยไม่มีเหตุผล จึงเป็นสิ่งไม่สมควรที่มุสลิมด้วยกันต้องมาถูกเข่นฆ่าเพียงเพราะมีวิธีแสดงออกด้วยการแต่งกายที่แตกต่างกัน