นายกฯเผยแก้ไขกฎหมายให้ทันสมัยเพื่อให้เกิดความเท่าเทียม

การเมือง
29 ม.ค. 59
11:43
90
Logo Thai PBS
นายกฯเผยแก้ไขกฎหมายให้ทันสมัยเพื่อให้เกิดความเท่าเทียม
นายกรัฐมนตรีเผยแก้ไขกฎหมายให้เกิดความทันสมัย เนื่องจากทุกประเทศที่เจริญก้าวหน้า เพราะยึดกฎหมายเป็นหลัก ทำให้คนเกิดความเท่าเทียม ซึ่งต่างจากประเทศไทยที่เรียกร้องเสรีภาพ และอ้างแต่สิทธิมนุษยชน

วันนี้ (29 ม.ค.2559) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีเปิดงาน "อาชีวศึกษาทวิภาคีไทย" ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29-30 ม.ค.2559 ที่ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อประชาสัมพันธ์ผลงานความสำเร็จ และตอบโจทย์การมีงานทำทันทีหลังเรียนจบ ขยายตลาดแรงงานด้วยบุคลากรคุณภาพ โดยตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมามีผู้สนใจเรียนในสายอาชีวศึกษาลดลงอย่างมาก ก่อนจะได้รับการผลักดันจากรัฐบาลนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง "อาชีวศึกษา ฝีมือชน คนสร้างชาติ" ว่า รู้สึกพอใจที่เห็นนักเรียนอาชีวศึกษาสามารถสื่อสารภาษาที่ 3 ได้มากขึ้น แต่ต้องการให้มีการวัดผล และประเมินว่ามีบุคลากรที่มีความสามารถด้านภาษา เพียงพอต่อตลาดแรงงานหรือไม่ โดยจะต้องไม่อย่าลืมการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้องด้วย ซึ่งนักเรียนอาชีวศึกษาถือเป็นกำลังหลักในการพัฒนาประเทศในภาวะที่ประเทศไทยกำลังขาดแคลนบุคลากรที่มีคุณภาพในภาคการผลิต และนอกจากการพัฒนาฝืมือแรงงานที่มีคุณภาพ ยังต้องสร้างบุคลากรให้เป็นคนที่มีคุณธรรมด้วย

ทั้งนี้ ทุกประเทศที่เจริญก้าวหน้า เพราะยึดกฎหมายเป็นหลัก ทำให้คนเกิดความเท่าเทียม ต่างจากประเทศไทยที่เรียกร้องแต่เสรีภาพ และอ้างแต่เรื่องสิทธิมนุษยชน ดังนั้นจึงต้องมีการออกกฎหมาย หรือแก้ไขปรับปรุงให้เกิดความทันสมัย พร้อมย้ำว่าผมเรียนผูกก็จะเรียนแก้เอง ช่วยเหลือตัวเองทุกอย่าง แต่ไม่เคยยอมแพ้ เพราะถ้าผมแพ้ ผมก็อยู่ไม่ได้ ดังนั้นในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ จะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีกระแสวิจารณ์การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ไม่เห็นผลของรัฐบาล โดยเฉพาะการส่งออกที่ลดลงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในรอบ 10 ปีว่า มาจากสถานการณ์โลก เช่นเดียวกับประเทศรอบบ้านที่ลดลงเช่นกัน เพราะไทยมีรายได้หลักจากการส่งออกถึงร้อยละ 70 อีกทั้งค่าแรงของไทยสูงที่สุดในอาเซียน ต้นทุนการผลิตจึงสูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน จึงต้องส่งเสริมให้เกิดกำลังซื้อ เพื่อใช้จ่ายในประเทศมากขึ้น

ส่วนการเสนอแก้ไขกฎหมายเพื่อให้เช่าที่ดินนั้น ยังไม่มีการตัดสินใจ เป็นเพียงการพิจารณามาตรการสร้างแรงจูงใจในการลงทุน และไม่ได้เป็นการกีดกันเพื่อประโยชน์เฉพาะนักลงทุนต่างประเทศ แต่ผู้ลงทุนไทยต้องได้รับประโยชน์เช่นเดียวกัน จึงต้องสร้างการรับรู้ให้เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกันให้ได้ รัฐบาลไม่ได้มีนโยบายเรียกรับเงินใคร ที่ผ่านมา เมื่อพบว่ามีการแอบอ้างเรียกรับก็ดำเนินการจับกุม อย่าพูดพาดพิงทหารโดยไม่มีหลักฐานว่าทุจริต แต่หากมีหลักฐาน ขอให้ส่งมาจะดำเนินการให้

สำหรับการรักษาคะแนนความโปร่งใส แม้จะไม่ถูกจัดอันดับให้ดีขึ้น แต่การรักษาคะแนนให้เท่าเดิม 38 คะแนน ก็เป็นเรื่องที่ยากมาก แต่รัฐบาลก็เดินหน้าทำให้ดีขึ้นต่อไป เหตุใดจึงมีแต่คนจ้องทำร้าย ยังคงออกมาพูด และคนก็ยังยินยอมที่จะเชื่อคนเหล่านั้น จึงต้องขอความร่วมมือจากทุกคนในการสร้างความเข้มแข็ง เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงบทความของนายนิธิที่ถามว่าทหารมีไว้ทำไมว่า ทหารทำหน้าที่ปกป้องรักษาแผนดิน โดยยังมีคนที่เลือกข้างคอยทำร้ายประเทศอยู่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง