เครือข่ายเด็กและสตรีค้านแก้กฎหมายอาญา ม.277 และ ม.285/1 กรณีละเมิดทางเพศเด็ก
น.ส.สุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศมูลนิธิหญิงชายก้าวไกลเห็นด้วยกับหลักการในการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 277 และ 285/1 ที่กำหนดความผิดเกี่ยวกับเด็กและสตรี ที่ไม่สามารถอ้างความไม่รู้เพื่อหลีกเลี่ยงการรับโทษได้
แต่ไม่เห็นด้วยกับเนื้อหาร่างประมวลกฎหมายอาญาที่จะแก้ไขในมาตรา 277 ที่กำหนดว่า หากผู้กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งไม่ใช่ภรรยาหรือสามีของตน โดยเด็กจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม หากผู้กระทำผิดมีอายุเกิน 18 ปีที่กระทำความผิดต่อเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปีแต่ไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นยินยอมหากศาลพิจารณาให้ทั้งสองฝ่ายสมรสกัน โดยผู้กระทำความผิดไม่ต้องรับโทษ จากเดิมที่กฎหมายกำหนดว่า หากเป็นการกระทำความผิดโดยบุคคลอายุไม่เกิน 18 ปี และศาลพิจารณาให้ทั้งสองฝ่ายสมรสกันโดยผู้กระทำความผิดไม่ต้องรับโทษ
ส่วนมาตรา 285/1 ที่กำหนดว่า หากศาลเห็นว่าผู้กระทำความผิดอาจไม่รู้อายุของเด็กและมีหลักฐานมาแสดงต่อศาลศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้เท่าใดก็ได้ เนื่องจากเป็นการออกกฎหมายที่เอื้อประโยชน์กับผู้ใหญ่ที่ทำความผิดไม่ต้องรับโทษ หรือผู้ที่กระทำความผิดโดยอ้างความไม่รู้เพื่อไม่ต้องรับโทษ ซึ่งสวนทางกับการรองรับอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก และ สิทธิสตรี
น.ส.วาสนา เก้านพรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายคุ้มครองสิทธิเด็ก มูลนิธิพิทักษ์สิทธิเด็ก บอกว่า การออกกฎหมายให้ผู้กระทำความผิดสามารถสมรสแล้วไม่ต้องรับโทษ เป็นการออกกฎหมายที่สวนทางกับการหยุดแม่วัยใสที่กำลังรณรงค์อยู่ในขณะนี้ สำหรับผลการประชุมทั้งหมดทางเครือข่ายเด็กเยาวชนและสตรีจะนำบันทึกการประชุมรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเสนอในที่ประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญ ซึ่งมีนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในวันที่ 17 พ.ค.นี้ เนื่องจากเห็นว่าการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวยังไม่มีหน่วยงานใด เสนอข้อมูล
แท็กที่เกี่ยวข้อง: