สัญญาใจ “ค่ายส้ม” พรรคประชาชน กับ “สีน้ำเงิน” ภูมิใจไทย ไม่ไหวหวั่น ท่ามกลางเสียงกระแส “เลือกชัยเกษมเป็นนายก ยุบสภาทันที คืนอำนาจประชาชน” เมื่อ “เท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรค ปชน. ยืนยันว่า การเลื่อนการโหวตนายกฯ ในวันพรุ่งนี้ ( 5 ก.ย.) ยังเป็นไปตามกำหนดเดิม
ขณะที่ แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย อดีตนายกฯ โพสต์ เห็นด้วย เลือกชัยเกษม ยุบสภาทันที ทำให้ “ไอซ์” รัชชนก ศรีนอก สส. กทม.ค่ายส้ม สวนกลับว่า ในที่สุดคุณแพทองธารก็เห็นด้วยกับข้อเสนอยุบสภา เพื่อคืนอำนาจใหกับประชาชนเสียที แต่น่าเสียดายจริง ๆ เพราะมันช้าไป 2 เดือน
ขณะที่ “ชัยเกษม นิติสิริ” แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย ให้สัญญาด้วยการอ่านแถลงการณ์จากบ้านพักส่วนตัว โดยยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยตอบรับข้อเสนอทุกข้อของพรรคประชาชน และหากได้รับการลงคะแนน ให้ดำรงตำแหน่งนายกฯจะยุบสภาทันที โดยไม่ต้องรอให้ครบ 4 เดือน เพื่อเข้าสู่การเลือกตั้ง
รอมชอม “บังซุป” ศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย พรรคภูมิใจไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงการไปแจ้งความดำเนินคดี “บิ๊กอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ว่า ...หลายคนเห็นการเมืองของเมืองไทยมาก็จะพบว่าในบางสถานการณ์ ก็สู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ความจริงที่มีอยู่อย่างหนึ่งก็คือแต่ละฝ่ายที่อยู่คนละข้างกันล้วนแล้วแต่รู้จักคุ้นเคยรักใคร่ เป็นพี่เป็นน้องเป็นเพื่อนกัน บางครั้งเคยอยู่ฝ่ายเดียวกันแล้วสถานการณ์ก็ผลักดันให้ไปอยู่ฝ่ายตรงกันข้าม
ชีวิตการเมืองของก็เป็นเช่นนี้ เพราะการต่อสู้ที่ว่านี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าคือสงครามช่วงชิงอำนาจ ซึ่งบางคราวก็ชนะบางครั้งก็แพ้ ผู้ใหญ่ที่รักเคารพของตนเคยให้คำแนะนำว่าหากแพ้ก็ให้หมอบให้ราบ รอเวลา และเมื่อชนะก็ไม่ซ้ำเติมฝ่ายที่แพ้ ซึ่งตนก็ยึดถือปฏิบัติแบบนี้มา
จบถือว่าจบ ไม่มีอาฆาตหรือคิดแก้แค้นเพราะที่สุดแล้วคนทำงานการเมืองด้วยอุดมการณ์เป้าหมายก็คือประโยชน์สุขของประเทศชาติประชาชน ซึ่งแน่นอนที่สุดประเทศจะเดินหน้าต่อไปได้ก็ด้วยความสามัคคี
ส่งผลให้อีก 2 แกนนำ คือ “สุรทิน พิจารณ์” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปไตยใหม่ และ “ไทกร พลสุวรรณ” นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้ถอนแจ้งความด้วย หลังจากที่เมื่อวานนี้ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ “ภูมิธรรม” ในความผิดตามมาตรา 112 จากกรณีพยายามยื่นทูลเกล้าฯ พ.ร.ฎ.ยุบสภา
แต่ “นพรุจ วรชิตวุฒิกุล” อดีตแกนนำพิราบขาว ยังไม่ยอม เดินทางเข้าแจ้งความกองปราบดำเนินคดีกับ ”ภูมิธรรม” ในข้อหาเดียวกันเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (4 ก.ย.2568)
กลัวเขากระโดงหาย หลังเปิดโปรแดงเดือน 9 “เลือกชัยเกษม ไม่ต้องรอ 4 เดือน” ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ปฎิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เลื่อนแจ้งความร้องทุกข์กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) คดีเขากระโดง ว่า เขากระโดงไม่สำคัญเท่ากับการเลือกตั้ง
“...ถ้าเลือก นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็จะหายไปตลอดเวลา และหายไปตลอดกาล”
วางไทม์ไลน์ชัดจากค่ายน้ำเงิน ภูมิใจไทย มี.ค.2569 เข้าสู่โหมดยุบสภา ยังไม่ทันโหวตเลือก “อนุทิน ชาญวีรกูล” นั่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 แต่โผเรียกน้ำย่อยว่าที่ ครม.ชุดใหม่ถูกปล่อยออกมารัว ๆ ว่า นอกจาก “หัวหน้าหนู” จะควบตำแหน่งว่าที่นายกฯ แล้ว จะกลับไปกำกับดูแลสิงห์คลองหลอด “มหาดไทย” พร้อม “ซาบีดา ไทยเศรษฐ์” ลูกสาว “ชาดา ไทยเศรษฐ์” ที่จะกลับมาเป็น รมช.มหาดไทย
ส่วน “นก” ไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย คาดมีโอกาสสูงเข้าป้ายเป็น รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม
ขณะที่ “ผึ้ง” ศุภมาส อิศรภักดี ได้เก้าอี้ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นอกจากนี้ยังมีชื่อของ “โกเกี๊ยะ” พิพัฒน์ รัชกิจประการ ที่อาจได้ดูคมนาคม และ “แบต” ภราดร ปริศนานันทกุล ก็เป็นชื่อหนึ่งที่อาจได้เป็นรัฐมนตรีป้ายแดง นั่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ขณะที่โควตาของกล้าธรรม ได้ 4 เก้าอี้รัฐมนตรีว่าการ คุมกระทรวงเดิม 2 กระทรวง คือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงศึกษาธิการ และอาจได้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
กลุ่มงูเห่า จากพรรคเพื่อไทย “ศักดา วิเชียรศิลป์” ที่ขน สส.เพื่อไทย เข้าร่วมรัฐบาล 8 คนที่ คาดว่า จะได้รัฐมนตรี 1 เก้าอี้ จากเดิมที่จะขนมาได้ถึง 19 คน แต่แว่วว่า ถูกคนบ้านป่าฉกหายไประหว่างทาง
สำหรับพรรครวมไทยสร้างชาติ กลุ่ม “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น ได้โควตา 2 รัฐมนตรีว่าการ และ 1 รัฐมนตรีช่วยว่าการ มีข้อมูลระบุ นายสุชาติ จะดำรงตำแหน่ง รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ “ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ” ที่ปรึกษา รมช.พาณิชย์ อาจมาดำรงตำแหน่ง รมว.อุตสาหกรรม
ขณะที่ “แด๊ก” ธนกร วังบุญคงชนะ อาจจะนั่งเก้าอี้ รมช.ศึกษาธิการ และพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โดยกลุ่ม “สันติ พร้อมพัฒน์” คาดว่าจะได้คุมกระทรวงใหญ่ เช่น กระทรวงพลังงาน
นอกจากนี้ ยังมีหลายกระทรวงที่น่าจับตา ไม่ว่าจะเป็น กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม กระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนงานด้านต่างประเทศและความมั่นคง รวมทั้งกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงยุติธรรม
ว่าไปแล้ว สำหรับการเมืองไทย อะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้ และเปลี่ยนแปลงได้เสมอ จึงต้องตั้งสติก่อนพิจารณา เมื่อโปรมักจะมาพร้อมข้อเสนอ ลด แลก แจกแถม
อ่านข่าว
จับกระแสการเมือง: “โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน” โหวต “อนุทิน” นั่งนายกฯ “ภูมิธรรม” จ่อยุบสภา