จีนดันแผนปฏิบัติการ AI ร่วมอาเซียนพัฒนา ยกระดับข้ามพรมแดน

ท่ามกลางการแข่งขันทางเทคโนโลยีที่ทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา AI กลายเป็น “สมรภูมิรบที่ดุเดือด” ของ 2 ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี โดยก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศปรับแผนปฏิบัติการ AI ของสหรัฐฯ ภายใต้ชื่อ “Winning the Race: America’s AI Action Plan” เพื่อเสริมสร้างความเป็นผู้นำด้าน AI ของสหรัฐฯ

หลังจากนั้นไม่ถึงสัปดาห์ จีนประกาศเปิดตัวแผนปฏิบัติการ AI ในที่ประชุมปัญญาประดิษฐ์โลก เสนอให้มีการจัดตั้งองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศและเน้นการพัฒนาแบบโอเพนซอร์ส ซึ่งทั้ง 2 ประเทศรู้ว่า ใครที่สร้างระบบนิเวศ AI ที่ใหญ่ที่สุดจะเป็นผู้กำหนดมาตรฐาน AI ระดับโลก และผลประโยชน์มหาศาลทั้งทางเศรษฐกิจและการทหาร

นครหนานหนิง เมืองหลวงของกว่างซี

แผนปฏิบัติการของจีนมีลักษณะการสร้างความร่วมมือในการพัฒนาและวิจัยร่วมกับประเทศอื่น แบ่งปันข้อมูลแบบเปิด พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานข้ามพรมแดน พร้อมฝึกอบรมความรู้ด้าน AI โดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะกลุ่มประเทศอาเซียน ภายใต้แผน “AI Plus” มุ่งผนวกเทคโนโลยีนี้เข้ากับทุกภาคอุตสาหกรรม

โดยหนานหนิงมีทำเลที่ดีอยู่ใกล้อาเซียนมากที่สุด จึงมีบทบาทเชิงยุทธศาสตร์ในฐานะ “ประตู” สู่อาเซียน และศูนย์กลางความร่วมมือจีน–อาเซียน ภายใต้กระแสการพัฒนาเทคโนโลยีที่รวดเร็ว ส่งผลให้หนานหนิงที่กำลังมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมและความร่วมมือด้าน AI สามารถเชื่อมโยงอาเซียนโดยตรง

นอกจากนี้ จีนยังได้ผลักดันเขตเมืองใหม่ “อู่เซี่ยง” ของหนานหนิงที่กำลังได้รับความสนใจ เนื่องจากรัฐบาลจีนสนับสนุนให้พื้นที่นี้เป็นศูนย์กลางความเจริญแห่งใหม่ โดยมีโครงการสำคัญ คือ ศูนย์ความร่วมมือด้านนวัตกรรม AI จีน–อาเซียน ภายใต้แนวคิด Smart ASEAN ผสมผสาน AI เข้ากับวัฒนธรรมอาเซียน การโต้ตอบอัจฉริยะ และประสบการณ์เสมือนจริง (VR/AR)

ศูนย์นวัตกรรมและความร่วมมือด้าน AI จีน–อาเซียน (China-ASEAN Artificial Intelligence Innovation and Cooperation Center)

จีนชู AI Super League: สร้าง AI ครบวงจร

นอกจากนี้ เพื่อตอกย้ำความเป็นเมืองแห่งปัญญาประดิษฐ์ จีนได้จัดการแข่งขัน Super League of AI Empowerment for All Industries หรือ AI Super League ที่จัดขึ้นในช่วงกลางเดือนก.ย.นี้ ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ AI ของจีน โดยเป้าหมายเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมในจีนให้หันมาใช้ AI ในการทำธุรกิจ การแข่งขันดังกล่าวเป็นการรวมทีมเทคโนโลยี AI ทั้งจากนักลงทุน ธุรกิจขนาดใหญ่ พันธมิตรจากอาเซียน นักประดิษฐ์อิสระเข้าร่วมแข่งขัน ครอบคลุมกว่า 18 อุตสาหกรรม เช่น ยานยนต์ เกษตร วัฒนธรรมและการท่องเที่ยว การศึกษา การแพทย์ การเงิน การขนส่ง ค้าปลีก สื่อ ความปลอดภัยด้าน AI การตลาด อสังหาริมทรัพย์ กีฬา การใช้ชีวิตประจำวัน และพร้อมเพิ่มสาขาใหม่ในอนาคต

รวมถึงแผนการจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมและความร่วมมือด้าน AI จีน–อาเซียน (China-ASEAN Artificial Intelligence Innovation and Cooperation Center) เป็นการสร้างระบบนิเวศ AI ที่ครบวงจร ตั้งแต่งานวิจัยและพัฒนา (R&D) ไปจนถึงการใช้งานจริง พร้อมทั้งสนับสนุนบริษัท AI ที่ต้องการเข้าสู่ตลาดอาเซียน พัฒนาอุตสาหกรรม AI ระหว่างจีนกับอาเซียน ก่อให้เกิดการใช้เทคโนโลยี AI อย่างแพร่หลายในระยะยาว รวมถึงเพิ่มโอกาสการจ้างงาน

เครื่องจักรกลการเกษตรอัจฉริยะ

เอกชนจีนเล็งขน AI รุกตลาดอาเซียน

การมุ่งมั่นของรัฐบาลจีนที่ต้องการเป็นศูนย์กลางของเทคโนโลยีด้านปัญญาประดิษฐ์ โดยตลอดหลายปีมีการส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการจีนพัฒนาเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ เพื่อลดการใช้แรงงานมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นภาคอุตสาหกรรมการเกษตร หรือภาคอุตสาหกรรมหนัก โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมการเกษตร จีนมีการพัฒนาเครื่องจักรกลการเกษตรที่ผสานเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติและระบบเชื่อมต่อด้วยดาวเทียมเข้ากับอุปกรณ์เครื่องจักรกลการเกษตรอัจฉริยะที่กำลังเติบโตเทคโนโลยีดังกล่าวสามารถประยุกต์ใช้เครื่องจักรกลการเกษตรอัจฉริยะในอาเซียนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการเพาะปลูกผลผลิต และช่วยเกษตรกรลดต้นทุนการผลิต หรือแม้แต่หุ่นยนต์ลาดตระเวนสวนอัจฉริยะสำหรับตรวจสอบศัตรูพืชและโรคพืช มีประสิทธิภาพมากกว่าการใช้แรงงานคนถึง 10 เท่า

หุ่นยนต์ลาดตระเวนสวนอัจฉริยะ

นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังได้เปิดเวทีให้กับนักศึกษาต่างชาตินำเสนอผลงานที่ใช้ AI โดยใช้เอกลักษณ์และวัฒนธรรม โดยอิงจากรสนิยมและพฤติกรรมผู้บริโภคและแนวโน้มตลาด เพื่อให้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เข้าถึงใจผู้บริโภคชาวจีนได้อย่างแท้จริง ในขณะที่นักศึกษาจีนได้รับการสนับสนุนด้านเทคโนโลยี AI เช่น การพัฒนาอัลกอริทึมและการจัดการแพลตฟอร์ม เพื่อให้การส่งเสริมสินค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

Liu Jieying ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษาธุรกิจระหว่างประเทศกวางซี เปิดเผยว่า เวที AI+ Cross-border E-commerce Innovation Application Competition for ASEAN เป็นโอกาสให้นักศึกษาจากอาเซียนได้นำเสนอผลงานที่สะท้อนเอกลักษณ์ของภูมิภาค ผ่านความเข้าใจในวัฒนธรรมท้องถิ่น พฤติกรรมผู้บริโภค และแนวโน้มตลาด ขณะเดียวกันนักศึกษาจีนมีบทบาทในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI การพัฒนาอัลกอริทึม และดูแลระบบแพลตฟอร์ม

Liu Jieying ผอ.วิทยาลัยอาชีวศึกษาธุรกิจระหว่างประเทศกวางซี

การใช้ AI เป็นสะพานเชื่อมระหว่างนวัตกรรมและวัฒนธรรม สร้างผลงานที่โดดเด่นและลงตัว ทั้งในด้านความล้ำสมัยและการรักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม สะท้อนให้เห็นศักยภาพของ AI ในการเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้กับผลิตภัณฑ์จากอาเซียนในการขยายสู่ตลาดโลก

ดันเทคโนโลยีการท่องเที่ยวสู่ตลาดอาเซียน

นับตั้งแต่วิกฤตโควิดที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะคลี่คลาย ธุรกิจทั่วโลกกลับมาดำเนินตามปกติ แต่ดูเหมือนว่ากำลังซื้อของประชาชนจะยังไม่กลับมา หลายประเทศพยายามออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับจีนที่ออกนโยบาย “จีนเที่ยวจีน” ที่พยายามให้ประชาชนจีนเที่ยวภายในประเทศ รวมถึงเน้นการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยการผ่อนคลายกฎระเบียบการเข้าเมือง เช่น การยกเว้นวีซ่าสำหรับหลายประเทศ รวมถึงไทย ที่สามารถเข้าพำนักได้นานขึ้นโดยไม่ต้องขอวีซ่า และการเพิ่มมาตรการอำนวยความสะดวก เช่น การลดหย่อนภาษี และการส่งเสริมการท่องเที่ยวในเมืองหลักต่าง ๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาใช้จ่ายในจีนมากขึ้น

โดยการแข่งขัน AI Super League มีศูนย์กลางที่นครหนานหนิง เชื่อมโยงกับเมืองนวัตกรรมชั้นนำของจีน และขยายสู่ต่างประเทศในกรุงเทพฯ และกัวลาลัมเปอร์ เริ่มจัดตั้งแต่ก.ค. 2025 ครอบคลุมหลายสาขา เช่น ยานยนต์ วัฒนธรรมและการท่องเที่ยว อีคอมเมิร์ซ สุขภาพ การเกษตร และจะขยายสู่การศึกษา การขนส่ง และสื่อในปี 2026

สำหรับเส้นทางวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว มีผู้สมัครกว่า 506 โครงการ ผ่านเข้ารอบ 50 ทีม มีนวัตกรรมที่โดดเด่น เช่น ระบบนำทางอัจฉริยะหลายภาษา รถนำเที่ยวไร้คนขับ แว่นตา AI แปลภาษา มนุษย์ดิจิทัลเสมือนจริง และการจัดการแหล่งท่องเที่ยวอัจฉริยะ ซึ่งสามารถนำไปใช้จริงในอาเซียน เช่น ไทย ลาว เวียดนาม และมาเลเซีย เพื่อยกระดับประสบการณ์การท่องเที่ยวให้ทันสมัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้น ซึ่งโครงการที่โดดเด่นจะถูกนำไปจัดแสดงในงาน China-ASEAN Expo (CAEXPO) พร้อมโอกาสรับเงินสนับสนุนและทรัพยากรเพื่อขยายตลาดในอาเซียน

ปัจจุบันมีการแข่งขันเริ่มต้นแล้ว 11 หมวดหมู่ เช่น ยานยนต์ วัฒนธรรมและการท่องเที่ยว อีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน การตลาด การสร้างบุคลากรและผู้ประกอบการ ความปลอดภัยด้าน AI เกษตรอัจฉริยะ สุขภาพดิจิทัล การประยุกต์ใช้ AI สำหรับ SMEs อีสปอร์ต และการพัฒนาเกม โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่ 19 ก.ค. ถึง 20 ก.ย.นี้ ซึ่งขณะนี้มีผู้สมัครกว่า 2,000 ทีม รวมถึงทีมจากประเทศอาเซียนที่เข้าร่วมใน 7 หมวดหมู่

ไทยโชว์ “เมืองแห่งเสน่ห์” ในงาน CAEXPO

งาน China–ASEAN Expo (CAEXPO) ครั้งที่ 22 ภายใต้หัวข้อ เสริมสร้างการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้วยปัญญาประดิษฐ์และนวัตกรรมดิจิทัล – การใช้อนาคตร่วมของ FTA 3.0 จีน–อาเซียน ประเทศไทยได้เข้าร่วมงานและจัดแสดงในโซน เมืองแห่งเสน่ห์ (City of Charm) บนพื้นที่ 160 ตารางเมตร นำเสนอผลไม้ท้องถิ่น แหล่งท่องเที่ยว และโอกาสการลงทุน

ประเทศไทยได้เข้าร่วมงานและจัดแสดงในโซน เมืองแห่งเสน่ห์ (City of Charm) ในงาน CAEXPOครั้งที่ 22 ภายใต้หัวข้อ เสริมสร้างการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้วยปัญญาประดิษฐ์และนวัตกรรมดิจิทัล – การใช้อนาคตร่วมของ FTA 3.0 จีน–อาเซียน

ขณะเดียวกัน กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดโอกาสให้ 109 บริษัทไทยนำเสนอสินค้าอาหาร สุขภาพและความงาม แฟชั่น ของใช้ในบ้าน และสินค้านวัตกรรม ขณะที่ BOI จัดสัมมนา Thailand Investment Opportunities and BOI Policies แนะนำโอกาสและแนวทางการลงทุน พร้อมด้วย Mitr Phol Group ที่นำเทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะร่วมจัดแสดงใน ASEAN High-tech Gallery ด้วย

โดยงานในปีนี้คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมจากอาเซียนกว่า 650 ราย แบ่งเป็น เวียดนาม 120 ราย ไทย 109 ราย เมียนมา 104 ราย ลาว 69 ราย อินโดนีเซีย 80 ราย กัมพูชา 62 ราย มาเลเซีย 55 ราย สิงคโปร์ 26 ราย บรูไน 14 ราย และฟิลิปปินส์ 13 ราย ซึ่งสะท้อนความหลากหลายและศักยภาพของภูมิภาคอาเซียนในเวทีการค้าและการลงทุนระดับนานาชาติ

การจัดงาน CAEXPO 2025 ไม่ได้มีเพียงการแสดงความก้าวหน้าด้าน AI ของจีนเท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีนำเสนอศักยภาพทางการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวของประเทศอาเซียน ตลอดจนสะท้อนโอกาสทางธุรกิจในตลาดภูมิภาคที่กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

ความเคลื่อนไหวเชิงรุกครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของจีนในการใช้ AI เป็นพลังขับเคลื่อนความร่วมมือกับอาเซียน ไม่เพียงเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจดิจิทัล แต่ยังเป็นการสร้างโอกาสใหม่ให้กับนวัตกรรม สตาร์ทอัพ และแรงงานในภูมิภาค โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และวางรากฐานความร่วมมืออย่างยั่งยืนระหว่างจีนและอาเซียนในอนาคต

อ่านข่าว:

 “เนื้อโคขุน” สุรินทร์ ของดีเมืองไทย รสชาตินุ่ม อร่อยลิ้น ไร้กลิ่นสาบ

"อาร์เจนตินา" ประตูสู่ ลาตินอเมริกา โอกาส "ยานยนต์-อาหาร"ไทย

Negative Income Tax รายได้น้อยก็ต้องยื่น รายได้สูงก็ต้องยื่น