แม้วันนี้ (22 มิ.ย.) จะยังไม่มีการอ่านคำพิพากษาตามนัดของศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง โดยศาลได้พูดคุยกับคู่ความทั้ง 2 ฝ่าย คือญาติผู้เสียหายที่เป็นโจทก์ ร่วมยื่นฟ้องในคดีอาญา และจำเลยซึ่งเป็นเยาวชนอายุ 17 ปีในขณะเกิดเหตุ
โดยศาลให้เหตุผลว่าได้นำพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พุทธศักราช 2554 มาตรา 132 มาใช้จึงอยากให้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย เจรจา กันระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายโดยมีการนัดเจรจาในวันที่ 2 ก.ค.เนื่องจาก คดีนี้มีผลผูกพันไปถึงคดีแพ่งที่ทางญาติผู้เสียหายได้ฟ้องกับศาลแพ่งเป็นเงินกว่าร้อยล้านบาท
<"">
<"">
โดยศาลให้เหตุผลว่าได้นำพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พุทธศักราช 2554 มาตรา 132 มาใช้จึงอยากให้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย เจรจา กันระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายโดยมีการนัดเจรจาในวันที่ 2 ก.ค.เนื่องจาก คดีนี้มีผลผูกพันไปถึงคดีแพ่งที่ทางญาติผู้เสียหายได้ฟ้องกับศาลแพ่งเป็นเงินกว่าร้อยล้านบาท
ทั้งนี้ พระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว มาตรา 132 ระบุไว้ว่า ในกรณีที่ศาลเห็นว่าพฤติการณ์แห่งคดียังไม่สมควรจะมีคําพิพากษา หรือ บิดา มารดา ผู้ปกครอง ได้ร้องขอเมื่อศาลสอบถามผู้เสียหายแล้ว ศาลอาจมีคําสั่งให้ปล่อยตัวจําเลยชั่วคราว แล้วมอบตัวจําเลยให้บุคคลดังกล่าวโดยไม่มีประกันหรือมีประกัน โดยกําหนดเงื่อนไข เช่น ให้จําเลยรายงานตัว ต่อพนักงานคุมหรือองค์การด้านเด็กเพื่อเข้ารับการแก้ไขบําบัดฟื้นฟู รับคําปรึกษาแนะนําเข้าร่วมกิจกรรมบําบัดหรือกิจกรรมทางเลือก ภายในระยะเวลาที่ศาลเห็นสมควร
ส่วนมาตรา 133 เมื่อจำเลยได้ปฏิบัติ ตามเงื่อนไขและภายในระยะเวลาที่ ศาลกําหนดตามมาตรา 132 หากศาลสั่งยุติคดีโดยไม่ต้องมีคําพิพากษาเกี่ยวกับการกระทําความผิดของจําเลย เว้นแต่คําสั่งเกี่ยวกับของกลางและให้ถือว่าสิทธินําคดีอาญามาฟ้องเป็นอันระงับ ถ้าจําเลยผิดเงื่อนไขตามมาตรา 132 ก็ให้ศาลยกคดีขึ้นพิจารณาพิพากษาต่อไป
แท็กที่เกี่ยวข้อง: