วันนี้ ( 14 ก.ค.2568) นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่ากระทรวงพาณิชย์ มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย เพื่อเป้าหมายสูงสุดคือทำให้ประชาชนมีความสุข การผลักดันนโยบาย Soft Power ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของรัฐบาล ที่นำเสน่ห์แห่งภูมิปัญญาในงานศิลปหัตถกรรมมรดกของชาติ มาต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มให้เกิดการสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์จากฝีมือคนไทย และสนับสนุนให้คนไทยร่วมซื้อร่วมใช้เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจภายในประเทศ
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รมว.พาณิชย์
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รมว.พาณิชย์
ทั้งนี้ SACIT ก้าวสู่ปีที่5 มีหน้าที่หลักคือส่งเสริมการสร้างอาชีพ สร้างรายได้จากงานศิลปหัตถกรรม เป็นส่วนสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจฐานราก นำมาสู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของช่างฝีมือไทย ให้ได้เป็นที่รู้จัก และสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศ
SACIT ยังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์งานศิลปหัตถกรรม หนุนโอกาสทางการตลาดให้แก่ช่างฝีมือไทย สิบสานงานศิลปหัตถกรรมไทย ควบคู่สร้างการรับรู้ และส่งต่องานหัตถกรรมที่เป็นภาพลักษณ์ของประเทศให้ได้รับการยอมรับในเวทีนานาชาติ เพื่อให้ภูมิปัญญาไทยกลายเป็นอีกหนึ่งเสาหลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างเข้มแข็งต่อไปในอนาคต
ผศ.ดร.อนุชา ทีรคานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย
ผศ.ดร.อนุชา ทีรคานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย
ด้าน ผศ.ดร.อนุชา ทีรคานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย กล่าวว่าตลอด 4 ปีที่ผ่านมา SACIT มุ่งขับเคลื่อน ส่งเสริม งานศิลปหัตถกรรมไทยในทุกมิติ มีกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนงานเชิงรุกเพื่อการพัฒนางานศิลปหัตถกรรมไทยภายใต้การดำเนินงาน 4 มิติ ได้แก่ การสืบสาน รักษางานหัตถศิลป์ที่คิดถึง หรือหัตถกรรมใกล้สูญหาย การมุ่งเป้าหมายสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน การยกระดับงานคราฟต์ผ่านเครือข่ายพันธมิตร และการสร้างองค์กรแห่งความสุข
ปีนี มีการปรับเปลี่ยนระบบอัตลักษณ์องค์กรใหม่ ในการเป็น นักปั้นดาวแห่งหัตถศิลป์ไทยเชื่อมความงามไกลสู่สากล : Nurturing Thai Crafts to Global Trends และมาพร้อมกับ โลโก้ใหม่ ดาวแปดแฉก ที่แสดงให้เห็นถึงการส่องประกายของดวงดาว ซึ่งเป็นภาพสัญลักษณ์แทนการขับเคลื่อนภารกิจงานของ SACIT
รวมไปถึงการส่งเสริม Up Skill Re Skill เพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์ ร่วมสมัย สอดรับกับเทรนด์ใหม่ ๆ รวมทั้ง ทำหน้าที่เป็นผู้ขับเคลื่อนสร้างโอกาสทางการตลาดทั้งใน และต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดพื้นที่จัดจำหน่ายในงาน Crafts Bangkok 2025 ที่ผ่านมา งาน London Craft Week งาน Tout à fait Thai กรุงปารีส งาน INDEX Dubai ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการได้แสดงศักยภาพของงานศิลปหัตถกรรมไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล
การเป็นนักปั้น นับว่าเป็นบทบาทที่ท้าทายของ SACIT เพราะไม่ใช่แค่เฟ้นหาดาวดวงใหม่ แต่คงยังต้องทำหน้าที่เป็นสะพานส่งต่อความงดงามและเอกลักษณ์ของชาติให้เป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยให้ภูมิปัญญาอันล้ำค่าไม่สูญหายไป อีกทั้งยังเป็นกำลังหลักในการผลักดันให้งานศิลปหัตถกรรมสามารถสร้างรายได้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย และยกระดับสร้างความเข้มแข็งให้แก่วงการงานศิลปหัตถกรรม
ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) เพื่อสนับสนุนส่งเสริมและพัฒนา “คน”
ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) เพื่อสนับสนุนส่งเสริมและพัฒนา “คน”
นอกจากนี้ SACIT ยังให้ความสำคัญกับการสร้างความยั่งยืนในงานศิลปหัตถกรรมไทย ผ่านการส่งเสริมใน 3 มิติหลัก ๆ ประกอบด้วย มิติทางวัฒนธรรม เชิดชู ครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม และผู้สร้างสรรค์งานหัตถกรรมรุ่นใหม่ (New Young Craft) หรือแม้แต่การสนับสนุนให้เกิดเป็นชุมชนหัตถกรรม เพื่อให้งานหัตถกรรมไทยเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่อยู่คู่สังคมไทย
มิติทางสังคม ส่งเสริมให้เกิดการประกอบอาชีพโดยใช้ภูมิปัญญาในงานศิลปหัตถกรรมมาเป็นเครื่องมือในการสร้างรายได้ ยกระดับคุณภาพชีวิต รวมทั้งส่งเสริมสร้างอาชีพจากงานศิลปหัตถกรรมให้แก่กลุ่มเปราะบาง เพื่อให้เห็นคุณค่าในตัวเอง และสามารถพึ่งพาตนเองได้
และมิติทางสิ่งแวดล้อม ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับการผลักดันงานศิลปหัตถกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สอดรับกับเทรนด์โลก จึงได้มีการสนับสนุนให้มีการใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ และมีกระบวนการผลิตที่รักษ์โลกไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
“สถาบันยังได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) เพื่อส่งเสริมและพัฒนา คน เพราะการพัฒนาคน เป็นเป้าหมายของงานศิลปหัตถกรรมไทยและวางรากฐานที่แข็งแรงซึ่งจะช่วยให้การพัฒนางานศิลปหัตถกรรมไทยสามารถตอบโจทย์ความต้องการของตลาดและยั่งยืน”
อ่านข่าว:
พณ.ย้ำ ขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่กระทบเศรษฐกิจภาพรวม
ภาษี "ทรัมป์" ไม่กระทบจ้างงาน รมว.แรงงานเตรียมแผนรับมือ
ภาษีตอบโต้ 36 % ไทย "ไร้แสงปลายอุโมงค์" คาดครึ่งปีหลังลบหนัก