องค์การแพธค้านแนวคิดส่งแรงงานต่างชาติ "ตั้งครรภ์" กลับบ้าน

หลังกระทรวงแรงงานมีแนวคิดที่จะนำนโยบายส่งกลับแรงงานหญิงข้ามชาติท้องมีเสียงวิพากวิจารณ์จากตัวแทนเครือข่ายด้านองค์กรข้ามชาติต่าง ๆ โดยเฉพาะข้อกังวลเรื่องการลิดรอนสิทธิมนุษยชน และ อีกข้อกังวลหนึ่งที่ตัวแทนองค์การแพธ กังวล คือ หากมีการนำนโยบายนี้มีผลบังคับใช้จะทำให้โรงพยาบาลบางแห่งปฏิเสธการรับฝากครรภ์ของแรงงานข้ามชาติ ซึ่งจะนำไปสู่การเกิดโรคระบาด

มน แรงงานพม่า วัย 28 ปี ซึ่งเพิ่งตั้งท้องลูกคนที่สองได้เพียง 3 เดือนเล่าถึงเหตุการณ์ที่สูญเสียลูกคนแรกจากการเจ็บป่วยและพาไปรักษาในโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งของจังหวัดสมุทรสาครเมื่อ 4 ปีก่อน และจนถึงขณะนี้เธอยังไม่รู้ว่าลูกตายเพราะสาเหตุใด แต่ มน ก็ยังมั่นใจว่าแพทย์ไทยให้การรักษาอย่างดีที่สุด และยังยืนยันว่า จะฝากท้องลูกคนที่สองกับโรงพยาบาลแห่งนี้ เนื่องจากมั่นใจในการแพทย์ของไทย

จากการสำรวจข้อมูลในพื้นที่ที่มีแรงงานข้ามชาติของที่ปรึกษาด้านสุขภาพ องค์การแพธ พบว่า ความเชื่อมั่นในระบบสาธารณสุขเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้แรงงานข้ามชาติต้องการคลอดลูกในประเทศไทยมากกว่าเดินทางกลับไปคลอดที่ประเทศพม่า ที่ปรึกษาด้านสุขภาพ จึงไม่เห็นด้วยกับนโยบายส่งแรงงานท้องกลับประเทศ และ ยังขอให้ทบทวนนโยบายดังกล่าว เนื่องจากส่งผลกระทบต่อแม่และเด็กในท้องในระหว่างการเดินทาง รวมถึงโรงพยาบาลอาจปฏิเสธการรับฝากครรภ์ของแรงงานกลุ่มนี้

ที่ปรึกษาด้านสุขภาพ องค์การแพธ ยังเห็นว่า การเดินทางกลับประเทศจะส่งเสริมให้มีการค้ามนุษย์เพิ่มขึ้น ดังนั้นวิธีการแก้ปัญหาแรงงานเด็กและการค้ามนุษย์ได้ดีที่สุด คือ การส่งเสริมให้มีการคลอดลูกในโรงพยาบาลที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย เพราะผลการสำรวจข้อมูลจากแรงงานพม่าส่วนใหญ่พบว่า เมื่อลูกของแรงงานกลุ่มนี้มีอายุไม่เกิน 1 ปีจะถูกส่งกลับไปให้ญาติที่อยู่ในประเทศพม่าเลี้ยงดู ยกเว้นในพื้นที่ที่เป็นลักษณะของชุมชน เช่น อำเภอมหาชัย จังหวัด สมุทรสาคร ซึ่งมีญาติคอยเลี้ยงดู