ทีมนักวิจัยจากประเทศออสเตรเลีย ชี้ DNA ของมนุษย์สามารถพบได้ในอากาศ ซึ่งอาจใช้เป็นหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ในการหาตัวคนร้ายได้
ในอนาคตทีมนิติเวชอาจใช้เครื่องปรับอากาศช่วยเข้าถึงหลักฐานทาง DNA ในการแก้ปัญหาอาชญากรรมได้ เนื่องจากงานวิจัยใหม่ที่นำทีมโดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฟินเดอร์ ประเทศออสเตรเลีย (Flinders University of South Australia) ได้สำรวจเทคนิคใหม่ ๆ ในการรวบรวมและบันทึกหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ทางอากาศที่สำคัญจากสถานที่เกิดเหตุ เป็นอีกทางที่จะได้หลักฐานชี้ตัวคนร้ายนอกเหนือจากลายนิ้วมือและร่องรอยอื่น ๆ ที่คนร้ายมักลบออกไป
DNA มนุษย์สามารถพบได้ในอากาศจากละอองน้ำลายที่มนุษย์มีการพูดคุยหรือหายใจ การผลัดเซลล์ หรือการหลุดร่อนของพื้นผิวหนังต่าง ๆ ซึ่งจะทำการรวบรวมเพื่อวิเคราะห์ DNA โดยอาจนำหลักฐาน DNA ที่ได้มาเพื่อพิสูจน์ได้ว่ามีคนอยู่ในห้องหรือไม่ แม้ว่าคนร้ายจะสวมถุงมือหรือมีการเช็ดพื้นผิวต่าง ๆ เพื่อลบหลักฐานก็ตาม
นักวิจัยได้มีการศึกษานำร่องโดยมุ่งเน้นไปที่ช่องทางการรวบรวมดีเอ็นเอสิ่งแวดล้อม หรือ eDNA เพิ่มเติม โดยการตรวจสอบเครื่องปรับอากาศในช่วงเวลาต่าง ๆ เพื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์ ในการศึกษาครั้งนี้นักวิจัยได้ทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศในสำนักงาน 4 แห่ง และบ้าน 4 หลัง โดยได้กำจัด DNA ที่มีอยู่ออกไป และปล่อยให้ผู้อยู่อาศัยใช้ชีวิตตามปกติเป็นเวลา 4 สัปดาห์ เมื่อเก็บตัวอย่างจากด้านในเครื่องปรับอากาศ พบว่า eDNA ที่สามารถจับคู่กับผู้อาศัยได้ในทุกตัวอย่างยกเว้นเพียงตัวอย่างเดียว
จากการศึกษาพบว่าโดยปกติแล้ว eDNA ที่ลอยอยู่ในอากาศนั้นสามารถกรอง eDNA ได้โดยตรงจากอากาศแม้ว่าจะไม่ได้เปิดเครื่องปรับอากาศ แต่การตรวจจับ eDNA จะทำได้เพียงระยะเวลาสั้น ๆ ซึ่งต่างจากการตรวจโดยเปิดเครื่องปรับอากาศอยู่ เพราะจะทำได้ยาวนานกว่าการตรวจจับโดยไม่เปิดเครื่องปรับอากาศ
การศึกษาดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่น่าสนใจของเครื่องปรับอากาศในการช่วยสืบสวนคดีอาญา เป็นอีก 1 วิธีการที่จะให้ได้หลักฐานชี้ตัวผู้กระทำผิด เนื่องจากไม่มีมนุษย์คนไหนไม่หายใจจึงเป็นเรื่องยากที่จะปกปิด DNA ในส่วนนี้ที่ลอยอยู่ในอากาศได้
ที่มาข้อมูล: newatlas, coolingpost, phys, newsweek
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech