Situs Inversus หรือ ภาวะอวัยวะภายในกลับด้าน เป็นหนึ่งในภาวะความผิดปกติแต่กำเนิดที่หาได้ยาก อวัยวะภายในของร่างกาย เช่น หัวใจ ตับ ม้าม และกระเพาะอาหาร จะจัดวางในตำแหน่งตรงกันข้ามกับปกติอย่างสมบูรณ์หรือบางส่วน แม้ว่าโครงสร้างภายในจะสลับด้าน แต่การทำงานของอวัยวะกลับแทบไม่ต่างจากปกติ ทำให้คนส่วนใหญ่ที่มีภาวะนี้ไม่มีอาการใด ๆ และมักไม่รู้ตัวว่าตนเองมีภาวะนี้ จนกระทั่งเข้ารับการตรวจทางการแพทย์ด้วยเหตุผลอื่น ภาวะนี้พบได้เพียงประมาณ 1 ใน 10,000 คน เท่านั้น
ภาวะ Situs Inversus Totalis คือรูปแบบหนึ่งของ Situs Inversus ที่พบได้บ่อยที่สุด อวัยวะภายในทั้งหมดของร่างกาย รวมถึงหัวใจ ตับ กระเพาะอาหาร ลำไส้ และม้าม จะอยู่ในตำแหน่งตรงข้ามกับปกติ เช่น หัวใจซึ่งโดยทั่วไปจะอยู่ด้านซ้ายของหน้าอก จะหันไปทางขวาแทน เรียกภาวะนี้ว่า Dextrocardia
เนื่องจากการกลับด้านนี้เป็นแบบสมมาตรเหมือนส่องกระจก (Mirror Image) การทำงานของระบบอวัยวะจึงไม่ได้มีการรบกวน ผู้ที่มีภาวะ Situs Inversus Totalis ส่วนใหญ่มักไม่มีอาการผิดปกติใด ๆ เลย และมักตรวจพบโดยบังเอิญจากการทำ X-ray, CT scan หรือ MRI เมื่อเข้ารับการรักษาอาการอื่น เช่น อุบัติเหตุ กระดูกซี่โครงหัก หรือโรคปอดติดเชื้อ
อย่างไรก็ตาม ภาวะนี้สามารถสร้างความสับสนให้กับแพทย์ได้ในบางกรณี เช่น ผู้ป่วยไส้ติ่งอักเสบปกติจะมีอาการปวดที่ท้องขวาล่าง แต่หากผู้ป่วยในภาวะนี้ อาการปวดจะเกิดที่ท้องซ้ายล่างแทน ซึ่งอาจนำไปสู่การวินิจฉัยผิดพลาดหากแพทย์ไม่ทราบถึงภาวะนี้ล่วงหน้า
ตรงกันข้าม ภาวะ Situs Ambiguus หรือ Heterotaxy Syndrome คือความผิดปกติที่อวัยวะบางชิ้นอยู่ในตำแหน่งผิดด้าน หรือไม่อยู่ในตำแหน่งใดที่แน่นอนเลย ในขณะที่อวัยวะส่วนที่เหลืออยู่ในตำแหน่งปกติ
ภาวะนี้มักทำให้เกิดความซับซ้อนด้านการเชื่อมต่อของหลอดเลือด ระบบทางเดินอาหาร และทางเดินหายใจ โดยเฉพาะในทารกแรกเกิด ซึ่งอาจเกิดความผิดปกติร้ายแรง เช่น หัวใจพิการแต่กำเนิด หลอดเลือดแดงใหญ่และหลอดเลือดดำเชื่อมต่อผิดตำแหน่ง หรือลำไส้บิดตัวผิดปกติ ซึ่งอาจต้องรับการผ่าตัดหรือดูแลทางการแพทย์ตั้งแต่ช่วงแรกของชีวิต
แม้ว่าภาวะ Situs Inversus จะไม่ทำให้เกิดอาการในชีวิตประจำวัน แต่ในกรณีที่ต้องเข้ารับการปลูกถ่ายอวัยวะ เช่น หัวใจ ตับ หรือปอด การกลับด้านของอวัยวะทำให้แพทย์ต้องอาศัยการวางแผนอย่างละเอียด เพื่อปรับตำแหน่งการเชื่อมต่อของเส้นเลือด เส้นประสาท และเนื้อเยื่อ ซึ่งอาจใช้เวลาผ่าตัดนานกว่าปกติ นอกจากนี้ยังมีข้อจำกัดเรื่องการจับคู่กับผู้บริจาคอวัยวะ เนื่องจากต้องหาผู้บริจาคที่มีโครงสร้างร่างกายสอดคล้องกันหรือสามารถปรับเปลี่ยนได้เพื่อให้การปลูกถ่ายประสบความสำเร็จ
ต้นเหตุของ Situs inversus คือความผิดปกติทางพันธุกรรม ซึ่งยังไม่แน่ชัดในทุกกรณี แต่หนึ่งในสาเหตุสำคัญคือภาวะ Primary Ciliary Dyskinesia หรือ PCD (ความผิดปกติของซิเลียแรกเริ่ม) ซึ่งเป็นโรคพันธุกรรมที่มีผลต่อโครงสร้างและการทำงานของซิเลีย ซึ่งเป็นส่วนต่อยื่นขนาดเล็กของเซลล์ที่มีหน้าที่กำหนดการจัดวางตำแหน่งของอวัยวะในระหว่างการพัฒนาของเอ็มบริโอ
ในช่วงพัฒนาการของทารกในครรภ์ ซิเลียที่ทำงานผิดปกติอาจทำให้สัญญาณการจัดตำแหน่งอวัยวะถูกส่งไปผิดทิศ ส่งผลให้อวัยวะภายในถูกวางตำแหน่งกลับด้าน ในกลุ่มผู้ป่วย PCD ประมาณ 50% จะมี Situs Inversus Totalis ซึ่งภาวะนี้เมื่อเกิดขึ้นร่วมกับ PCD จะเรียกว่า Kartagener Syndrome ซึ่งอาจมีอาการเพิ่มเติม เช่น การติดเชื้อระบบทางเดินหายใจเรื้อรัง ภาวะมีบุตรยาก และการอักเสบของโพรงไซนัส
เรียบเรียงโดย
โชติทิวัตถ์ จิตต์ประสงค์
Prince of Wales Hospital
Department of Orthopaedics and Traumatology, Faculty of Medicine
The Chinese University of Hong Kong
อัปเดตข้อมูลแวดวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ทันโลกไอที และโซเชียลฯ ในรูปแบบ Audio จาก AI เสียงผู้ประกาศของไทยพีบีเอส ได้ที่ Thai PBS
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech