23 สิงหาคมของทุกปี ได้รับการยกย่องให้เป็น “วันท่องโลกอินเทอร์เนต” หรือ Internaut Day โดยความสำคัญของวันนี้ ต้องย้อนเวลากลับไปเมื่อ 34 ปีก่อน (23 สิงหาคม ปี 1991) ทิม เบอร์เนิร์ส-ลี นักวิทยาศาสตร์ด้านคอมพิวเตอร์ ได้คิดค้นและพัฒนาระบบ เวิลด์ไวด์เว็บ (WWW) และเปิดให้บุคคลทั่วไปได้เข้าใช้เป็นครั้งแรก
ในวาระครบรอบ 34 ปี ของการเปิดใช้ “เว็บไซต์” Thai PBS ชวนเดินทางเข้าสู่โลกแห่งเว็บไซต์ ย้อนเวลาไปดูเรื่องราวจุดกำเนิด และตลอดระยะเวลากว่า 34 ปี โลกแห่งเว็บไซต์ มีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ?
ย้อนเวลากำเนิด “เว็บไซต์” ครั้งแรกของโลก
เว็บไซต์แห่งแรกของโลกมีชื่อว่า http:info.cern.ch เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ปี 1991 โดย ทิม เบอร์เนิร์ส-ลี นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ ได้นำเสนอโครงการหนึ่งซึ่งใช้แนวคิด Hypertext ในการแลกเปลี่ยนพร้อมปรับข้อมูลระหว่างนักวิจัยด้วยกันให้เข้าใจตรงกัน
กระทั่งในช่วงปี 1989 ทิม เบอร์เนิร์ส-ลี เล็งเห็นโอกาสในการใช้ Hypertext ควบรวมเข้ากับ Internet โดยเขาได้ออกแบบพร้อมสร้าง Web Browser รวมทั้ง Editor ตัวแรกของโลก ที่มีชื่อว่า World Wide Web รวมทั้งสร้าง Web Server ขึ้น ที่เรียกว่า httpd ซึ่งย่อมาจาก HyperText Transfer Protocal Deamon
ต่อมา ในปี 1991 เว็บไซต์ตัวแรกของโลกจึงถือกำเนิดขึ้น พร้อมการขึ้นอออนไลน์อย่างเป็นทางการ โดย ทิม เบอร์เนิรส-ลี ให้คำอธิบายว่า WorldWideWeb (WWW) จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ และผู้คนสามารถเป็นเจ้าของ Browser ได้โดยง่าย
เว็บไซต์แรก http:info.cern.ch ที่ ทิม เบอร์เนิร์ส-ลี คิดค้นขึ้น เขาได้เปิดเผยข้อมูลที่มาที่ไปทั้งหมด และไม่เคยจดทะเบียนลิขสิทธิ์ในการคิดค้นครั้งนี้อีกด้วย วันเวลาผันผ่านไป ปัจจุบันเว็บไซต์ http:info.cern.ch ยังคงมีการดำเนินการ โดยเนื้อหาบนเว็บไซต์ บอกเล่าถึงความเป็นมาของการเกิดเว็บไซต์แห่งนี้นั่นเอง
ในส่วนของชีวิต ทิม เบอร์เนิร์ส-ลี ภายหลังได้รับแต่งตั้งเป็น เซอร์ทิโมที จอห์น เบอร์เนิร์ส-ลี (Sir Timothy John Berners-Lee, OM, KBE, FRS, FREng, FRSA) พร้อมกันนี้ ยังได้รับการยกย่องจากนิตยสารไทม์ ฉบับเดือนมิถุนายน ปี 1999 ให้เป็น 1 ใน 100 บุคคลที่มีบทบาทสำคัญที่สุดในศตวรรษที่ 20 ในฐานะที่เป็นผู้ปลุกให้คนหันมาสนใจโลกแห่งไซเบอร์ในเวลาอันรวดเร็ว
เรื่องน่ารู้พื้นฐานที่ทำให้การท่อง “เว็บไซต์” มีประสิทธิภาพมากขึ้น
"เว็บไซต์" เปรียบเสมือน “อาคาร” ขององค์กรที่อยู่บนโลกออนไลน์ โดยทุกเว็บไซต์ต้องมี “ชื่อ ที่อยู่” และต้องไม่ซ้ำกัน
นอกจากนั้นต้องทำให้จำง่าย สั้น กระชับ และเปิดจากที่ใดก็ได้ อุปกรณ์ใดก็ได้ โดยเรียกที่อยู่เว็บไซต์หรือลิงก์นั้นว่า URL ย่อมาจาก Uniform Resource Locator
อีกหนึ่งเรื่องพื้นฐานความปลอดภัยของการใช้งานเว็บไซต์ นั่นคือ ลิงก์เว็บไซต์ที่มีสัญลักษณ์ว่า https โดยตัว s ที่ต่อท้ายนั้น มีความหมายว่า “Secure” หรือ “ปลอดภัย” ไม่เฉพาะแค่เว็บไซต์สำหรับการซื้อขายสินค้า หรือเว็บที่ทำธุรกรรม ปัจจุบันหลาย ๆ เว็บไซต์แม้แต่เว็บไซต์สื่อ อย่าง Thai PBS ก็มีการทำมาตรฐานความปลอดภัยด้วยเช่นกัน
ข้อดีของ https มีดังนี้
- เพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ใช้งาน
- สร้างความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์และองค์กร
- คะแนนอันดับ SEO ดีขึ้น
- มีลูกเล่นของ html (ภาษาโปรแกรมในการพัฒนาเว็บไซต์) ที่มากกว่า http
- ป้องกันการถูกโจมตีจากผู้ไม่ประสงค์ดี
อีกหนึ่งเรื่องพื้นฐานที่ผู้ใช้งานเว็บไซต์ควรรู้ คือการวัดความนิยมเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ โดยมีคำศัพท์ที่น่าสนใจ ดังนี้
- UiP คือ ตัวเลขจำนวนการเข้าเว็บไชต์ของผู้เยี่ยมชมที่ไม่ซ้ำกันในช่วงเวลาหนึ่ง เช่น ถ้าคุณเข้าเว็บไซต์ 10 ครั้งต่อวันจากเครื่องคอมฯ เดียวกัน ก็จะนับเป็น 1 UiP
- Page Views คือ ตัวเลขจำนวนครั้งที่หน้านี้ถูกแสดง โดยไม่คำนึงถึงผู้เข้าใช้ว่าจะซ้ำกันหรือไม่ เช่น ถ้าคุณเข้าเว็บไซต์ 10 ครั้งต่อวัน ก็จะนับเป็น 10 Page Views แม้ว่าจะเข้าจากเครื่องคอมฯ ตัวเดิม
- Returning Visitors คือ อัตราการที่ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ที่เคยเข้ามาก่อนหน้านี้ แล้วกลับมาเยี่ยมชมอีกครั้ง ยิ่งตัวเลขนี้มาก แปลว่าเว็บไซต์มีผู้เข้ามาใช้งานอย่างสม่ำเสมอ
- Time on Site คือ เวลาที่ผู้เยี่ยมชมใช้ ในขณะที่กำลังเข้าเว็บไซต์ ตัวเลขนี้มีค่ามากยิ่งดี แสดงให้เห็นถึงเนื้อหาในเว็บไซต์มีการจัดวางดี อัดแน่น เขียนได้น่าสนใจ มีความหลากหลายของเนื้อหาที่ตอบโจทย์ผู้ใช้
- Pages per visit คือ ค่าเฉลี่ยของการเยี่ยมชมแต่ละหน้าของเว็บไซต์ โดยจะนับจากการที่ผู้เยี่ยมชมเข้ามายังหน้าหนึ่งของเว็บไซต์ แล้วเข้าไปอ่านข้อมูลหน้าอื่น ๆ ต่อภายในเว็บไซต์ ยิ่งตัวเลขนี้มากยิ่งดี ทำให้เห็นว่าคนสนใจข้อมูลภายในเว็บไซต์
- Bounce rate คือ อัตราการเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์หน้าเดียว แล้วออกจากเว็บไซต์โดยไม่กดเข้าดูหน้าอื่นเลย ตัวเลขนี้ยิ่งน้อยจะยิ่งดี เพราะหมายถึงคนยังเข้าชมหน้าอื่น ๆ ภายในเว็บไซต์ต่อไปเรื่อย ๆ แต่หากตัวเลขนี้สูง หมายถึง เว็บไซต์ยังไม่สามารถทำให้น่าสนใจและดึงดูดผู้เข้าชมได้ดีพอ
34 ปีแห่งเว็บไซต์ โลกเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน ?
นับจากวันที่เปิดให้ผู้คนเข้าใช้งานเว็บไซต์ได้เป็นครั้งแรก ผ่านมา 34 ปี ปัจจุบัน เว็บไซต์มีวิวัฒนาการไปอย่างไม่หยุดยั้ง โดยเฉพาะการมาถึงของระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ที่มีส่วนช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้เข้าใช้งานเว็บไซต์มากยิ่งขึ้น
ยกตัวอย่าง การใช้ AI ช่วยอำนวยความสะดวกในการอ่านข่าวให้ฟัง หรือ AI Voice รวมไปถึง AI in Brief ซึ่งเป็นการให้ AI ช่วยสรุปข่าวหรือบทความ โดยสรุปใจความสำคัญ ที่เป็นสาระของบทความนั้น ๆ ให้เข้าใจโดยง่าย
ทั้งนี้ จากข้อมูลในเดือนกันยายน ปี 2024 ปัจจุบันมีเว็บไซต์ที่แอคทีฟอยู่มากกว่า 1.1 พันล้านเว็บไซต์ โดย 17% ในจำนวนดังกล่าว หรือราว ๆ 192 ล้านเว็บไซต์ เป็นเว็บไซต์ที่ยังคงดำเนินการอยู่
มีตัวเลขสรุปออกมาอีกว่า จำนวนเว็บไซต์ใหม่ เกิดขึ้นราว ๆ 250,000 เว็บไซต์ต่อวัน หรือคิดเป็น 10,000 เว็บไซต์ต่อชั่วโมง หรือ 175 เว็บไซต์ต่อวินาที
ส่วน 5 อันดับแรกของเว็บไซต์ที่มียอดผู้เข้าชมมากที่สุดในปี 2024 คือ
- google.com 132.34 พันล้าน/เดือน
- youtube.com 71.97 พันล้าน/เดือน
- facebook.com 12.92 พันล้าน/เดือน
- wikipedia.org 6.73 พันล้าน/เดือน
- instagram.com 6.5 พันล้าน/เดือน
- reddit.com 5.69 พันล้าน/เดือน
- bing.com 4.76 พันล้าน/เดือน
- x.com 4.07 พันล้าน/เดือน
- whatsapp.com 3.88 พันล้าน/เดือน
- taboola.com 3.81/เดือน
ส่วนเว็บบราวเซอร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ Google Chrome 67.48% ตามมาด้วย Safari 18.22% อันดับสามคือ Microsoft Edge 4.84% และอันดับที่สี่ Firefox 2.6% ตามมาด้วย Samsung Internet คิดเป็นสัดส่วนที่ 2.18%
ด้านโดเมนยอดนิยม จากการสำรวจในปี 2024 อันดับหนึ่งที่มีการใช้งานทั่วโลกมากที่สุด คือ .com คิดเป็นสัดส่วนที่ 36.10% ตามมาด้วยโดเมนสัญชาติจีน .cn มีสัดส่วนการใช้ที่ 4.27% อันดับสามเป็นของ .tk คิดเป็นสัดส่วน 3.49% อันดับสี่ .de 3.37% อันดับห้า .net 3.02% และอันดับที่หก .uk 2.98%
ยังมีสถิติการใช้งานเว็บไซต์ในรอบปี 2024 ที่สะท้อนพฤติกรรมของผู้ใช้งานที่มีน่าสนใจ ดังนี้
- การออกแบบเว็บไซต์ที่สวยงาม ถือเป็นหัวใจสำคัญที่มีส่วนในการเข้าชม จากการสำรวจพบว่า กว่า 94% ของผู้คน ตัดสินใจเข้าเว็บไซต์จากเหตุผลเรื่องความสวยงาม
- ในมุมกลับกัน 88% ของผู้ใช้งาน มีแนวโน้มที่จะไม่กลับมายังเว็บไซต์เดิม หากพวกเขาได้รับประสบการณ์ที่ไม่ดีจากการเข้าใช้งานเว็บไซต์
- 47% ของผู้เข้าชมเว็บไซต์ คาดหวังว่าเว็บไซต์จะโหลดได้เร็วภายใน 2 วินาที
- 59.16% ของจำนวนผู้เข้าเว็บไซต์ทั่วโลก ใช้งานเว็บไซต์ผ่านมือถือ
- 85% ของผู้ใช้งานสูงอายุ คาดหวังว่า เว็บไซต์บนเวอร์ชันมือถือ ต้องมีคุณภาพดี หรือดีกว่าเวอร์ชันบนเดสก์ทอป
- มีตัวเลขประมาณการว่า เว็บไซต์ที่โหลดช้า อาจทำให้ธุรกิจสูญเสียรายได้ราว 2.6 พันล้านดอลลาร์ต่อปี
34 ปี การเดินทางของ “เว็บไซต์” มีวิวัฒนาการไปอย่างรวดเร็ว เหนือสิ่งอื่นใด คือการกลายเป็นหนึ่งใน “วิถีชีวิต” ของผู้คนในโลกไปโดยปริยาย
อ้างอิง
- How Many Websites Are There On The Internet In 2025? / musemind.agency