เคยมีคำกล่าวที่ว่า “ไม่เคยมีใครตายไปจริง ๆ หรอก ถ้าเรายังคงจดจำเขาได้” นี่อาจเป็นเหตุผลที่เราเทียบเคียงได้กับบุคคลสำคัญพระองค์หนึ่ง ที่แม้เวลาจะผ่านไปหลายทศวรรษ แต่การจากไปของ “เจ้าหญิงไดอานา” ก็ยังคงไว้ซึ่งความอาลัยรักและรำลึกถึงสิ่งที่เจ้าหญิงเคยทำให้กับใบโลกนี้ด้วยความอบอุ่นที่พระองค์มีให้กับทุกคน

ย้อนทำความรู้จัก “เจ้าหญิงไดอานา”

“เจ้าหญิงไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ (Diana, Princess of Wales)” ประสูติเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2504 ที่เมืองนอร์ฟอล์ก (Norfolk) สหราชอาณาจักร ได้รับตำแหน่ง “เลดี้ไดอานา ฟรานเซส สเปนเซอร์ (Lady Diana Frances Spencer)” ในปี 2518 เมื่อบิดาของท่านได้สืบทอดตำแหน่ง “เอิร์ล สเปนเซอร์ คนที่ 8 (Earl Spencer)”

ต่อมาในวันที่ 29 กรกฎาคม 2524 ได้อภิเษกสมรสกับ “เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์ (Charles, Prince of Wales)” ที่มหาวิหารเซนต์พอล (St. Paul's Cathedral) ในกรุงลอนดอน (London) สหราชอาณาจักร และได้รับการสถาปนาเป็น “เจ้าหญิงไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ (Diana, Princess of Wales)”

แม้ว่าจะมีการหย่าร้างกันภายหลัง ในวันที่ 28 สิงหาคม 2539 แต่ “เจ้าหญิงไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ (Diana, Princess of Wales)” ยังคงได้รับการยกย่องในฐานะสมาชิกราชวงศ์ และพระมารดาของเจ้าชายวิลเลียมและเจ้าชายแฮร์รี่

“เจ้าหญิงไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ (Diana, Princess of Wales)” สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2540 ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส สิริพระชนมายุ 36 พรรษา พร้อมด้วย “โดดี อัล ฟาเย็ต (Dodi Al Fayed)” เพื่อนชายคนสนิท

โดยอุบัติเหตุดังกล่าว เกิดขึ้นจากรถมอเตอร์ไซค์ของนักข่าวปาปารัสซีที่ไล่ตามรถพระที่นั่งด้วยความเร็วสูง ซึ่งนอกจากจะสร้างความสะเทือนใจต่อผู้คนทั่วโลกแล้ว ยังก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุครั้งนี้อย่างกว้างขวาง และกลายเป็นกรณีตัวอย่างของการรุกล้ำสิทธิส่วนบุคคลโดยสื่อมวลชนอีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก : The Royal Household | www.royal.uk

“เจ้าหญิงไดอานา” กับหัวใจเอื้อเฟื้อที่โอบกอดโลก

นอกจากการได้รับสถาปนาเป็น “เจ้าหญิงไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ (Diana, Princess of Wales)” แล้ว ผู้คนทั่วโลกยังยกย่องพระองค์เป็น “เจ้าหญิงแห่งปวงชน” จากพระภารกิจด้านการกุศลที่ทรงสนับสนุน พระองค์ไม่ได้เป็นแค่เพียงผู้อุปถัมภ์องค์กรต่าง ๆ แต่ยังลงไปสัมผัสและให้ความช่วยเหลือด้วยพระองค์เอง นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ผู้คนรู้สึกถึงความจริงใจและเห็นอกเห็นใจของพระองค์อย่างแท้จริง

เอชไอวี / เอดส์ (HIV / AIDS) : ในยุคที่สังคมยังไม่มีความรู้ความเข้าใจ ทำให้ผู้ป่วยโรคเอดส์ถูกสังคมรังเกียจ “เจ้าหญิงไดอานา” เป็นคนแรก ๆ ที่แสดงออกถึงความเข้าใจและความห่วงใย โดยพระองค์เสด็จไปเยี่ยมผู้ป่วย รวมทั้งจับมือพวกเขาโดยไม่สวมถุงมือ ซึ่งนั่นเป็นการทำลายกำแพงความกลัวของผู้คนและอคติของสังคมที่มีต่อผู้ป่วยโรคเอดส์ได้อย่างทรงพลัง
ทุ่นระเบิด (Landmines) : “เจ้าหญิงไดอานา” มีบทบาทสำคัญในการรณรงค์ต่อต้านการใช้ทุ่นระเบิดในหลายประเทศ โดยเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2540 พระองค์เสด็จเยือนประเทศแองโกลาในฐานะแขกของสภากาชาดสากล เพื่อเดินผ่านพื้นที่ทุ่นระเบิดที่มีการตรวจสอบความปลอดภัยแล้ว นี่ไม่ใช่เพียงการกระทำเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น แต่คือการเรียกร้องให้มีการดำเนินการในระดับนานาชาติเพื่อยุติการใช้อาวุธเหล่านี้ เนื่องจากประเทศแองโกลาต้องประสบปัญหาจากสงครามกลางเมืองมากว่า 20 ปี และมีทุ่นระเบิดมากกว่า 15 ล้านลูก การกระทำของพระองค์ในครั้งนี้นำไปสู่การลงนามใน “สนธิสัญญาออตตาวา (Ottawa Treaty)” สนธิสัญญาระหว่างประเทศที่ห้ามการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (Anti-Personnel Landmines: APL) ทั่วโลก พร้อมทั้งมีการกำหนดให้รัฐภาคีต้องทำลายทุ่นระเบิดที่มีอยู่ เคลียร์พื้นที่ที่ติดทุ่นระเบิด และให้ความช่วยเหลือแก่ผู้รอดชีวิต
การดูแลเด็กและผู้ด้อยโอกาส : “เจ้าหญิงไดอานา” ทรงให้ความสำคัญกับการดูแลผู้ป่วยเด็ก ผู้ไร้ที่พึ่ง และผู้ที่ถูกทอดทิ้งในสังคม พระองค์มักไปเยี่ยมเยียนโรงพยาบาลและศูนย์พักพิงต่าง ๆ เพื่อให้กำลังใจและสร้างความสุขให้กับผู้คน นับเป็นการปลอบประโลมอันอบอุ่นลึกซึ้งที่ดูเหมือนว่าจะมีแค่พระองค์เท่านั้นที่ทำได้

หมื่นล้านเหตุผลที่ผู้คนรัก “เจ้าหญิงไดอานา”

ความน่ารัก สดใส มีเสน่ห์ บุคลิกภาพและการวางตัวที่ดี มีเอกลักษณ์เฉพาะ เป็นสิ่งที่ผู้คนรับรู้ได้อย่างชัดเจนจาก “เจ้าหญิงไดอานา” ยิ่งบวกรวมกับพระภารกิจด้านการกุศลที่ทรงสนับสนุน นั่นยิ่งทำให้ผู้คนรู้สึกใกล้ชิดพระองค์และยากที่จะทำใจไม่ให้รักได้ลง

ความเห็นอกเห็นใจ : “เจ้าหญิงไดอานา” เหมือนมีเวทมนตร์ในการสร้างสายสัมพันธ์กับผู้คน พระองค์จะมองตา ตั้งใจฟัง และทำให้ผู้ที่อยู่ตรงหน้ารู้สึกว่าพวกเขาเป็นคนสำคัญที่สุด นี่เป็นสิ่งที่เหมือนความสามารถพิเศษและหาได้ยากในหมู่เชื้อพระวงศ์
ความจริงใจ : ดูเหมือนว่าผู้คนทั่วโลกจะมีความรู้สึกร่วมกันว่า “เจ้าหญิงไดอานา” เป็นเจ้าหญิงที่เข้าถึงได้ง่ายและเป็นกันเอง ความเป็นมนุษย์และความจริงใจของพระองค์คือสิ่งที่ทำให้ผู้คนรู้สึกรักและใกล้ชิดกับพระองค์ผู้ไม่เคยซ่อนความรู้สึกหรือแสร้งทำเป็นว่าทุกอย่างสมบูรณ์แบบเสมอไป
แฟชั่นไอคอนแห่งยุค : ในยุค 80s - 90s “เจ้าหญิงไดอานา” ได้รับการยกย่องให้เป็น “แฟชั่นไอคอนแห่งยุค” ด้วยสไตล์การแต่งตัวที่สง่างามและมีเอกลักษณ์เฉพาะพระองค์ เสมือนภาพสะท้อนบุคลิกที่โดดเด่นและเป็นอิสระชัดเจนอย่างที่ไม่เคยมีสมาชิกราชวงศ์พระองค์ใดเคยทำมาก่อน

“ชาร์ลส์ สเปนเซอร์, เอิร์ลสเปนเซอร์ที่ 9” ในฐานะน้องชาย ได้กล่าวคำไว้อาลัยในวันพิธีพระศพของ “เจ้าหญิงไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ (Diana, Princess of Wales)” ที่มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2540 ซึ่งถูกกล่าวว่าเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่น่าจดจำและทรงอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ โดยมีใจความสำคัญว่า

“เจ้าหญิงไดอานา” เป็นบุคคลที่ไม่เหมือนใคร เป็นคนดีและจริงใจ ที่พยายามรักษาความเป็นมนุษย์เอาไว้ แม้จะอยู่ในความสนใจของสาธารณชนมาตลอด และพระองค์จะยังคงเป็น “เอกลักษณ์” และ “สัญลักษณ์แห่งความดีงามและความเห็นอกเห็นใจ” ในใจของผู้คนตลอดไป

เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

รายการทันโลก กับ ที่นี่ Thai PBS : วันนี้ในอดีต 31 ส.ค 2540 รำลึก เจ้าหญิงไดอานา
สารคดีครบรอบ 20 ปีเจ้าหญิงไดอานาสิ้นพระชนม์
ตำรวจอังกฤษพบหลักฐานใหม่ คดีเจ้าหญิงไดอาน่า
เล่าอดีต บันทึกปัจจุบัน รอบรู้ทุกวัน กับ Thai PBS On This Day | www.thaipbs.or.th/OnThisDay

สรุปประเด็นให้โดย Generative AI

สัมผัสด้วยหัวใจ! ทำไม “เจ้าหญิงไดอานา” ถึงเป็นที่รักของคนทั่วโลก