ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

LICIACube พบยาน DART พุ่งชนดาวเคราะห์น้อยสร้างเศษฝุ่นพวยพุ่งมากกว่าหมื่นตัน


แชร์

LICIACube พบยาน DART พุ่งชนดาวเคราะห์น้อยสร้างเศษฝุ่นพวยพุ่งมากกว่าหมื่นตัน

https://www.thaipbs.or.th/now/content/3120

LICIACube พบยาน DART พุ่งชนดาวเคราะห์น้อยสร้างเศษฝุ่นพวยพุ่งมากกว่าหมื่นตัน

การวิเคราะห์ข้อมูลล่าสุดจาก LICIACube ได้พบว่ายาน DART ที่พุ่งชนดาวเคราะห์น้อย Dimorphos ได้สร้างฝุ่นพวยพุ่งออกมาได้มากถึงหลายหมื่นตัน ซึ่งอาจจะเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงวงโคจรของ Dimorphos ก็เป็นได้

ดิดีมอส (Didymos) กับ ไดมอร์ฟอส (Dimorphos) เป็นระบบดาวเคราะห์น้อยคู่ที่โด่งดังจากภารกิจ Double Asteroid Redirection Test (DART) ในปี 2022 ของทาง NASA ที่นำยานอวกาศไปพุ่งชน Dymorphos เพื่อทดสอบว่าเราสามารถเปลี่ยนแปลงวงโคจรของดาวเคราะห์น้อยได้หรือไม่

ภาพถ่ายจังหวะที่มวลสารบน Dimorphos พวยพุ่งออกมาจากการชนของ DART โดยยาน LICIACube ถ่ายภาพส่งกลับมาในระยะใกล้ ภาพจาก NASA

ผลการชนพบว่าลดเวลาการโคจรของ Dimorphos รอบ Didymos ลงได้ 33 นาที แต่ก็ยังไม่รู้แน่ชัดถึงการเปลี่ยนแปลงวงโคจรของ Dimorphos ว่าเป็นเพราะประสิทธิภาพการถ่ายทอดพลังงานจาก DART ไปยังดาวเคราะห์น้อยมีค่าสูงหรือมวลที่พวยพุ่งออกมากลายเป็นแรงปฏิกิริยาที่ส่งผลให้ดาวเคราะห์น้อยโคจรด้วยพลังงานที่ลดลง

LICIACube เป็นยานอวกาศประเภท CubeSat มีขนาดเท่ากับกล่องรองเท้า ถูกพัฒนาโดยองค์การอวกาศอิตาลี หรือ Italian Space Agency (ASI) ซึ่งออกบินก่อนที่ยาน DART จะพุ่งชน Dimorphos และบันทึกข้อมูลการพุ่งชนของ DART ด้วยกล้องถ่ายภาพมุมกว้างในช่วงไม่กี่วินาทีหลังจากการชน ภาพที่บันทึกกลับมาได้มีการมาวิเคราะห์ใหม่และตีพิมพ์ผลการศึกษาเกี่ยวกับปริมาณเศษฝุ่นที่หลุดออกมาจากการชนเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยถือว่าเป็นการศึกษาการพวยพุ่งของสสารบนพื้นผิวดาวเคราะห์น้อยโดยตรงเป็นครั้งแรก

รูปภาพที่ได้จาก LICIACube ในช่วงแรกพบว่ายากต่อการนำมาวิเคราะห์การพวยพุ่งของเศษฝุ่นจากบนพื้นผิว ดังนั้นทางทีมวิจัยจำเป็นต้องทดลองกับตัวอย่างและขนาดของฝุ่นที่เกาะอยู่เทียบกับข้อมูลการสะท้อนแสงที่ได้จาก LICIACube เพื่อดูว่าฝุ่นมีขนาดและความหนาแน่นเท่าไร

ภาพถ่ายของดาวเคราะห์น้อย Dimorphos ภายหลังจากถูกพุ่งชนโดยยาน DART ภาพถ่ายโดยกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล ภาพจาก NASA

ข้อมูลที่ได้จากผลการวิเคราะห์พบว่ามวลที่พวยพุ่งออกมาจาก Dimorphos น่าจะอยู่ที่ประมาณ 8,500-11,900 ตัน เทียบเท่าได้กับเครื่องบิน Boeing 747 เลยทีเดียว และอนุภาคฝุ่นส่วนใหญ่น่าจะมีขนาดตั้งแต่ไม่กี่ไมโครเมตรไปถึงหลายสิบเซนติเมตร

สุดท้ายแม้ว่าเราจะทราบปริมาณของมวลสารที่พวยพุ่งออกมาจากการชนของ DART และสามารถนำเอาองค์ความรู้ด้านแสงมาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลฝุ่นที่พวยพุ่งออกมาจากพื้นผิวของดาวเคราะห์น้อยได้ แต่ยังมีอีกหลายสิ่งที่เราต้องเรียนรู้อีก เพราะว่าหากการพวยพุ่งของมวลสารจากพื้นผิวของดาวเคราะห์สามารถสร้างแรงปฏิกิริยาให้กับพลังงานการเคลื่อนที่ของดาวเคราะห์น้อยได้ เราอาจจะสามารถนำวิธีการนี้เป็นอีกวิธีเพื่อเปลี่ยนวิถีวงโคจรของดาวเคราะห์น้อยที่อาจเป็นภัยพิบัติกับโลกได้

ถึงแม้ว่าข้อมูลใหม่ที่ได้จาก LICIACube จะให้ข้อมูลช่วงวินาทีการพุ่งชนและการพวยพุ่งของมวลสารบนพื้นผิวของ Dimorphos แต่ว่ายังมีอีกหลายข้อมูลที่ยังเป็นปริศนาอยู่ นั่นคือ การเปลี่ยนแปลงของระบบหลังจากการชนไปแล้วหลายปีว่ามีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง และหลุมที่เกิดจากการชนของ DART มีสภาพเป็นอย่างไร เพื่อนำไปวิเคราะห์ข้อมูลการถ่ายเทพลังงานต่อและศึกษาวิทยาศาสตร์ของดาวเคราะห์น้อยเพิ่มเติมอีก

เรียบเรียงโดย จิรสิน อัศวกุล
พิสูจน์อักษร ศุภกิจ พัฒนพิฑูรย์


อัปเดตข้อมูลแวดวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ทันโลกไอที และโซเชียลฯ ในรูปแบบ Audio จาก AI เสียงผู้ประกาศของไทยพีบีเอส ได้ที่ Thai PBS  

ที่มาข้อมูล : NASA, spaceth

“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech

แท็กที่เกี่ยวข้อง

LICIACubeDARTภารกิจ DARTยาน DARTดาวเคราะห์น้อย DimorphosDimorphosดาวเคราะห์น้อยไดมอร์ฟอสวงโคจรDouble Asteroid Redirection Testนาซาองค์การนาซาNASAสำรวจอวกาศยานอวกาศอวกาศThai PBS Sci And Tech Thai PBS Sci & Tech Space - Astronomy
Thai PBS Sci & Tech

ผู้เขียน: Thai PBS Sci & Tech

🌎 "รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก" ไปกับ Thai PBS Sci & Tech • วิทยาศาสตร์ • เทคโนโลยี นวัตกรรม • ดาราศาสตร์ • Media Literacy • Cyber Security • Tips & Tricks • Trends

บทความ NOW แนะนำ

ข่าวล่าสุด