ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

แค่สแกน QR Code! “Durian Trace” บอกข้อมูลทุเรียนส่งออกไทยครบ ไม่ต้องโหลดแอปฯ


วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

จิราภพ ทวีสูงส่ง

แชร์

แค่สแกน QR Code! “Durian Trace” บอกข้อมูลทุเรียนส่งออกไทยครบ ไม่ต้องโหลดแอปฯ

https://www.thaipbs.or.th/now/content/3192

แค่สแกน QR Code! “Durian Trace” บอกข้อมูลทุเรียนส่งออกไทยครบ ไม่ต้องโหลดแอปฯ

ช่วงต้นปี 2568 ประเทศไทยต้องเผชิญแรงกดดันจากการส่งออกทุเรียนไปต่างประเทศ ทั้งการผลิตให้ได้มาตรฐานความปลอดภัยตามที่ผู้นำเข้ากำหนด เช่น มาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP) มาตรฐานหลักเกณฑ์และวิธีการที่ดีในการผลิตอาหาร (GMP) มาตรฐานสุขอนามัยพืช นอกจากนี้ยังพบปัญหาลักลอบสวมสิทธิ์ทุเรียนไทยด้วยทุเรียนจากต่างประเทศที่ไม่ได้มาตรฐาน จนก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อประเทศไทย

ดังนั้น กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) พัฒนา “Durian Trace” ระบบตรวจสอบย้อนกลับทุเรียนที่ส่งออกจากประเทศไทย โดยตรวจสอบข้อมูลได้ตั้งแต่สายพันธุ์ทุเรียน มาตรฐานความปลอดภัย ไปจนถึงคุณภาพการขนส่ง ซึ่งผู้บริโภคดูข้อมูลของทุเรียนแต่ละผลได้ง่าย ๆ เพียงใช้สมาร์ตโฟนสแกน QR Code ไม่ต้องติดตั้งแอปพลิเคชันเพิ่มเติม

บันทึกข้อมูลทุเรียนตั้งแต่ “ล้ง” ถึง “ปลายทาง”

ดร.สุพร พงษ์นุ่มกุล หัวหน้าทีมวิจัยการวิเคราะห์พฤติกรรมมนุษย์ เนคเทค สวทช. เล่าว่า Durian Trace เป็นระบบตรวจสอบย้อนกลับ (traceability) ที่ผ่านการออกแบบมาเพื่อช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นเกี่ยวกับคุณภาพของทุเรียนไทยให้แก่ผู้บริโภค โดยระบบนี้เป็นตัวช่วยให้ผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุ (ล้ง) ใช้จัดเก็บข้อมูลสำคัญในรูปแบบดิจิทัล เช่น เลข GAP จากสวน ใบรับรอง GMP ของโรงคัดบรรจุ เอกสารสุขอนามัยพืช (e-Phyto) ได้สะดวก ซึ่งหลังจากบันทึกข้อมูลแล้วระบบจะสร้าง QR code สำหรับให้นำไปติดที่ก้านทุเรียนแต่ละผลเสมือนเป็นฉลากสินค้า

ทีมวิจัยนำร่องทดสอบใช้ Durian Trace ติดตามสินค้าที่ส่งออกไปสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในขั้นตอนการส่งออก ผู้ส่งออกจะบันทึกข้อมูลการนำทุเรียนแต่ละลังเข้าตู้คอนเทนเนอร์ โดยข้อมูลทั้งหมดจะผ่านการจัดเก็บเข้าสู่ระบบคลาวด์ เพื่อให้ผู้ส่งออก ผู้ควบคุมการขนส่ง และผู้นำเข้า ใช้ติดตามข้อมูลการขนส่งทางบกได้แบบเรียลไทม์ ทั้งข้อมูลอุณหภูมิและความชื้นภายในตู้คอนเทนเนอร์ รวมถึงตำแหน่งการขนส่ง เพื่อให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงทีหากเกิดข้อผิดพลาด
“เมื่อสินค้าไปถึงปลายทาง ผู้บริโภคสามารถสแกน QR code เพื่อตรวจสอบแหล่งที่มาของทุเรียนที่ต้องการจะซื้อได้โดยไม่ต้องติดตั้งแอปพลิเคชันเพิ่มเติม ดูรายละเอียดได้ทั้งสายพันธุ์ แหล่งเพาะปลูก สถานที่คัดบรรจุ มาตรฐานที่ได้รับรอง รวมถึงคุณภาพการขนส่ง

ระบบ Durian Trace แสดงข้อมูลสรุปเกี่ยวกับทุเรียนแต่ละผลและการขนส่ง ภาพจาก สวทช.

ก้าวต่อไปของ Durian Trace

ดร.สุพร เล่าว่า ทีมวิจัยได้ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งในประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน ทดสอบการใช้ระบบ Durian Trace ติดตามการส่งออกทุเรียนจำนวน 31 ตู้คอนเทนเนอร์เรียบร้อยแล้ว ผลการทดสอบพบว่าระบบช่วยลดภาระงานด้านการตรวจสอบคุณภาพสินค้าระหว่างการขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคได้

อย่างไรก็ดีแม้ที่ผ่านมาจะเริ่มมีการนำระบบตรวจสอบย้อนกลับมาใช้กับผลผลิตทางการเกษตรบางประเภทแล้ว แต่สำหรับประเทศไทย Durian Trace ถือเป็นระบบแรกที่ติดตามการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนได้

ข้อมูลเกี่ยวกับทุเรียนผลนั้น ๆ ที่ได้จากการสแกน QR Code (ภาษาจีน) ภาพจาพ สวทช.

กิตติ พงศ์กิตติวัฒนา นักวิเคราะห์ งานบริหารโครงการยุทธศาสตร์ เนคเทค สวทช. เล่าเสริมว่า จุดแข็งที่ทำให้ Durian Trace ติดตามข้อมูลแบบข้ามพรมแดนได้ มาจากการได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานพันธมิตรและผู้ให้การสนับสนุนงบประมาณการวิจัย ประกอบด้วยสำนักงบประมาณ, ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB), กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, GS1 Thailand, GS1 China และภาคเอกชนที่ร่วมทดสอบระบบนำร่อง

อย่างไรก็ตามการจะขยายระบบให้ครอบคลุมการใช้งานทั้งประเทศยังต้องอาศัยนโยบายสนับสนุนจากภาครัฐ ทั้งการส่งเสริมการใช้ระบบตรวจสอบย้อนกลับและการเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้ประกอบการตระหนักถึงความสำคัญของระบบซึ่งจะมาช่วยสร้างความเชื่อมั่นเกี่ยวกับคุณภาพสินค้า และการทำให้ Durian Trace เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้งานได้สะดวก มีฟังก์ชันครอบคลุมความต้องการใช้งานยิ่งขึ้น

Durian Trace เป็นเทคโนโลยีระบบตรวจสอบย้อนกลับที่ผ่านการออกแบบให้มีความยืดหยุ่นสูง ทำให้ประยุกต์ใช้ได้กับการขนส่งผลผลิตทางการเกษตรที่หลากหลาย

ข้อมูลเกี่ยวกับทุเรียนผลนั้น ๆ ที่ได้จากการสแกน QR Code (ภาษาอังกฤษ) ภาพจาก สวทช.

ด้าน กรวัฒน์ พลเยี่ยม ทีมวิจัยการวิเคราะห์พฤติกรรมมนุษย์ เนคเทค สวทช. ยกตัวอย่างการนำระบบไปประยุกต์ใช้กับสินค้าที่ส่งออกไปยุโรป ภายใต้ระเบียบของสหภาพยุโรปว่าด้วยการป้องกันการตัดไม้ทำลายป่า (EU Deforestation Regulation) โดยสินค้าที่ประเทศไทยส่งออกและได้รับผลกระทบ เช่น ยางพารา ไม้ ปาล์มน้ำมัน โกโก้ กาแฟ ถั่วเหลือง เนื้อวัว

การตรวจสอบย้อนกลับไปถึงถิ่นกำเนิดของสินค้าการเกษตรผ่านระบบระบุตำแหน่งทางภูมิศาสตร์(Geolocation) นอกจากช่วยระบุว่าตำแหน่งพื้นที่เพาะปลูกไม่ได้ทับซ้อนกับพื้นที่ป่า ยังใช้ประกอบการนำเสนอข้อมูลคุณค่าของสินค้าในมิติที่ลึกซึ้งขึ้นได้ด้วย เช่น สินค้าคุณภาพสูงที่ผลิตโดยการคำนึงถึงความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม สินค้าที่เกิดจากการสืบสานวัฒนธรรมของชุมชน ซึ่งล้วนช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าการเกษตรได้อย่างมีนัยสำคัญ

จะเห็นได้ว่า Durian Trace ไม่ใช่เพียงแพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับตรวจสอบย้อนกลับผลิตภัณฑ์ทุเรียน แต่ยังเป็นก้าวสำคัญของการยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ไทย และการสร้างความเชื่อมั่นเกี่ยวกับสินค้าการเกษตรไทยในเวทีโลก

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจติดต่อสอบถามเกี่ยวกับ Durian Trace และระบบตรวจสอบย้อนกลับ ติดต่อได้ที่ ดร.สุพร พงษ์นุ่มกุล อีเมล suporn.pongnumkul@nectec.or.th และคุณกิตติ พงศ์กิตติวัฒนา อีเมล kitti.pongkittiwattana@nectec.or.th


อัปเดตข้อมูลแวดวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ทันโลกไอที และโซเชียลฯ ในรูปแบบ Audio จาก AI เสียงผู้ประกาศของไทยพีบีเอส ได้ที่ Thai PBS  

“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech
 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

Durian TraceDurianทุเรียนส่งออกทุเรียนทุเรียนส่งออกQR Codeสแกนคิวอาร์โค้ดสแกน QR CodeเทคโนโลยีTechnologyInnovationนวัตกรรมThai PBS Sci And Tech Thai PBS Sci & Tech Innovation Tech Thai Innovate ThailandInnovation Tech World
จิราภพ ทวีสูงส่ง

ผู้เขียน: จิราภพ ทวีสูงส่ง

"เซบา บาสตี้" เจ้าหน้าที่เนื้อหาดิจิทัล สำนักสื่อดิจิทัล ไทยพีบีเอส คนทำงานด้านการเขียน : Specialist Contents / Journalist / Writer / Creative Copywriter / Proofreader Lover (ติดต่อ jiraphobT@thaipbs.or.th)

บทความ NOW แนะนำ

ข่าวล่าสุด