แม้ก่อนหน้านี้ทาง NASA จะได้ยุติโครงการ VIPER ที่จะส่งหุ่นยนต์โรเวอร์เดินทางไปยังขั้วใต้ของดวงจันทร์ แต่ตอนนี้ NASA กลับมาพร้อมกับเลือกบริษัทเอกชน Blue Origin มารับผิดชอบการออกเดินทางไปตามหาน้ำบนดวงจันทร์

ก่อนหน้านี้ในปี 2024 ทาง NASA ได้ยกเลิกภารกิจ VIPER (Volatiles Investigating Polar Exploration Rover) ที่มีแผนจะไปลงจอดบนขั้วใต้ของดวงจันทร์ โดยเหตุผลเป็นเรื่องของงบประมาณที่บานปลายของตัวโครงการ ส่งผลให้ในช่วงเวลานั้นหุ่นยนต์โรเวอร์ที่ล้ำสมัยที่สุดกำลังจะถูกแยกชิ้นส่วน
แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัท Blue Origin ได้ชนะการประมูลการส่งยาน VIPER ไปลงจอดบนดวงจันทร์ด้วยยาน Blue Moon MK1 ที่ทาง Blue Origin กำลังทำการพัฒนาอยู่ โดยชนะการประมูลไปที่ 190 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับบริการพายาน VIPER ไปลงจอดบนขั้วใต้ของดวงจันทร์ภายในปลายปี 2027

บริษัท Blue Origin ต้องออกแบบและเตรียมระบบที่จะรองรับ VIPER ในยาน Blue Moon MK1 ข้อกำหนดการประมูลของ NASA มีจุดน่าสนใจที่ว่าถึงแม้จะลงนามในข้อตกลงกันไว้ แต่ว่าหาก NASA เล็งเห็นถึงปัญหาเรื่องความเข้ากันเชิงวิศวกรรม หรือว่าภารกิจ Blue Moon Mission 1 ลงจอดไม่สำเร็จในภารกิจแรกที่จะเกิดขึ้นในต้นปี 2026 ทาง NASA สามารถยกเลิกสัญญาการส่งนี้และให้เอกชนเจ้าอื่นส่งต่อไปได้ แสดงให้เห็นถึงการทำงานที่กระจายความเสี่ยงของภารกิจมากยิ่งขึ้นของ NASA แม้จะดำเนินโครงการในต้นทุนที่ต่ำ
VIPER นับว่าเป็นหุ่นยนต์สำรวจขั้วใต้ของดวงจันทร์ที่น่าสนใจ บริเวณดังกล่าวเป็นเป้าหมายของการสำรวจในโครงการ Artemis 3 ซึ่งเป็นจุดที่ท้าทายเนื่องจากมีทั้งหุบเขาสูงและเต็มไปด้วยหลุมอุกกาบาต ยากต่อการลงจอด และหลุมอุกกาบาตหลาย ๆ จุดแสงอาทิตย์ส่องลงไปไม่ถึงที่ก้นหลุม ทำให้เป็นสภาพแวดล้อมที่ยากต่อการสำรวจ ตัวหุ่นยนต์โรเวอร์จึงจำเป็นต้องมีการติดตั้งไฟส่องทางและระบบขับเคลื่อนที่ยอดเยี่ยมเพื่อใช้ในการเดินไปมาบนพื้นผิวที่ขรุขระและเต็มไปด้วยเนินทางชันเหล่านี้ ตัวหุ่นยนต์ออกแบบให้ใช้แสงอาทิตย์เป็นแหล่งพลังงานหลักของยาน นับได้ว่าเป็นหนึ่งในภารกิจที่ท้าทายงานด้านวิศวกรรมเป็นอย่างมาก

ก่อนหน้าโครงการจะถูกยุติไปในช่วงแรก ตัวหุ่นยนต์มีแผนจะเดินทางไปกับ Griffin Lander ของบริษัท Astrobotic ในช่วงเวลานั้นวางแผนให้ยาน Griffin ทำหน้าที่เป็นยานลงจอดที่จะพา VIPER สู่ขั้วใต้ของดวงจันทร์ และมีการพูดถึงว่าเป็นยานลงจอดขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาเพื่อการบรรทุกสัมภาระขนาดใหญ่ แม้แต่ VIPER ก็สามารถขนส่งไปด้วยได้ เป็นเหมือนภารกิจสาธิตเทคโนโลยีการลงจอดของเอกชนสหรัฐฯ ในเวลานั้นว่ามีศักยภาพทัดเทียมกับการลงจอดโดยรัฐ แต่สุดท้ายจากความล้มเหลวสองครั้งติดของ Griffin ที่ไม่สามารถลงจอดบนดวงจันทร์ได้ก็อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ภารกิจนี้ต้องยุติไปในช่วงแรก
แม้ในตอนนี้ VIPER จะได้รับโอกาสครั้งที่สองที่จะเดินทางไปสำรวจพื้นผิวของดวงจันทร์ แต่ว่าเมื่อเรามองย้อนกลับไปจะพบว่า โครงการอวกาศในยุคสมัยของโครงการ Artemis นั้นแตกต่างจากยุคสมัยของโครงการ Apollo อย่างสิ้นเชิง ภารกิจหลาย ๆ ส่วนกำลังพึ่งพาบริษัทเอกชนเพื่อให้ตัวโครงการสามารถดำเนินการต่อไปได้ เป็นเหมือนกับการเปลี่ยนขั้วอำนาจในการสำรวจอวกาศจากเดิมที่การสำรวจอวกาศและอุตสาหกรรมนี้เกิดจากการขับเคลื่อนโดยภาครัฐ สู่ยุคสมัยที่การขับเคลื่อนส่วนใหญ่ดำเนินการโดยเอกชน การเปลี่ยนผ่านนี้ตรงกับวิสัยทัศน์ที่ NASA วางเอาไว้ว่าต้องการสร้างระบบเศรษฐกิจบนดวงจันทร์ที่ยั่งยืน ที่เอกชนสามารถขับเคลื่อนสิ่งนี้ได้เอง
เรียบเรียงโดย จิรสิน อัศวกุล
พิสูจน์อักษร ศุภกิจ พัฒนพิฑูรย์
อัปเดตข้อมูลแวดวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ทันโลกไอที และโซเชียลฯ ในรูปแบบ Audio จาก AI เสียงผู้ประกาศของไทยพีบีเอส ได้ที่ Thai PBS  
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech




















