ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ
นักผจญเพลง REPLAY
24 พ.ค. 68

กว่าจะมารวมตัวกันได้ไม่ใช่เรื่องง่ายกับ 3 สมาชิกจากเฉลียงอย่าง เจี๊ยบ วัชระ, ดี้ นิติพงษ์, และ แต๋ง ภูษิต ที่มาตั้งวงเล่าเรื่องราวของเฉลียงกับจุดเริ่มต้นแสนง่ายดาย แต่เรื่องราวหลังจากนั้นไม่เคยง่ายอีกเลย แถมเพลงฮิตจากเฉลียงที่หลายคนคุ้นเคยอย่าง

เพลงนายไข่เจียว
เพลงอื่น ๆ อีกมากมาย
เพลงถ้าโลกนี้มีเพียงเราสองคน
เพลงเอกเขนก
เพลงเธอหมุนรอบฉัน ฉันหมุนรอบเธอ
เพลงไม่รักแต่คิดถึง

แต่ละยุคของวงเฉลียง

3 สมาชิกจากเฉลียงอย่าง เจี๊ยบ วัชระ, ดี้ นิติพงษ์, และ แต๋ง ภูษิต ที่มาตั้งวงเล่าเรื่องราวของเฉลียงตั้งแต่จุดเริ่มต้น มาทำความรู้จักพวกเขากันว่า วงเฉลียง ได้ก้าวผ่านอะไรกันมาบ้าง

ก้าวแรกของวง เฉลียง

เฉลียงเกิดจากการรวมกันของกลุ่มนิสิตคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประกอบด้วย จิก - ประภาส ชลศรานนท์ และ เจี๊ยบ - วัชระ ปานเอี่ยม ทำเพลงตัวอย่างให้ ดี้ - นิติพงษ์ ห่อนาค นำไปร้อง ก่อนจะนาไปขอให้ เต๋อ - เรวัต พุทธินันทน์ อำนวยการผลิตให้ หลังจากเต๋อได้ฟังแล้วพบว่าดี้ร้องเสียงเพี้ยน ไม่เหมาะกับการเป็นนักร้องนำ จึงเสนอให้เล็ก - สมชาย ศักดิกุล ที่ขณะนั้นเป็นนักดนตรีอาชีพ มาเป็นนักร้องคู่กับเจี๊ยบในผลงานชุดแรก ในปี พ.ศ. 2525 ซึ่ง แท้จริงแล้วไม่มีชื่อชุด แต่เนื่องจากหน้าปกที่ออกแบบโดยจิกมีรูปฝน จึงถูกเรียกว่าชุด ปรากฏการณ์ แต่ หลังจากผลงานชุดแรกออกมาไม่ประสบความสาเร็จทั้งด้านรายได้และเสียงตอบรับ มียอดขายไม่เกิน 4,000 - 5,000 ม้วน เฉลียงจึงไม่ได้ออกผลงานอีกเป็นระยะเวลา 4 ปี


เข้าสู่ ยุคที่สองของวงเฉลียง

ในปี พ.ศ. 2529 จิกมีผลงานเพลงอยู่ชุดหนึ่งที่เคยมีความคิดให้เกี๊ยง - เกียรติศักดิ์ เวทีวุฒาจารย์ รุ่นน้องร่วมคณะที่เคยร่วมร้องเพลงประกอบโฆษณาที่จิกแต่ง ออกผลงานเป็นศิลปินเดี่ยว แต่เนื่องจากอุปสรรคด้าน ผู้สนับสนุน จึงทำให้โครงการไม่เกิดขึ้น จนกระทั่ง จุ้ย - ศุ บุญเลี้ยง หนึ่งในผู้ที่ซื้ออัลบั้ม ปรากฏการณ์ฝน ประทับใจในเพลงเที่ยวละไมที่อยู่ในอัลบั้มนั้น จึงติดต่อกับจิกเพื่อนำผลงานเพลงของตัวเองไปให้พิจารณา จึงเกิดความคิดที่จะรวมตัวเป็นศิลปินคู่ในชื่อ ไปยาลใหญ่ แต่จิกยังไม่พอใจในบางเพลง จึงเสนอให้เจี๊ยบและดี้กลับมารวมวงอีกครั้งเป็น วงเฉลียงในยุคที่สอง ซึ่งเป็นยุคคลาสสิกของวง แต่เนื่องจากในหลายบทเพลงมีเสียงของแซกโซโฟน จึงได้ชักชวนให้แต๋ง - ภูษิต ไล้ทอง เพื่อนนักดนตรีเครื่องเป่าจากคณะครุศาสตร์ จุฬาฯ ที่เคยร่วมงานกันเมื่อครั้งยังเป็นนิสิตมาร่วมเป็นสมาชิกวงอีกคน ก่อนจะออกผลงานชุดแรกในยุคที่สองกับค่ายครีเอเทียคือ "อื่น ๆ อีกมากมาย" อำนวยการดนตรีโดย ทรงวุฒิ จรูญเรืองฤทธิ์ และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักฟังเพลง มีการออกแสดงคอนเสิร์ตและมิวสิกวีดีโอ

ปลายปี พ.ศ. 2530 เฉลียงออกผลงานเพลงชุดที่สี่คือ เฉลียงหลังบ้าน ที่ผลงานเพลงส่วนใหญ่เป็นบท เพลงประกอบละครเรื่องต่าง ๆ ที่จิกเป็นผู้แต่ง และได้จัดแสดงคอนเสิร์ต หัวบันไดไม่แห้ง ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2531 เป็นการปิดอัลบั้ม เฉลียงหลังบ้าน


เฉลียงยุคที่ 3 กับสมาชิก 4 คน


หลังจากคอนเสิร์ต หัวบันไดไม่แห้ง ซึ่งเป็นคอนเสิร์ตปิดอัลบั้ม เฉลียงหลังบ้าน แล้ว จุ้ยที่งานส่วนตัวเริ่มรัดตัวและดี้ที่ต้องกลับไปเป็นนักแต่งเพลงให้กับ แกรมมี่ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ได้ตัดสินใจขอยุติบทบาทกับวง จิกจึงชักชวนให้นก - ฉัตรชัย ดุริยประณีต นักแต่งเพลงที่เคยส่งเพลงมาให้เขาพิจารณาเข้ามาเพิ่มเป็นสมาชิกอีกคนหนึ่ง และปรับเปลี่ยนหัวหน้าวงเป็นเจี๊ยบ เป็นเฉลียงยุคที่สาม ที่มีสมาชิก 4 คน ในเดือนมีนาคม พ.ศ.2532 และมีผลงานชุดแรกในยุคที่สามคือ แบ-กบาล มิวสิกวีดีโอที่มีชื่อเสียงของชุดนี้คือ ใจเย็นน้องชาย ที่ได้รับรางวัลชมเชยประเภทมิวสิกวีดีโอดีเด่นของคณะกรรมการโทรทัศน์ทองคำ เฉลียงมี คอนเสิร์ตปิดท้ายทอย ที่หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2532 และผลงานชุดสุดท้ายของเฉลียงซึ่งออกในปี พ.ศ. 2533 คือ ตะไคร่น้ำสุดขอบฟ้า มีเนื้อหาหลักเกี่ยวข้อง กับการอนุรักษ์ธรรมชาติ และมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของแนวเพลงจากสวิงแจ๊สมาเป็นโฟล์กร็อก ทำให้เฉลียงได้รับรางวัลสีสันอะวอร์ดส์ถึง 2 รางวัล คือรางวัลเพลงยอดเยี่ยมในเพลง โลกาโคม่า และรางวัลศิลปิน กลุ่มยอดเยี่ยม แต่เนื่องจากภาระและหน้าที่การงานส่วนตัวของสมาชิกแต่ละคนทาให้การทาการตลาดและการออกแสดงคอนเสิร์ตเป็นไปได้ยาก เฉลียงจึงประกาศยุบวงในที่สุด โดยมีเพลงสุดท้ายของเฉลียงที่อยู่ใน อัลบั้มตะไคร่น้ำสุดขอบฟ้า คือ ฝากเอาไว้ ภายหลังจากออกผลงานชุดสุดท้ายในปี พ.ศ. 2533 เฉลียงยังคงมีการรวมตัวกันเล่นคอนเสิร์ตและออกผลงานเพลงเฉพาะกิจเป็นครั้งคราว นอกจากนี้ยังมีการก่อตั้งกองทุนเฉลียง เพื่อมอบทุนสนับสนุนกิจกรรมการศึกษาสำหรับเด็ก

หายไป 3 ปี ก่อนกลับมาก้าวสู่ยุคที่สี่


หลังจากออกผลงานอัลบั้มสุดท้ายคือตะไคร่น้ำสุดขอบฟ้า วงเฉลียงได้ยุบวงไป 3 ปี ก่อนจะกลับมารวมตัวอีกครั้งหนึ่งใน คอนเสิร์ตแก้คิดถึง...ฉลองสิบกว่าปีเฉลียง นารายได้เพื่อการกุศล แสดงในวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2537 ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย โดยสมาชิก 7 คน จากทั้ง 3 ยุคขึ้นแสดงโดยพร้อมหน้ากันเป็นครั้งแรก และดี้ยังได้แต่งเพลงใหม่คือ ไม่รักแต่คิดถึง เพื่อแสดงเป็นครั้งแรกในคอนเสิร์ตนี้ ต่อมาเมื่อวันที่ 2 - 3 ธันวาคม พ.ศ. 2543 วงเฉลียงได้มารวมตัวกันจัดคอนเสิร์ตสั่งลาอีกครั้งในชื่อคอนเสิร์ตเรื่องราวบนแผ่นไม้ แสดงที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และได้ออกผลงานอีกชุดเป็นชุดพิเศษที่มีจำหน่ายหน้าคอนเสิร์ต คือ ชุด นอกชาน ซึ่งเป็นการรวบรวมเพลงใหม่ที่แต่งมาใหม่ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา และในคอนเสิร์ต ดี้ในฐานะหัวหน้าวงได้ประกาศอำลาแฟนเพลงและบอกว่าจะไม่รวมตัวเล่นคอนเสิร์ตกันอีก การแสดงรอบสุดท้ายของคอนเสิร์ตนี้อาจเป็นประวัติศาสตร์ของวงการดนตรีว่าเป็นคอนเสิร์ตที่ใช้เวลาหลังจากจบการแสดงยาวนานที่สุด เนื่องจากภายหลังแสดงเพลงสุดท้ายไปเรียบร้อยแล้ว แฟนเพลงเฉลียงปรบมือต่อเนื่องเป็นเวลายาวนาน ทาให้ดี้ออกมาประกาศว่าจะไม่ลงจากเวทีจนกว่าแฟนเพลงคนสุดท้ายที่ต้องการลายเซ็นจะเดินทางกลับ นอกจากนั้นวงยังออกมาแสดงเพลง เรื่องราวบนแผ่นไม้ ซึ่งเป็นเพลงประจำคอนเสิร์ตอีกครั้งหนึ่ง โดยมีจิกซึ่งเป็นผู้แต่งร่วมร้องด้วยเป็นครั้งแรก

ติดตามรายการนักผจญเพลง REPLAY ตอน วงเล่า เฉลียง วันเสาร์ที่ 24 พฤษภาคม 68 เวลา 21.30 - 22.20 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/Live

10:00

The Food of love

1 ชั่วโมง

ละครดี ซีรีส์เด่น

ดูทั้งหมด

♫ ♫ Songs Popular ♫ ♫

ดูทั้งหมด

คลิปมาใหม่

คนดูเยอะ 👀

ดูทั้งหมด

เสน่ห์ประเทศไทย