ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ชมสด ไทยพีบีเอส (Thai PBS Live)

เสียงไทย
เสียงไทย
Soundtrack
Auto
Auto
144p
240p
480p
720p
1080p
กำลังรับชม
ผังรายการ
รายการออนไลน์ถัดไป
รายการแนะนำสำหรับคุณ
LIVE

Thai PBS

Big Story เรื่องใหญ่ Thai PBS - ทุ่งรับน้ำ ภัยธรรมชาติ หรือความผิดพลาดของใคร (3 ธ.ค. 68)

เมื่อวิเคราะห์สถานการณ์การบริหารจัดการน้ำของประเทศไทย ปัญหาที่เกิดขึ้นในทุ่งรับน้ำตลอดลุ่มเจ้าพระยา โดยเฉพาะในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไม่ใช่เรื่องปกติอีกต่อไป ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ซึ่งต้องรับภาระการหน่วงน้ำมาหลายสิบปีได้เริ่มเรียกร้องให้มีการปรับปรุงระบบการจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพและเป็นธรรมมากขึ้น

“ทุ่งรับน้ำ” สัญญาและความเสียสละที่ยังไม่ได้รับการตอบแทน

ทุ่งรับน้ำในพื้นที่เจ้าพระยาทำหน้าที่สำคัญในการปกป้องเมืองหลวงและพื้นที่เศรษฐกิจโครงข่าย ชาวบ้านในตำบลรางจรเข้ อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และหลายอำเภอใกล้เคียงมีประวัติการอยู่ร่วมกับน้ำท่วมเป็นระยะเวลาอย่างน้อยสี่เดือนต่อปี โดยต้องใช้เวลาหนึ่งเดือนเตรียมความพร้อมก่อนน้ำท่วมและอีกหนึ่งเดือนในการซ่อมแซมบ้านเรือนหลังจากน้ำลดลง เหลือเพียงห้าเดือนเท่านั้นสำหรับการประกอบอาชีพและดำเนินชีวิตปกติ

“ทุ่งรับน้ำ” สัญญาและความเสียสละที่ยังไม่ได้รับการตอบแทน.jpg

“ทุ่งรับน้ำ” สัญญาและความเสียสละที่ยังไม่ได้รับการตอบแทน.jpg

ช่วงปีล่าสุด สถานการณ์ยิ่งซับซ้อนมากขึ้นเมื่อมีแนวโน้มว่าระยะเวลาการท่วมจะขยายตัวเป็นห้าเดือนหรือมากกว่า ความหวัง ความจำ และคุณภาพชีวิตของครอบครัวหลายหลังได้รับผลกระทบอย่างหนักแน่น ผู้สูงอายุที่ติดเตียงประสบปัญหาในการเข้าถึงการรักษาพยาบาล และในบางกรณี สภาพสุดวิกฤตของการท่วมน้ำได้นำมาถึงการเสียชีวิตของบุคคลในครอบครัว

ระบบการ “บริหารจัดการน้ำ” ปัญหาหลักและการขาดความเป็นธรรม

ปัญหาพื้นฐานไม่ได้อยู่ที่ว่าต้องมีทุ่งรับน้ำ แต่อยู่ที่วิธีการบริหารจัดการน้ำที่ขาดเอกภาพและเป็นธรรม ระบบราชการปัจจุบันมีหลายหน่วยงานเกี่ยวข้อง โดยที่สำนักปลัดกระทรวง (สนทช) ทำหน้าที่กำกับดูแลเรื่องน้ำโดยรวม แต่อำนาจที่แท้จริงอยู่ที่กรมชลประทาน ซึ่งมีหน้าที่ตัดสินการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา

ระบบการ “บริหารจัดการน้ำ” ปัญหาหลักและการขาดความเป็นธรรม.jpg

ระบบการ “บริหารจัดการน้ำ” ปัญหาหลักและการขาดความเป็นธรรม.jpg

ความขัดแย้งและความจำกัดของอำนาจหน้าที่เหล่านี้ส่งผลให้การตัดสินใจเกี่ยวกับการปิดเปิดประตูน้ำไม่ได้ขึ้นอยู่กับข้อมูลข้อเท็จจริงของปริมาณน้ำเพียงอย่างเดียว บ่อยครั้ง ผู้ว่าราชการจังหวัดและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นต้องพึ่งพา "คอนเนคชั่น" ส่วนบุคคล ประสบการณ์ของการเรียนร่วมกัน และความสัมพันธ์ทางการเมือง เพื่อให้ได้รับการพิจารณาที่เป็นธรรม

ข้อเสนอของชาวบ้าน “ความโปร่งใส” และการประกาศการล่วงหน้า

ชาวบ้านในทุ่งรับน้ำเสนอแนวทางการแก้ไขที่ชัดเจน ประการแรก การตัดสินใจเปิดปิดประตูน้ำควรขึ้นอยู่กับข้อมูลโดยตรงเกี่ยวกับปริมาณน้ำที่ไหลเข้ามา บ่อยครั้ง เจ้าหน้าที่จะประกาศการระบายน้ำเพียงหนึ่งเดือนล่วงหน้า แต่ไม่มีการคาดการณ์เกี่ยวกับปริมาณที่แท้จริง ส่งผลให้ชาวบ้านไม่สามารถเตรียมความพร้อมได้อย่างเพียงพอ

ประการที่สอง จำเป็นต้องมีการสื่อสารอย่างโปร่งใสเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้ทุ่งบางแห่งมีน้ำมาก ทุ่งอื่นกลับน้อย ทำไมการแจกจ่ายที่อยุธยาน้อยกว่าการแจกจ่ายปกติ คำตอบต่อคำถามเหล่านี้ควรจัดให้มีในที่สาธารณะ เพื่อให้ชาวบ้านได้รับฟังเหตุผล ไม่ใช่เพียงการบังคับเรื่องหรือการตัดสินใจแบบปิดบังจากด้านบน

“ประเด็นความเป็นธรรม” การเลือกปฏิบัติในการประเมินมูลค่า

อีกประเด็นที่ทำให้ชาวบ้านรู้สึกไม่ยุติธรรมคือวิธีการประเมินมูลค่าของพื้นที่ต่างๆ โครงการบางระกำโมเดล ซึ่งเป็นทุ่งรับน้ำที่มีพื้นที่เกือบสามแสนไร่ ได้รับการยกย่องว่าเป็นตัวอย่างที่ดีในการปกป้องพื้นที่เศรษฐกิจและกรุงเทพมหานคร อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านตั้งคำถามที่มีน้ำหนักว่า หากการท่วมน้ำเป็นเพียงเรื่องสูญเสีย ทำไมชาวบ้านต้องยอมรับภาระนั้นโดยไม่มีการเยียวยาที่เหมาะสม?

พื้นที่เกษตรกรรมถูกมองว่าไม่มีมูลค่า แต่พื้นที่เศรษฐกิจที่มีตึกระฟ้าและมีประชากรหนาแน่นได้รับการพิจารณาว่ามีมูลค่า แล้วคุณภาพชีวิตของมนุษย์ละ? ชาวบ้านชี้ให้เห็นว่าทั้งสองประเภทอยู่ภายใต้รัฐเดียวกัน ชาวบ้านและชาวเมืองต่างก็เสียภาษี ทั้งสองต่างก็มีสิทธิที่เท่าเทียมกัน

ผลกระทบทางเศรษฐกิจ และวิถีชีวิต

นับตั้งแต่บางระกำโมเดลเริ่มดำเนินการเก้าปีที่ผ่านมา ชีวิตของชาวบ้านได้เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ไม่ดี การบริหารจัดการน้ำที่ไม่มีประสิทธิภาพได้กระทบต่อประกอบอาชีพ ที่อยู่อาศัย และสาธารณูปโภคทั้งสิ้น เนื่องจากพื้นที่นี้เป็นพื้นที่เกษตรกรรมเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ชาวบ้านจึงพึ่งพาดินแดนเพื่อสร้างรายได้ เมื่อที่ดินถูกน้ำท่วมเป็นเวลายาวนาน ผลกระทบก็ตกอยู่บนเกษตรกร พ่อค้าแม่ค้า และคนงานสมัครใจทั้งหมด

มีบ้านหลังเดียวในทุ่งรับน้ำนี้ที่ได้รับเงินบริจาคจากภาคเอกชนเพื่อยกเสาเพิ่มเติมหลังจากพบว่ามีสมาชิกในครอบครัวเสียชีวิตเนื่องจากเหตุการณ์ที่น้ำท่วม บ้านส่วนใหญ่อื่นๆ จึงต้องอาศัยเงินที่ไม่เพียงพอจากงบประมาณน้ำท่วม (เพียงหมื่นกว่าบาทต่อหลัง) ในการดำรงชีวิตต่อไป

เสียงเรียกร้องให้แก้ไข การบูรณาการ และการปฏิรูปที่แท้จริง

สภาท้องถิ่น ส่วนท้องถิ่นต่างๆ ในอยุธยาและหลายอำเภอใกล้เคียง ตลอดจนประชาชนท้องถิ่นเรียกร้องให้มีการบูรณาการที่แท้จริงและการปฏิรูประบบการบริหารจัดการน้ำ พวกเขาเสนอให้กรมชลประทาน สนทช และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงตัวแทนจากชุมชนท้องถิ่น นั่งรวมกันเพื่อวางแผนการจัดการน้ำที่มีความชัดเจนและเป็นธรรม

ผลกระทบของการปฏิรูปนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ชาวบ้านในทุ่งรับน้ำได้รับการสนับสนุนที่เหมาะสม แต่ยังจะหลีกเลี่ยงความขัดแย้งระหว่างพื้นที่ต่างๆ และลดความเป็นส่วนบุคคลในการตัดสินใจระดับรัฐ

โครงการขนาดใหญ่เพื่อการระบายน้ำ “แนวทางแก้ไขที่ยังคงรอการสนับสนุน”

นอกเหนือจากการปฏิรูประบบ โครงการอื่นๆ ก็เป็นส่วนหนึ่งของแนวทางแก้ไขปัญหา โครงการคลองระบายน้ำบางบาลบางไทร หรือ "เจ้าพระยาสอง" ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง มีความยาวประมาณยี่สิบสองกิโลเมตรครึ่ง และคาดว่าจะสามารถระบายน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาได้หนึ่งพันสองร้อยลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โครงการนี้สามารถลดผลกระทบต่อตัวเมืองอยุธยา แม้ว่าน้ำจะยังไหลไปยังกรุงเทพมหานครและปริมณฑลต่อไป

นอกจากนี้ยังมีโครงการระบายน้ำอื่นๆ เช่น คลองระบายน้ำชัยนาทป่าสัก โครงการขยายความสามารถในการระบายน้ำได้ถึงหกร้อยลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีทางฝั่งตะวันออก และคลองระบายน้ำขนานวงแหวนรอบสาม ซึ่งเป็นผลมาจากความร่วมมือระหว่างกรมชลประทานและหน่วยงานก่อสร้างหนทาง แต่ปัญหาคือ ขั้นตอนการปฏิบัติและความพร้อมของหลายภาครัฐไม่สอดคล้องกัน ทำให้ปัญหายังคงอยู่

สรุป - การบริหารจัดการน้ำที่ยั่งยืนต้องเริ่มจากการรับฟังและเป็นธรรม

ปัญหาการบริหารจัดการน้ำในลุ่มเจ้าพระยา โดยเฉพาะในพื้นที่ทุ่งรับน้ำ ไม่ได้มีวิธีแก้ไขที่ง่ายๆ เพียงการลงทุนสร้างโครงการขนาดใหญ่เพียงอย่างเดียว หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงจริงในระบบการบริหารจัดการและการตัดสินใจที่เป็นธรรมและโปร่งใส ปัญหาจะยังคงเกิดขึ้นซ้ำ คำพูดของชาวบ้านที่ปรารถนาให้น้ำในทุ่งกลายเป็นสะท้อนของความล้มเหลวในการจัดการได้ดีเท่านั้น ไม่ใช่สะท้อนของความเสียสละของพวกเขา หากรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถรับฟังเสียงของชาวบ้าน ยอมรับความต้องการของพวกเขา และสร้างระบบการบริหารจัดการน้ำที่มีเอกภาพ ประสิทธิภาพ และเป็นธรรม น้ำท่วมก็อาจกลายเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เข้าใจและสามารถควบคุมได้ แทนที่จะเป็นเรื่องปกติ ไม่ยุติธรรม ที่ทำให้ชาวบ้านสูญเสียความเชื่อต่อระบบราชการ

คุณสามารถติดตามชมรายการ Big Story เรื่องใหญ่ Thai PBS ทุกวันเสาร์ เวลา 13.00 - 13.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือดูย้อนหลัง ได้ที่ www.thaipbs.or.th/BigStoryThaiPBS

รายการ

Big Story เรื่องใหญ่ Thai PBS
เสาร์ l 13:00-13:30
เจาะลึกเรื่องใหญ่ใกล้ตัวไปกับนักข่าวรุ่นใหญ่มือรางวัล
LIVE

Thai PBS

Big Story เรื่องใหญ่ Thai PBS - ทุ่งรับน้ำ ภัยธรรมชาติ หรือความผิดพลาดของใคร (3 ธ.ค. 68)

เสียงไทย
เสียงไทย
Soundtrack
Auto
Auto
144p
240p
480p
720p
1080p

เมื่อวิเคราะห์สถานการณ์การบริหารจัดการน้ำของประเทศไทย ปัญหาที่เกิดขึ้นในทุ่งรับน้ำตลอดลุ่มเจ้าพระยา โดยเฉพาะในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไม่ใช่เรื่องปกติอีกต่อไป ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ซึ่งต้องรับภาระการหน่วงน้ำมาหลายสิบปีได้เริ่มเรียกร้องให้มีการปรับปรุงระบบการจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพและเป็นธรรมมากขึ้น

“ทุ่งรับน้ำ” สัญญาและความเสียสละที่ยังไม่ได้รับการตอบแทน

ทุ่งรับน้ำในพื้นที่เจ้าพระยาทำหน้าที่สำคัญในการปกป้องเมืองหลวงและพื้นที่เศรษฐกิจโครงข่าย ชาวบ้านในตำบลรางจรเข้ อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และหลายอำเภอใกล้เคียงมีประวัติการอยู่ร่วมกับน้ำท่วมเป็นระยะเวลาอย่างน้อยสี่เดือนต่อปี โดยต้องใช้เวลาหนึ่งเดือนเตรียมความพร้อมก่อนน้ำท่วมและอีกหนึ่งเดือนในการซ่อมแซมบ้านเรือนหลังจากน้ำลดลง เหลือเพียงห้าเดือนเท่านั้นสำหรับการประกอบอาชีพและดำเนินชีวิตปกติ

“ทุ่งรับน้ำ” สัญญาและความเสียสละที่ยังไม่ได้รับการตอบแทน.jpg

“ทุ่งรับน้ำ” สัญญาและความเสียสละที่ยังไม่ได้รับการตอบแทน.jpg

ช่วงปีล่าสุด สถานการณ์ยิ่งซับซ้อนมากขึ้นเมื่อมีแนวโน้มว่าระยะเวลาการท่วมจะขยายตัวเป็นห้าเดือนหรือมากกว่า ความหวัง ความจำ และคุณภาพชีวิตของครอบครัวหลายหลังได้รับผลกระทบอย่างหนักแน่น ผู้สูงอายุที่ติดเตียงประสบปัญหาในการเข้าถึงการรักษาพยาบาล และในบางกรณี สภาพสุดวิกฤตของการท่วมน้ำได้นำมาถึงการเสียชีวิตของบุคคลในครอบครัว

ระบบการ “บริหารจัดการน้ำ” ปัญหาหลักและการขาดความเป็นธรรม

ปัญหาพื้นฐานไม่ได้อยู่ที่ว่าต้องมีทุ่งรับน้ำ แต่อยู่ที่วิธีการบริหารจัดการน้ำที่ขาดเอกภาพและเป็นธรรม ระบบราชการปัจจุบันมีหลายหน่วยงานเกี่ยวข้อง โดยที่สำนักปลัดกระทรวง (สนทช) ทำหน้าที่กำกับดูแลเรื่องน้ำโดยรวม แต่อำนาจที่แท้จริงอยู่ที่กรมชลประทาน ซึ่งมีหน้าที่ตัดสินการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา

ระบบการ “บริหารจัดการน้ำ” ปัญหาหลักและการขาดความเป็นธรรม.jpg

ระบบการ “บริหารจัดการน้ำ” ปัญหาหลักและการขาดความเป็นธรรม.jpg

ความขัดแย้งและความจำกัดของอำนาจหน้าที่เหล่านี้ส่งผลให้การตัดสินใจเกี่ยวกับการปิดเปิดประตูน้ำไม่ได้ขึ้นอยู่กับข้อมูลข้อเท็จจริงของปริมาณน้ำเพียงอย่างเดียว บ่อยครั้ง ผู้ว่าราชการจังหวัดและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นต้องพึ่งพา "คอนเนคชั่น" ส่วนบุคคล ประสบการณ์ของการเรียนร่วมกัน และความสัมพันธ์ทางการเมือง เพื่อให้ได้รับการพิจารณาที่เป็นธรรม

ข้อเสนอของชาวบ้าน “ความโปร่งใส” และการประกาศการล่วงหน้า

ชาวบ้านในทุ่งรับน้ำเสนอแนวทางการแก้ไขที่ชัดเจน ประการแรก การตัดสินใจเปิดปิดประตูน้ำควรขึ้นอยู่กับข้อมูลโดยตรงเกี่ยวกับปริมาณน้ำที่ไหลเข้ามา บ่อยครั้ง เจ้าหน้าที่จะประกาศการระบายน้ำเพียงหนึ่งเดือนล่วงหน้า แต่ไม่มีการคาดการณ์เกี่ยวกับปริมาณที่แท้จริง ส่งผลให้ชาวบ้านไม่สามารถเตรียมความพร้อมได้อย่างเพียงพอ

ประการที่สอง จำเป็นต้องมีการสื่อสารอย่างโปร่งใสเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้ทุ่งบางแห่งมีน้ำมาก ทุ่งอื่นกลับน้อย ทำไมการแจกจ่ายที่อยุธยาน้อยกว่าการแจกจ่ายปกติ คำตอบต่อคำถามเหล่านี้ควรจัดให้มีในที่สาธารณะ เพื่อให้ชาวบ้านได้รับฟังเหตุผล ไม่ใช่เพียงการบังคับเรื่องหรือการตัดสินใจแบบปิดบังจากด้านบน

“ประเด็นความเป็นธรรม” การเลือกปฏิบัติในการประเมินมูลค่า

อีกประเด็นที่ทำให้ชาวบ้านรู้สึกไม่ยุติธรรมคือวิธีการประเมินมูลค่าของพื้นที่ต่างๆ โครงการบางระกำโมเดล ซึ่งเป็นทุ่งรับน้ำที่มีพื้นที่เกือบสามแสนไร่ ได้รับการยกย่องว่าเป็นตัวอย่างที่ดีในการปกป้องพื้นที่เศรษฐกิจและกรุงเทพมหานคร อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านตั้งคำถามที่มีน้ำหนักว่า หากการท่วมน้ำเป็นเพียงเรื่องสูญเสีย ทำไมชาวบ้านต้องยอมรับภาระนั้นโดยไม่มีการเยียวยาที่เหมาะสม?

พื้นที่เกษตรกรรมถูกมองว่าไม่มีมูลค่า แต่พื้นที่เศรษฐกิจที่มีตึกระฟ้าและมีประชากรหนาแน่นได้รับการพิจารณาว่ามีมูลค่า แล้วคุณภาพชีวิตของมนุษย์ละ? ชาวบ้านชี้ให้เห็นว่าทั้งสองประเภทอยู่ภายใต้รัฐเดียวกัน ชาวบ้านและชาวเมืองต่างก็เสียภาษี ทั้งสองต่างก็มีสิทธิที่เท่าเทียมกัน

ผลกระทบทางเศรษฐกิจ และวิถีชีวิต

นับตั้งแต่บางระกำโมเดลเริ่มดำเนินการเก้าปีที่ผ่านมา ชีวิตของชาวบ้านได้เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ไม่ดี การบริหารจัดการน้ำที่ไม่มีประสิทธิภาพได้กระทบต่อประกอบอาชีพ ที่อยู่อาศัย และสาธารณูปโภคทั้งสิ้น เนื่องจากพื้นที่นี้เป็นพื้นที่เกษตรกรรมเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ชาวบ้านจึงพึ่งพาดินแดนเพื่อสร้างรายได้ เมื่อที่ดินถูกน้ำท่วมเป็นเวลายาวนาน ผลกระทบก็ตกอยู่บนเกษตรกร พ่อค้าแม่ค้า และคนงานสมัครใจทั้งหมด

มีบ้านหลังเดียวในทุ่งรับน้ำนี้ที่ได้รับเงินบริจาคจากภาคเอกชนเพื่อยกเสาเพิ่มเติมหลังจากพบว่ามีสมาชิกในครอบครัวเสียชีวิตเนื่องจากเหตุการณ์ที่น้ำท่วม บ้านส่วนใหญ่อื่นๆ จึงต้องอาศัยเงินที่ไม่เพียงพอจากงบประมาณน้ำท่วม (เพียงหมื่นกว่าบาทต่อหลัง) ในการดำรงชีวิตต่อไป

เสียงเรียกร้องให้แก้ไข การบูรณาการ และการปฏิรูปที่แท้จริง

สภาท้องถิ่น ส่วนท้องถิ่นต่างๆ ในอยุธยาและหลายอำเภอใกล้เคียง ตลอดจนประชาชนท้องถิ่นเรียกร้องให้มีการบูรณาการที่แท้จริงและการปฏิรูประบบการบริหารจัดการน้ำ พวกเขาเสนอให้กรมชลประทาน สนทช และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงตัวแทนจากชุมชนท้องถิ่น นั่งรวมกันเพื่อวางแผนการจัดการน้ำที่มีความชัดเจนและเป็นธรรม

ผลกระทบของการปฏิรูปนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ชาวบ้านในทุ่งรับน้ำได้รับการสนับสนุนที่เหมาะสม แต่ยังจะหลีกเลี่ยงความขัดแย้งระหว่างพื้นที่ต่างๆ และลดความเป็นส่วนบุคคลในการตัดสินใจระดับรัฐ

โครงการขนาดใหญ่เพื่อการระบายน้ำ “แนวทางแก้ไขที่ยังคงรอการสนับสนุน”

นอกเหนือจากการปฏิรูประบบ โครงการอื่นๆ ก็เป็นส่วนหนึ่งของแนวทางแก้ไขปัญหา โครงการคลองระบายน้ำบางบาลบางไทร หรือ "เจ้าพระยาสอง" ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง มีความยาวประมาณยี่สิบสองกิโลเมตรครึ่ง และคาดว่าจะสามารถระบายน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาได้หนึ่งพันสองร้อยลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โครงการนี้สามารถลดผลกระทบต่อตัวเมืองอยุธยา แม้ว่าน้ำจะยังไหลไปยังกรุงเทพมหานครและปริมณฑลต่อไป

นอกจากนี้ยังมีโครงการระบายน้ำอื่นๆ เช่น คลองระบายน้ำชัยนาทป่าสัก โครงการขยายความสามารถในการระบายน้ำได้ถึงหกร้อยลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีทางฝั่งตะวันออก และคลองระบายน้ำขนานวงแหวนรอบสาม ซึ่งเป็นผลมาจากความร่วมมือระหว่างกรมชลประทานและหน่วยงานก่อสร้างหนทาง แต่ปัญหาคือ ขั้นตอนการปฏิบัติและความพร้อมของหลายภาครัฐไม่สอดคล้องกัน ทำให้ปัญหายังคงอยู่

สรุป - การบริหารจัดการน้ำที่ยั่งยืนต้องเริ่มจากการรับฟังและเป็นธรรม

ปัญหาการบริหารจัดการน้ำในลุ่มเจ้าพระยา โดยเฉพาะในพื้นที่ทุ่งรับน้ำ ไม่ได้มีวิธีแก้ไขที่ง่ายๆ เพียงการลงทุนสร้างโครงการขนาดใหญ่เพียงอย่างเดียว หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงจริงในระบบการบริหารจัดการและการตัดสินใจที่เป็นธรรมและโปร่งใส ปัญหาจะยังคงเกิดขึ้นซ้ำ คำพูดของชาวบ้านที่ปรารถนาให้น้ำในทุ่งกลายเป็นสะท้อนของความล้มเหลวในการจัดการได้ดีเท่านั้น ไม่ใช่สะท้อนของความเสียสละของพวกเขา หากรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถรับฟังเสียงของชาวบ้าน ยอมรับความต้องการของพวกเขา และสร้างระบบการบริหารจัดการน้ำที่มีเอกภาพ ประสิทธิภาพ และเป็นธรรม น้ำท่วมก็อาจกลายเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เข้าใจและสามารถควบคุมได้ แทนที่จะเป็นเรื่องปกติ ไม่ยุติธรรม ที่ทำให้ชาวบ้านสูญเสียความเชื่อต่อระบบราชการ

คุณสามารถติดตามชมรายการ Big Story เรื่องใหญ่ Thai PBS ทุกวันเสาร์ เวลา 13.00 - 13.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือดูย้อนหลัง ได้ที่ www.thaipbs.or.th/BigStoryThaiPBS

รายการ

Big Story เรื่องใหญ่ Thai PBS
เสาร์ l 13:00-13:30
เจาะลึกเรื่องใหญ่ใกล้ตัวไปกับนักข่าวรุ่นใหญ่มือรางวัล

ละครดี ซีรีส์เด่น

ดูทั้งหมด

♫ ♫ Songs Popular ♫ ♫

ดูทั้งหมด

คลิปมาใหม่

คนดูเยอะ 👀

ดูทั้งหมด

เสน่ห์ประเทศไทย