ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

อัปเดต 2568! บัตรทองอัปเกรดสิทธิ 30 บาทครอบคลุมทั่วไทย

สังคม
19:31
5,928
อัปเดต 2568! บัตรทองอัปเกรดสิทธิ 30 บาทครอบคลุมทั่วไทย
อัปเดตข้อมูลล่าสุด สิทธิ 30 บาทรักษาทุกที่ 2568 นโยบายบัตรทองครอบคลุมทั่วไทยด้วยบัตรประชาชนใบเดียว เข้าถึงการรักษาได้ทุกหน่วยบริการปฐมภูมิ พร้อมสิทธิพิเศษใหม่ เช่น ทำฟันฟรี 3 ครั้ง/ปี รับยาฟรี 32 อาการที่ร้านยาใกล้บ้าน ดูขั้นตอนสมัคร เงื่อนไข วิธีใช้สิทธิ

วันนี้ (2 มิ.ย.2568) นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือที่รู้จักกันในชื่อ "บัตรทอง" ได้ยกระดับสู่การให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2568 ตามที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยประกาศในงาน "Kick off 30 บาท รักษาทุกที่ เพื่อคนไทย สุขภาพดีถ้วนหน้า ระยะที่ 4" เมื่อ 25 ธ.ค.2567 นโยบายนี้พัฒนาจาก "30 บาทรักษาทุกโรค" เป้าหมายลดภาระค่ารักษาพยาบาลและเพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพสำหรับคนไทยทุกคน

สิทธิ 30 บาทรักษาทุกที่คืออะไร ?

สิทธิ 30 บาทรักษาทุกที่ หรือ "บัตรทอง" เป็นระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ให้คนไทยที่มีสัญชาติและเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก เข้าถึงบริการทางการแพทย์ในราคาประหยัดหรือฟรี โดยไม่ต้องจ่ายเกิน 30 บาทต่อครั้ง (บางกรณีฟรี) ในปี 2568 ระบบนี้ครอบคลุมทุกจังหวัด ใช้บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ที่หน่วยบริการปฐมภูมิทุกแห่งทั่วประเทศ โดยไม่ต้องมีใบส่งตัว และเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพผ่าน Health ID ดิจิทัล 100% ทำให้การรักษาสะดวกรวดเร็วขึ้น

ขั้นตอนสมัครบัตรทอง

สามารถทำได้ทั้งแบบออนไลน์และที่หน่วยงานที่กำหนด ดังนี้

เตรียมเอกสาร

  • บัตรประจำตัวประชาชน (ตัวจริง) หรือเอกสารราชการที่มีเลข 13 หลัก
  • เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ใช้สูติบัตรพร้อมบัตรประชาชนผู้ปกครอง
  • หากที่พักไม่ตรงทะเบียนบ้าน ต้องมีสำเนาทะเบียนบ้านและหนังสือรับรองจากเจ้าบ้านหรือผู้นำชุมชน

ช่องทางการสมัคร

  • ออนไลน์ ดาวน์โหลดแอป NHSO หรือ แอปทางรัฐ แล้วลงทะเบียนตามขั้นตอน กรอกข้อมูลส่วนตัวและยืนยันตัวตน
  • ออฟไลน์ สถานที่สมัคร สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.), โรงพยาบาลรัฐ, หรือหน่วยบริการปฐมภูมิที่เข้าร่วมโครงการ
  • สายด่วน สปสช. โทร 1330 กด 6 เพื่อสอบถามหรือนัดหมายสมัคร

ตรวจสอบสถานะ หลังสมัคร ใช้แอป NHSO หรือเว็บไซต์ สปสช. ตรวจสอบว่าสิทธิได้รับการอนุมัติหรือไม่

เงื่อนไขการใช้สิทธิ สิทธิ 30 บาทรักษาทุกที่ในปี 2568 มีเงื่อนไขดังนี้ 

  1. ผู้มีสิทธิ 
    • คนไทยทุกคนที่มีเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก
    • เด็กแรกเกิดที่เป็นคนไทย
    • ผู้ที่ไม่มีประกันสังคมหรือสวัสดิการข้าราชการ
    • บุตรข้าราชการที่อายุเกิน 20 ปีหรือสมรสแล้ว และไม่มีสิทธิประกันสุขภาพอื่น
  2. สถานพยาบาลที่ใช้ได้
    • กทม. ได้แก่ ศูนย์บริการสาธารณสุข คลินิกชุมชนอบอุ่น
    • ต่างจังหวัด ได้แก่ รพ.สต. สถานีอนามัย ศูนย์สุขภาพชุมชน รพ.รัฐประจำอำเภอหรือจังหวัด (สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข)
    • ร้านยาคุณภาพ ดูแลเจ็บป่วยเล็กน้อย 32 อาการปรึกษาเภสัชกรและรับยาตามอาการ
    • คลินิกหมอ (คลินิกเวชกรรม) เจ็บ ไข้ ไอ ปวด รับบริการตรวจรักษาโรคทั่วไป แบบผู้ป่วยนอก
    • คลินิกหมอฟัน (คลินิกทันตกรรม) อุดฟัน ถอนฟัน ขูดหินปูน เคลือบหลุมร่องฟัน เคลือบฟลูออไรด์ (ปีละ 3 ครั้ง)
    • คลินิกพยาบาล ทำแผล ล้างแผล ล้างตา ล้างจมูก เปลี่ยนสายให้อาหาร ฉีดยาตามแผนการรักษาของแพทย์ และตรวจรักษาโรคเบื้องต้น 32 กลุ่มอาการเช่น เป็นไข้ตัวร้อน ไอ ปวดศีรษะ ปวดท้อง เป็นต้น
    • คลินิกกายภาพบำบัด ฟื้นฟูผู้ป่วย 4 กลุ่มโรค (ในช่วง 6 เดือนแรกหลังพ้นวิกฤต) ได้แก่ โรคหลอดเลือดสมอง สมองได้รับบาดเจ็บ ไขสันหลังได้รับบาดเจ็บ กระดูกสะโพกหัก
    • คลินิกแพทย์แผนไทย นวด ประคบ อบสมุนไพร เพื่อการรักษา และฟื้นฟูสมรรถภาพ 4 กลุ่ม ได้แก่ โรคอัมพฤกษ์ โรคอัมพาต โรคสันนิบาต และฟื้นฟูสุขภาพมารดา หลังคลอด
    • คลินิกเทคนิคการแพทย์ ตรวจแล็บ-เจาะเลือด 22 รายการตามใบแพทย์สั่งตรวจจากโรงพยาบาลที่ให้การรักษา เช่น ตรวจความเข้มข้นและความผิดปกติของเม็ดเลือด ตรวจระดับไขมัน/น้ำตาล ตรวจการทำงานของตับ ไต เป็นต้น
  3. กรณีฉุกเฉิน
    • ประสบอุบัติเหตุ เจ็บป่วยฉุกเฉินไม่ถึงขั้นวิกฤต เข้ารักษาได้ที่โรงพยาบาลรัฐทุกแห่ง และโรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมกับ สปสช. ยื่นบัตรประชาชน แจ้งใช้สิทธิฉุกเฉิน
    • เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตถึงแก่ชีวิต (เช่น หมดสติ, หายใจไม่ออก, เจ็บหน้าอกรุนแรง) เข้ารักษาได้ที่โรงพยาบาลรัฐและเอกชนที่ใกล้ที่สุด ยื่นบัตรประชาชน แจ้งใช้สิทธิ UCEP เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติมีสิทธิทุกที่
    • หมายเหตุ โรงพยาบาลรัฐสังกัดอื่น เช่น กรุงเทพมหานคร กระทรวงกลาโหม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มหาวิทยาลัย เป็นโรงพยาบาลสำหรับรับส่งต่อผู้ป่วย ต้องใช้ใบส่งตัว
  4. ข้อจำกัด
    • ไม่ครอบคลุมการรักษาที่ไม่จำเป็นทางการแพทย์ เช่น ศัลยกรรมความงาม หรือการรักษาในโรงพยาบาลเอกชนที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการ

ขั้นตอนการใช้สิทธิ การใช้สิทธิ 30 บาทรักษาทุกที่ในปี 2568 ทำได้ง่ายด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ดังนี้

  1. ตรวจสอบสิทธิ 
    • ผ่านแอป NHSO, แอปทางรัฐ, หรือ เว็บไซต์ สปสช. 
    • โทรสายด่วน สปสช. 1330 กด 6
    • ผ่าน LINE Official สปสช. (@nhso)
  2. เลือกหน่วยบริการ ค้นหาหน่วยบริการปฐมภูมิใกล้ตัวผ่านแอปทางรัฐ หรือเว็บ สปสช. ซึ่งรวมโรงพยาบาลรัฐ คลินิก ร้านยา
  3. เข้ารับบริการ
    • แสดงบัตรประชาชนที่หน่วยบริการ ไม่ต้องใช้ใบส่งตัว
    • กรณีลืมบัตร ใช้แอป ThaID (บัตรประชาชนดิจิทัล), ใบขับขี่, หรือเอกสารที่มีเลข 13 หลักพร้อมรูปถ่าย
    • เด็กอายุต่ำกว่า 7 ปี ใช้สูติบัตรและบัตรประชาชนผู้ปกครอง
  4. รับยาหรือรักษา
    • อาการเล็กน้อย (เช่น ไข้หวัด ปวดหัว) รับยาฟรีที่ร้านยาคุณภาพ 32 อาการ
    • กรณีรักษาต่อเนื่อง เช่น โรคเรื้อรัง รับการดูแลที่หน่วยบริการประจำ
    • กรณีฉุกเฉิน เข้าโรงพยาบาลใดก็ได้ทันที
  5. เปลี่ยนหน่วยบริการ เปลี่ยนสถานพยาบาลประจำได้ผ่านแอปทางรัฐหรือ LINE สปสช. โดยไม่ต้องไปที่สำนักงาน

สิทธิพิเศษปี 2568 

นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ในปี 2568 เพิ่มสิทธิประโยชน์ใหม่เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต พร้อมนวัตกรรม 30 บาทรักษาทุกที่ ดังนี้

  1. ตู้ห่วงใยหาหมอออนไลน์ ตั้งในชุมชน/ห้างสรรพสินค้า และรอรับจัดส่งยาถึงบ้าน
  2. หาหมอออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชันสุขภาพ ทำตามขั้นตอนจะได้ปรึกษาแพทย์ตามอาการ และรอรับยาจัดส่งถึงบ้าน กับ 3 แอปพลิเคชันสุขภาพ ได้แก่
    • แอปพลิเคชัน Clicknic (คลิกนิก) โดยคลิกนิกเฮลท์คลินิกเวชกรรม สอบถามเพิ่มเติม ไลน์ไอดี @clicknic
    • แอปพลิเคชัน Mordee (หมอดี) โดยชีวีบริรักษ์ คลินิกเวชกรรม สอบถามเพิ่มเติม ไลน์ไอดี @mordeeapp
    • แอปพลิเคชัน Saluber MD (ซาลูเบอร์ เอ็ม ดี) โดยสุขสบายคลินิกเวชกรรม สอบถามเพิ่มเติม ไลน์ไอดี @smdthailand
  3. รถทันตกรรมเคลื่อนที่ ดูแลกลุ่มเปราะบาง เช่น คนพิการ ผู้ต้องขัง ผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง ชุมชนแออัด หรือชุมชนในพื้นที่ห่างไกล
  4. เจาะเลือดที่บ้านผู้ป่วยติดเตียง หากโรงพยาบาลตามสิทธิมีบริการเจาะเลือดที่บ้านให้ประสานกับโรงพยาบาลที่ให้การรักษาผู้ป่วยและนัดหมายเจาะเลือดที่บ้าน หรือประสานคลินิกเทคนิคการแพทย์ที่เข้าร่วม 30 บาทรักษาทุกที่ให้มาเจาะเลือดที่บ้านได้
  5. รถคลินิกเวชกรรมเคลื่อนที่ให้บริการในชุมชน
  6. ห้องพยาบาลโรงเรียนมัธยม หาหมอออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชันให้บริการที่ห้องพยาบาลในโรงเรียนพร้อมจัดส่งยาถึงโรงเรียน มีผู้ช่วยพยาบาลประจำที่โรงเรียนที่เข้าร่วม
  7. หน่วยบริการเชิงรุก ในห้างสรรพสินค้า สถานประกอบการ โรงงาน ฯลฯ บริการตรวจสุขภาพฟรีตามสิทธิประโยชน์ เช่น เจาะเลือด ตรวจแล็บ วัดความดันโลหิตสูง เจาะเลือดปลายนิ้ววัดเบาหวาน เอกซเรย์ปอด ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ คัดกรองมะเร็งปากมดลูก ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบี/ซี
  8. คลินิกพยาบาลและหาหมอออนไลน์ในปั๊มน้ำมันและสถานีรถไฟฟ้า ให้บริการพยาบาลเบื้องต้นและรักษา 32 โรค ร้านยาดูแลเจ็บป่วยเล็กน้อย 32 อาการ หากเกินจะได้ปรึกษาแพทย์ผ่านระบบออนไลน์
  9. เครื่องล้างไตอัตโนมัติ APD ล้างไตเหลือวันละ 1 ครั้ง ทำได้ขณะนอนหลับ ให้ยืมเครื่องไปใช้ที่บ้าน ไปรษณีย์ส่งน้ำยาล้างไตถึงบ้าน
  10. รถรับส่งผู้ป่วยติดเตียงไปโรงพยาบาล ประสานผ่านสายด่วน สปสช. 1330

แม้ว่านโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่จะได้รับการชื่นชม แต่ก็เผชิญความท้าทาย เช่น การคำนวณจำนวนผู้ป่วยที่คลาดเคลื่อนถึงร้อยละ 8.37 ทำให้ผู้ใช้บริการมากกว่าคาด นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ยืนยันว่านโยบายนี้ไม่ล่ม และรัฐบาลจะจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมในปี 2569 เพื่อรองรับความต้องการ

อย่างไรก็ตาม มีข้อถกเถียงเมื่อแพทยสภาฟ้องศาลปกครองเพื่อยกเลิกการให้ยาฟรีที่ร้านยาชุมชน อ้างว่าอาจกระทบมาตรฐานการรักษา สปสช. และพรรคเพื่อไทยกำลังเจรจาเพื่อหาทางออกที่สมดุล

ที่มา : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)

อ่านข่าวอื่น :

รวบแก๊งปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง จ่อเรียก จนท.ศุลกากรให้ข้อมูล

เลือกตั้ง "โสมขาว" ทางแยกประชาธิปไตยท่ามกลางแผลกฎอัยการศึก