ภายหลังจากที่อดีต ปธน.ยุน ซอก-ยอล ถูกถอดถอนจากตำแหน่งในเดือน ธ.ค.2567 จากการประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วประเทศ เกาหลีใต้จึงมีการจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีฉับพลันขึ้นในวันที่ 3 มิ.ย.2568 และผลการเลือกตั้งก็เป็นไปตามคาดเมื่อ "อี แจ-มยอง" ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปไตย (DP) ซึ่งเป็นพรรคสายเสรีนิยม ได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลาย ด้วยคะแนนเสียงร้อยละ 49.3 เอาชนะ "คิม มุน-ซู" ผู้สมัครจากพรรคพลังประชาชนที่ได้คะแนนร้อยละ 41.3
อี แจ-มยอง ได้กล่าวถึงการเลือกตั้งครั้งนี้ว่าเป็น "วันแห่งการพิพากษา" ต่อการกระทำของยุน ซอก-ยอล และความล้มเหลวของพรรคพลังประชาชน (PPP) ในการถอยห่างจากการตัดสินใจใช้กฎอัยการศึกดังกล่าว
อดีตที่วุ่นวายของผู้นำคนใหม่โสมขาว
"อี แจ-มยอง" วัย 60 ปี มีชีวิตที่โลดโผนไม่ต่างจากละครเกาหลี เขาเกิดในครอบครัวที่ยากจน และต้องออกจากโรงเรียนตั้งแต่ชั้นประถม เพื่อทำงานในโรงงานหลายแห่งที่เมืองซองนัมใกล้กรุงโซล เนื่องจากครอบครัวไม่มีเงินส่งเสียให้ศึกษาต่อในระดับมัธยม ในโรงงานผลิตถุงมือเบสบอล แขนซ้ายของเขาถูกเครื่องจักรทับจนพิการถาวร อี แจ-มยองเล่าว่าเขาต้องทนกับการถูกทำร้ายร่างกายในโรงงาน และเคยพยายามฆ่าตัวตายถึง 2 ครั้งด้วยความสิ้นหวัง แต่ไม่สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม เขาฟื้นตัวกลับมาได้และได้รับทุนเต็มจำนวนเพื่อเข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยชุงอังในกรุงโซล ก่อนจะผันตัวมาเป็นทนายความด้านสิทธิมนุษยชน เรื่องราวชีวิตที่ต่อสู้จากความยากลำบากนี้ ทำให้เขาสามารถสร้างฐานผู้สนับสนุนที่ภักดี และถูกมองว่าเป็นผู้ที่เข้าใจความทุกข์ยากของผู้ด้อยโอกาสอย่างแท้จริง
ก่อนหน้านี้ เขาเคยดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองซองนัมเป็นเวลา 2 ปี ซึ่งในบทบาทนั้น เขาได้ช่วยปิดตลาดค้าเนื้อสุนัขที่ใหญ่ที่สุดของประเทศลงได้ และต่อมายังได้เป็นผู้ว่าการจังหวัดคยองกี ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดของประเทศนานกว่า 3 ปี
ในปี 2567 เขายังเคยถูกชายผู้แสร้งทำเป็นผู้สนับสนุนใช้มีดแทงที่คอ และต้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลด้วยเฮลิคอปเตอร์เพื่อเข้ารับการผ่าตัดฉุกเฉิน โดยผู้ก่อเหตุยอมรับว่าต้องการฆ่าอี แจ-มยอง เพื่อไม่ให้เขาเป็นประธานาธิบดี

ความท้าทายที่ "อี แจ-มยอง" ต้องเผชิญ
ในฐานะประธานาธิบดีคนใหม่ "อี แจ-มยอง" จะต้องเผชิญกับความท้าทายทั้งทางเศรษฐกิจและการเมืองอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน นโยบายสำคัญที่เขาได้ประกาศไว้คือการมุ่งเน้นการปฏิรูปเศรษฐกิจเกาหลีใต้ให้ทันสมัยผ่าน ปัญญาประดิษฐ์ (AI) อุตสาหกรรมใหม่ และการลงทุนเชิงกลยุทธ์
เขามีแผนที่จะยกระดับขีดความสามารถด้าน AI ของประเทศโดยการเพิ่มเงินทุนภาครัฐสำหรับการพัฒนาศูนย์ข้อมูลและระบบประมวลผลประสิทธิภาพสูง ควบคู่ไปกับการริเริ่มฝึกอบรมแรงงาน ด้านเศรษฐกิจ เขายังเน้นย้ำถึง "กลยุทธ์การเติบโตแห่งความสุขในการฟื้นฟู" ซึ่งสนับสนุนความมีชีวิตชีวาของครัวเรือนและความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดเล็ก โดยหวังจะกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการจัดสรรเงิน 100 ล้านล้านวอน (ประมาณ 2,373 พันล้านบาท) สำหรับการลงทุนภาคเอกชนใน AI
นอกจากนี้ เขายังให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความสามัคคีทางสังคม และการกำกับดูแลประชาธิปไตยภายในรัฐบาล โดยเสนอมาตรการเพื่อขยายการตรวจสอบอำนาจฉุกเฉินของประธานาธิบดีโดยฝ่ายนิติบัญญัติ เพิ่มความเป็นผู้นำพลเรือนในกองทัพ และเพิ่มความเป็นอิสระของสถาบันต่าง ๆ เช่น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในด้านความมั่นคงแห่งชาติ
ปฏิรูปเศรษฐกิจ-ฟื้นสัมพันธ์โสมแดง
อี แจ-มยอง สนับสนุนการมีส่วนร่วมทางการทูตและเศรษฐกิจกับเกาหลีเหนือ เพื่อลดความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี โดยเสนอ "แผนการปลดอาวุธนิวเคลียร์แบบทีละขั้นตอน" และยืนยันถึงความเป็นแกนกลางของพันธมิตรระหว่างสหรัฐฯ-เกาหลีใต้ ในขณะเดียวกันก็แสวงหาความสัมพันธ์ที่มั่นคงกับจีนและรัสเซีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายต่างประเทศที่เน้นการปฏิบัติเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของเกาหลีใต้
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีคนใหม่ยังคงอยู่ภายใต้เงาของปัญหาทางกฎหมายส่วนตัว เขาถูกกล่าวหาในคดีอาญาถึง 5 คดีในข้อหาทุจริตและข้อหาอื่น ๆ โดยศาลสูงสุดได้สั่งให้มีการพิจารณาคดีใหม่ในข้อหาละเมิดกฎหมายเลือกตั้ง แม้ว่ากระบวนการทางกฎหมายจะถูกระงับไว้ชั่วคราวเนื่องจากเอกสิทธิ์ของประธานาธิบดี และคดีเหล่านี้จะกลับมาดำเนินการต่อหลังจากวาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปีของเขาสิ้นสุดลงในปี 2573
ฝ่ายตรงข้ามของ อี แจ-มยอง กังวลว่าเขาอาจใช้อำนาจเพื่อปราบปรามคู่แข่งทางการเมืองและอัยการที่เขาเชื่อว่าอยู่เบื้องหลังการสอบสวนคดีความของเขา
โจทย์หิน สานต่อประชาธิปไตยท่ามกลางความแตกแยก
ในบริบททางการเมือง เกาหลีใต้ถูกจัดให้เป็น "ประชาธิปไตยเต็มรูปแบบ" ในปี 2565 เป็นประเทศที่มีประชาธิปไตยในการเลือกตั้งเป็นอันดับ 3 ในเอเชียในปี 2566 และยังถูกยกย่องให้เป็นแบบอย่างของการเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตยที่ค่อนข้างสงบและขับเคลื่อนจากภายใน
อย่างไรก็ตาม ประเทศนี้มีประวัติศาสตร์ทางการเมืองที่มักจะมีการแยกและรวมพรรคบ่อยครั้ง โดยเน้นที่ "การเมืองของบุคคล" มากกว่าพรรค ซึ่งทำให้ความภักดีต่อพรรคไม่แข็งแกร่งนักเมื่อเกิดความขัดแย้ง นอกจากนี้ ยังเคยมีการถดถอยของประชาธิปไตยในช่วงกลางทศวรรษ 2000 ถึงกลางทศวรรษ 2010 ซึ่งมีการแทรกแซงสื่อโดยรัฐมากขึ้นและเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมืองที่ล่าช้ากว่าประเทศประชาธิปไตยที่เทียบเคียงได้
แต่สังคมพลเมืองที่แข็งแกร่งของเกาหลีใต้ (simin sahoe) ซึ่งแสดงออกผ่านองค์กรภาคประชาสังคมจำนวนมาก ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ป้องกันไม่ให้เกิดการถดถอยของประชาธิปไตยที่รุนแรงไปกว่านี้ เช่น ผ่านการประท้วงด้วยแสงเทียนในปี 2559-2560
ด้านเศรษฐกิจ เกาหลีใต้กำลังเผชิญกับความท้าทายอย่างมาก การเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัวลงตลอดปี 2567 และแนวโน้มการฟื้นตัวมีจำกัด วิกฤตการณ์ทางการเมืองและความไม่มั่นคงของรัฐบาลที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนมีแนวโน้มที่จะส่งผลให้ อุปสงค์ภายในประเทศและการลงทุนภาคเอกชนลดลงอย่างเห็นได้ชัด ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและนักลงทุนก็ลดลง ในเดือน ธ.ค. แม้ธนาคารกลางและรัฐบาลเฉพาะกาลจะเสนอมาตรการสนับสนุน แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งคาดว่าจะยังคงชะลอตัวในปี 2568

โดยคาดการณ์การเติบโตจะลดลงเหลือเพียงร้อยละ 1.6 นอกจากนี้ นโยบายการเงินยังถูกจำกัดด้วยความเสี่ยงทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับหนี้ภาคครัวเรือนที่สูงถึงประมาณร้อยละ 90 ของ GDP การปฏิรูปโครงสร้างที่วางแผนไว้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางอุตสาหกรรมก็ถูกคุกคามจากวิกฤตการเมืองปัจจุบัน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับภาคการส่งออก โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ที่เผชิญกับการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากจีน สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น
อี แจ-มยอง จะเริ่มวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีห้าปีของเขาในวันที่ 4 มิถุนายน ด้วยความที่พรรคประชาธิปไตยยังคงครองเสียงข้างมากในรัฐสภา อี แจ-มยอง จะเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยอย่างมากในการผลักดันนโยบายของเขา ซึ่งรวมถึงกฎหมายที่เคยถูกขัดขวางโดยรัฐบาลของยุน ซอก-ยอล เช่น ร่างกฎหมายที่มุ่งเสริมสร้างการคุ้มครองแรงงานและเกษตรกร
การเปลี่ยนแปลงนี้อาจทำให้เกิดความกังวลในหมู่กลุ่มอนุรักษนิยมว่าพรรคประชาธิปไตยอาจใช้อำนาจที่แทบจะปราศจากการตรวจสอบ ด้วยความท้าทายทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ "อี แจ-มยอง" จะต้องแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการนำพาประเทศผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ และรักษาสมดุลของหลักการประชาธิปไตยและความมั่นคงของเกาหลีใต้ไว้ได้
ที่มา : An Overly Deep Political Crisis in South Korea โดย Irena-Krchakova, KEI, Xinhua, BBC, The Economic Times
อ่านข่าวอื่น :
"อี แจ-มยอง" ฉลองชัยชนะคว้าเก้าอี้ประธานาธิบดีเกาหลีใต้
ยูเครนอ้างระเบิดใต้ "สะพานเคิร์ช" เชื่อมคาบสมุทรไครเมีย-รัสเซีย