ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"อี แจ-มยอง" ฉลองชัยชนะคว้าเก้าอี้ประธานาธิบดีเกาหลีใต้

ต่างประเทศ
06:29
1,235
"อี แจ-มยอง" ฉลองชัยชนะคว้าเก้าอี้ประธานาธิบดีเกาหลีใต้
อ่านให้ฟัง
07:45อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"อี แจ-มยอง" จากพรรคประชาธิปไตย คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เจ้าตัวลั่นจะไม่ลืมหน้าที่ในการรวมประชาชนเป็นหนึ่ง และจะหาวิธีให้ประเทศอยู่ร่วมกับเกาหลีเหนือได้โดยผ่านการเจรจาและการสื่อสาร ขณะที่ประชาชนแห่มาใช้สิทธิ 79.4% มากสุดในรอบ 28 ปี

วันนี้ (4 มิ.ย.2568) หลังจากเผชิญความวุ่นวายทางการเมืองมานานนับ 6 เดือนเต็ม วันนี้เกาหลีใต้ได้ประธานาธิบดีคนใหม่แล้ว หลังเปิดหีบให้ประชาชนไปลงคะแนนเสียงกันเมื่อวานนี้ ซึ่งถือว่ามีผู้มาลงคะแนนเสียงเยอะที่สุดในรอบ 28 ปีด้วย

ผลก็เป็นอย่างที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ว่า "อี แจ-มยอง" ตัวแทนจากพรรคประชาธิปไตย สามารถคว้าชัยชนะขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนที่ 21 ของเกาหลีใต้ 

อี แจ-มยอง ผู้สมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีจากพรรคดีพี ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลัก ขึ้นฉลองชัยชนะบนเวทีด้านนอกรัฐสภาในกรุงโซลของเกาหลีใต้ ท่ามกลางผู้สนับสนุนจำนวนมาก โดย อี แจ-มยอง ใช้โอกาสนี้ระบุว่า จะไม่ลืมหน้าที่ของประธานาธิบดีในการรวมประชาชนเป็นหนึ่ง และจะหาวิธีให้ประเทศสามารถอยู่ร่วมกับเกาหลีเหนือได้โดยผ่านการเจรจาและการสื่อสาร

ท่าทีนี้ของอี แจ-มยอง มีขึ้นหลังผลสำรวจความคิดเห็นหน้าคูหาเลือกตั้ง หรือ เอ็กซิต โพลล์ หลายสำนัก ชี้ว่า อี แจ-มยอง มีคะแนนนำมาเป็นอันดับหนึ่ง ก่อนที่คณะกรรมการการเลือกตั้งเกาหลีใต้จะเปิดเผยว่า อี แจ-มยอง จากพรรคดีพี ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี ซึ่งเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาได้ประกาศรับรองให้อี แจ-มยอง เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของประเทศแล้ว โดยให้เริ่มวาระการดำรงตำแหน่งนับตั้งแต่เวลา 06.21 น. ตามเวลาท้องถิ่นเป็นต้นไป

เกาหลีใต้รับรอง "อี แจ-มยอง" เป็น ปธน.คนที่ 21

วันนี้ (4 มิ.ย.2568) อี แจ-มยอง จะต้องสาบานตนเข้ารับตำแหน่งทันที โดยจะไม่มีช่วงเวลา 2 เดือนในการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลแบบปกติ เนื่องจากตำแหน่งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ว่างลงตั้งแต่รัฐสภาลงมติถอดถอน ยุน ซอก-ยอล อดีตประธานาธิบดี ออกจากตำแหน่ง จากกรณีประกาศกฎอัยการศึกอย่างกะทันหันเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.2567 ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้ยุนพ้นจากตำแหน่งในที่สุด เมื่อวันที่ 4 เม.ย.2568 ที่ผ่านมา

การเลือกตั้งประธานาธิบดีเกาหลีใต้เมื่อวานนี้ (3 มิ.ย.) จัดขึ้น 6 เดือนพอดี หลังการประกาศกฎอัยการศึกของยุน ซอก-ยอล ซึ่งทำให้เกาหลีใต้เผชิญวิกฤตเศรษฐกิจและวิกฤตการเมืองครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายสิบปี

ขณะที่จำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งเบื้องต้นอยู่ที่ร้อยละ 79.4 หรือ 35.24 ล้านคน จากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมดมากกว่า 44 ล้านคน ถือว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่การเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 1997 หรือในรอบ 28 ปี ซึ่งในครั้งนั้นมีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งที่ร้อยละ 80.7

จับตาปัญหาท้าทายผู้นำเกาหลีใต้คนใหม่

ขณะที่คาดว่าผู้นำคนใหม่จะต้องเผชิญกับความท้าทายในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ทั้งผลพวงมาจากการประกาศกฎอัยการศึกของอดีตประธานาธิบดี รวมทั้งต้องหาวิธีรับมือกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ จากมาตรการภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และการพัฒนาโครงการนิวเคลียร์และอาวุธของเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นภัยคุกคามสำคัญของเกาหลีใต้ด้วย

นอกจากนี้อีกหนึ่งโจทย์ท้าทายของ อี แจ-มยอง ผู้นำคนใหม่ของเกาหลีใต้ นั่นคือเรื่องของข้อครหาเกี่ยวกับคดีอาญาที่มีติดตัว โดยเฉพาะคดีที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดกฎหมายการเลือกตั้งจากการให้ข้อมูลเท็จในช่วงหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2022 ซึ่ง อี แจ-มยอง ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว และระบุว่าข้อกล่าวหานี้มีแรงจูงใจทางการเมือง

โดยเมื่อต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ศาลสูงสุดได้มีการพลิกคำตัดสินของศาลชั้นต้นที่ตัดสินให้ อี แจ-มยอง พ้นผิดจากข้อกล่าวหาดังกล่าว และสั่งให้มีการพิจารณาคดีใหม่ แต่เนื่องจากการเลือกตั้งใกล้เข้ามาจึงมีการเลื่อนการพิจารณาคดีออกไปจนกว่าจะมีการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งเมื่อวานนี้ (3 มิ.ย.)

ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายจำนวนหนึ่ง มองว่า ด้วยชัยชนะของ อี แจ-มยอง อาจทำให้การพิจารณาคดีถูกระงับ เนื่องจากได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครองจากการเป็นประธานาธิบดี และจะเริ่มดำเนินการใหม่อีกครั้งหลังจากที่เขาดำรงตำแหน่งครบ 5 ปีในปี 2030

นอกจากคดีดังกล่าวแล้ว ยังมีคดีที่เกี่ยวข้องกับโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งรวมถึงข้อกล่าวหาเรื่องการติดสินบนและยักยอกทรัพย์ ซึ่งขณะนี้ยังคงไม่ชัดเจนว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปเนื่องจากตอนนี้เขาได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งครั้งนี้แล้ว

ชัยชนะครั้งนี้ถือเป็นสิ่งที่ อี แจ-มยอง รอคอยมาอย่างยาวนาน หลังจากเมื่อปี 2022 เขาเคยลงสู้ศึกชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีกับ ยุนซอก-ยอล มาแล้ว แต่กลับพ่ายแพ้ไปด้วยคะแนนที่ห่างกันเพียงเล็กน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของเกาหลีใต้

ขณะที่เมื่อต้นปี 2024 เขาถูกชายคนหนึ่งทำร้าย ซึ่งผู้ก่อเหตุสารภาพว่าตั้งใจที่จะสังหาร อี แจ-มยอง เพื่อป้องกันไม่ให้เขาได้เป็นประธานาธิบดี แต่ อี แจ-มยอง รอดชีวิตมาได้ จนได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีเกาหลีใต้คนที่ 21 ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเหตุการณ์ดังกล่าวช่วยเรียกคะแนนสงสารและเห็นอกเห็นใจให้กับตัวเขาด้วย

แม้ว่าจะผ่านมาทั้งเหตุการณ์เฉียดตาย การต่อสู้ทางการเมือง หรือเรื่องอื้อฉาว แต่สิ่งเหล่านี้ก็ยังไม่สามารถหยุดยั้ง อี แจ-มยอง ได้ ซึ่งถ้าหากย้อนไปดูเส้นทางชีวิตที่ผ่านมาเริ่มต้นมาจากความยากจน โดยในวัยเด็กหลังจากลาออกจากโรงเรียนเพื่อไปทำงานในโรงงานเพื่อเลี้ยงดูครอบครัว เขาได้รับบาดเจ็บที่ข้อศอกจนได้รับผลกระทบกับการใช้ชีวิตจากอุบัติเหตุทางอุตสาหกรรม

ก่อนที่ต่อมาเขาได้รับทุนการศึกษาเพื่อศึกษาต่อด้านกฎหมายและสอบผ่านเนติบัณฑิตจนได้เป็นทนายความ ซึ่ง อี แจ-มยอง ยังใช้เรื่องราวเส้นทางชีวิตเหล่านี้ในการหาเสียงสนับสนุนและทำให้ทุกคนเข้าใจว่าเขาเข้าใจถึงความยากลำบากของผู้ด้อยโอกาส

อ่านข่าว :

ชาวเกาหลีใต้ทยอยใช้สิทธิเลือกตั้ง ชี้ชะตาอนาคตประเทศ

3 มิ.ย.ชี้ชะตา! "เกาหลีใต้" หาผู้นำใหม่ท่ามกลางวิกฤตการเมือง

ศาลตัดสินเอกฉันท์ 8-0 ถอดถอน "ยุน ซอก-ยอล" จาก ปธน.เกาหลีใต้