วันนี้ (17 มิ.ย.2568) พ.อ.กรศักร สุวรรณเตมีย์ พร้อมด้วยนายอรรณพ บุญสว่าง ทนายความ เดินทางเข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อแพทยสภา เพื่อขอให้ตรวจสอบจริยธรรมและการปฏิบัติหน้าที่ของแพทย์ 4 คนจากโรงพยาบาลทหาร โดยอ้างว่าพบพฤติกรรมเข้าข่ายปลอมแปลงเวชระเบียนและออกใบรับรองแพทย์อันเป็นเท็จ เพื่อสนับสนุนพินัยกรรมที่เอื้อประโยชน์ให้แพทย์ซึ่งมีศักดิ์เป็นญาติผู้เสียชีวิต
พ.อ.กรศักร เปิดเผยว่า ในปี 2562 ย่าของตนวัย 92 ปี เข้ารับการรักษาโรคหลอดเลือดสมองตีบที่โรงพยาบาลดังกล่าว โดยระหว่างการรักษา ย่าเคยเล่าให้ฟังว่ามีบุคคลพยายามให้ทำนิติกรรมบางอย่าง แต่ย่าปฏิเสธ แม้ในเวลาต่อมาย่ามีอาการดีขึ้น สามารถพูดคุยและเซ็นเอกสารได้ตามปกติ แพทย์กลับบันทึกในเวชระเบียนว่า "ผู้ป่วยไม่สามารถเขียนหนังสือได้"
นอกจากนี้ พ.อ.กรศักร ยังระบุว่า พบความผิดปกติในใบรับรองแพทย์อีก 2 ฉบับที่มีข้อมูลผู้ป่วยตรงกันทุกอย่าง รวมถึงอายุ 92 ปี 4 เดือน 17 วัน แต่กลับลงวันที่ต่างกันคือ วันที่ 24 ธ.ค.2562 และวันที่ 10 ม.ค.2563 ซึ่งถูกใช้เป็นหลักฐานประกอบพินัยกรรม โดยอ้างว่าผู้ป่วยไม่มีสติสัมปชัญญะ ต้องพิมพ์ลายนิ้วมือแทนการลงชื่อ
พ.อ.กรศักร ตั้งข้อสงสัยว่าการกระทำทั้งหมดอาจมีเจตนาเอื้อประโยชน์ให้แพทย์ที่มีศักดิ์เป็นอาของตนและเป็นผู้รับมรดกเพียงคนเดียว โดยเป็นผู้ดูแลย่าในช่วงพักฟื้นที่บ้านจนกระทั่งเสียชีวิตในปี 2564 ทั้งยังไม่อนุญาตให้ครอบครัวเข้าเยี่ยมและเร่งจัดพิธีศพภายในวันเดียว โดยไม่มีการแจ้งข่าวหรือดำเนินพิธีตามสิทธิเช่นข้าราชการเกษียณ
"อยากให้ตรวจสอบว่ามีการแก้ไขเวชระเบียนย้อนหลังหรือไม่ และกระบวนการรักษาถูกต้องตามมาตรฐานหรือไม่ เพราะหากมีความผิดปกติ ย่อมเชื่อมโยงถึงสาเหตุการเสียชีวิตของคุณย่า ที่จนถึงวันนี้ครอบครัวยังมีข้อกังขา" พ.อ.กรศักร กล่าว
ทั้งนี้ ผู้ร้องยังระบุว่าถูกตำรวจนายหนึ่งส่งเอกสารเรียกตัวให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาเกี่ยวกับสถานะทางทหาร แต่ต่อมาพบว่าผู้บังคับบัญชาของตำรวจนายดังกล่าวยืนยันว่าไม่มีคำสั่งสอบสวนแต่อย่างใด และหลังจากนี้จะนำเอกสารหลักฐานทั้งหมดไปร้องต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพิ่มเติม
อ่านข่าว
"ภูมิใจไทย" ขอเลื่อนเข้ารับทราบข้อกล่าวหาคดีฮั้ว สว.เป็น 30 มิ.ย.นี้
กกล.บูรพา ห้ามคนไทยข้ามไปทำงานกาสิโนในปอยเปต เริ่ม 17 มิ.ย.
อัปเดต "เรือเมียนมา" เกยตื้นเกาะสุรินทร์ เร่งย้าย-ฟื้นฟูปะการัง