ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"กมธ.มั่นคงฯ" ถกหาข้อเท็จจริง 2 คลิปเสียง จ่อเชิญ "แพทองธาร" แจง

การเมือง
16:43
87
"กมธ.มั่นคงฯ" ถกหาข้อเท็จจริง 2 คลิปเสียง จ่อเชิญ "แพทองธาร" แจง
"กมธ.มั่นคงฯ" ถกหาข้อเท็จจริง 2 คลิปเสียง เตรียมเรียก "แพทองธาร" แจงอีกรอบ ปมบทสนทนาฮุนเซน​ พร้อมให้ "บช.ก." เร่งตรวจสอบตัวตน "เคลียง ฮวด​" มีบัตรประชาชน-ทรัพย์สินในไทยจริงหรือไม่ ตั้งคำถามเรื่องคลิปเสียงไล่ล่าคนเห็นต่างในไทย

วันนี้ (3 ก.ค.2568) คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ​ กิจการ​ชายแดน​ไทย​ ​ยุทธ​ศ​า​สตร์ชาติ​ และ​การปฏิรูป​ประเทศ​สภาผู้แทน​ราษฎร​ แถลงผลการประชุมหาข้อเท็จจริง​ 2 คลิปเสียง​ ทั้งกรณีบทสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร กับ สมเด็จฮุนเซน และคลิปที่มีการสั่งติดตามคนกัมพูชา​ บนแผ่นดินไทย​ ที่มีข้อสงสัยว่าจะเกี่ยวพันกับผู้มีอำนาจที่อยู่ในกัมพูชา​

น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมาธิการ​ กล่าวว่า​ ประเด็นที่ถูกพูดถึงในที่ประชุมวันนี้มากที่สุด คือกรณีคลิปเสียงคล้ายสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภา กัมพูชา สั่งการให้นายเคลียง ฮวด ไล่ล่าชาวกัมพูชาที่มีความเห็นต่างในประเทศไทย โดยกรรมาธิการได้เชิญนายพร พันนา นักเคลื่อนไหวที่มีชื่อปรากฏอยู่ในคลิปเสียง ซึ่งปัจจุบันลี้ภัยอยู่ที่สหรัฐอเมริกา และนายสวน จำเริญ ที่ลี้ภัยอยู่นิวซีแลนด์​ วีดิโอคอนเฟอร์เร้นท์​มาให้ข้อมูล​ ว่า​ ถูกทำร้ายหลังลี้ภัยมาประเทศไทย​ สอดคล้องกับคลิปเสียงที่ต้องการให้นายเคลียง ฮวด ไล่ล่าชาวกัมพูชาผู้ที่เห็นต่างในไทย

ขณะเดียวกันยังได้รับข้อมูลจาก น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ นักสิทธิมนุษยชน ว่า​ มีความเป็นไปได้ที่มีการแลกเปลี่ยนการจับกุมตัวผู้ลี้ภัย ระหว่างทางการไทยและกัมพูชา และนายเคลียง ฮวด​ อาจมีบัตรประชาชนหรือสัญชาติไทย หรือมีทรัพย์สินอยู่ในประเทศไทย ซึ่งกรรมาธิการจะติดตามตรวจสอบต่อไป​

น.ส.พรรณิการ์ กล่าวต่อด้วยว่า​ กรรมาธิการเห็นว่า​ นอกจากจะดำเนินการกับสมเด็จฮุนเซนด้วยกฎหมายระหว่างประเทศแล้ว ยังสามารถเอาผิดตามหมวด 3 ของกฎหมายอาญา ซึ่งเป็นความผิดต่อความมั่นคงนอกราชอาณาจักร ทำให้อำนาจอธิปไตยส่วนหนึ่งส่วนใดสูญเสียให้รัฐบาลต่างชาติ ทำให้ผู้นำต่างชาติเข้ามามีปฏิบัติการในประเทศไทย

นอกจากผิดกฎหมายอาญาแล้ว​ ยังเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 ซึ่งต้องดำเนินการกับนายกรัฐมนตรี​ รัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในคดีนี้ด้วยหรือไม่

ส่วนการดำเนินการในระดับกฎหมายระหว่างประเทศกับสมเด็จฮุนเซน น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า ผู้แทนของกระทรวงการต่างประเทศ ยอมรับว่ามีการศึกษาพิจารณาอยู่ แต่ต้องขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงที่ปรากฏในคลิป

ขณะที่เจ้าหน้าตำรวจ ยอมรับว่า​ จะนำคลิปเสียงไปตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ ว่า เป็นเสียงของสมเด็จฮุนเซนจริงหรือไม่ เพื่อนำเข้าสู่สำนวนคดีต่อไป

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยืนยันว่า​ ไม่เคยมีความเกี่ยวข้องหรือร่วมมือกับนายเคลียง​ ฮวด แต่ทางสภาความมั่นคงแห่งชาติยอมรับว่า มีปฏิบัติการของต่างชาติเข้ามาเป็นภัยคุกคาม ตามล่าคนสัญชาติเขาในประเทศไทยจริง ซึ่งเรื่องนี้​ สมช.มองว่าเป็นภัยคุกคาม แต่ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้มากพอ จึงไม่ทราบว่าปฏิบัติการเหล่านี้มีความร่วมมืออย่างไม่เป็นทางการกับหน่วยงานราชการของไทยหรือไม่

ส่วนกรณีคลิปเสียงสนทนาระหว่างสมเด็จฮุนเซน และ น.ส.แพทองธาร​ นั้น น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า กรรมาธิการไม่แน่ใจว่า จะมีคลิปสนทนาส่วนตัว ของ น.ส.แพทองธาร​ กับผู้นำต่างชาติอื่นอีกหรือไม่ หากมีต้องแจ้งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบรับทราบ เพื่อเตรียมความพร้อม เนื่องจากกรรมาธิการ​ มีความไม่สบายใจอย่างยิ่ง​ว่า​อาจมีคลิปเสียงที่กระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือกระทบความมั่นคงระหว่างประเทศ ที่เกิดจากการดำเนินการทางการทูตที่ไม่ถูกต้องของ น.ส.แพทองธาร โดยได้รับข้อมูลเพิ่มเติมว่าการสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีฝรั่งเศส ไม่ได้เป็นไปตามทางการทูตเช่นเดียวกัน

ด้านนายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ กรรมาธิการฯ​ กล่าวว่า​ จะส่งข้อมูลไปยังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้หาข้อเท็จจริงเรื่องของนายเคลียง​ ฮวด ว่า​ เป็นคนไทย​ มีบัตรประชาชน และทรัพย์สินในไทยหรือไม่ พร้อมขอข้อมูลบันทึกการเข้า-ออกประเทศไทยด้วย จากนั้นจะขยายผลหาข้อเท็จจริงการถูกทำร้ายร่างกายของชาวกัมพูชาที่มาให้ข้อมูลต่อกับกรรมาธิการวันนี้ รวมไปถึงการเสียชีวิตของนายลิม​ กิมยา พร้อมทำหนังสือเชิญถึง น.ส.แพทองธาร​ มาชี้แจงต่อกรรมาธิการอีกครั้ง เพราะกรณีคลิปเสียงสนทนา ไม่สามารถมีใครชี้แจงแทนได้

อ่านข่าว : "พิเชษฐ์" ชิงปิดประชุมสภาฯ ก่อนล่ม หลัง สส.พปชร.ขอนับองค์ประชุม 

"ชูศักดิ์" รับ คิดถอนร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์​ 

“อนุทิน” ปัดข่าว “นายกฯ ชั่วคราว” เงื่อนไข “ค่ายสีส้ม” ได้ไม่คุ้มเสีย