จากกรณีที่ น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ อดีต รมช.มหาดไทย ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่ง รมว.วัฒนธรรม ในรัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การนำของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ซึ่งมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากบางฝ่ายเกี่ยวกับความเหมาะสม โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับข้อจำกัดทางศาสนา เนื่องจาก น.ส.ซาบีดาเป็นชาวไทยมุสลิม
รศ.ดร.มูฮัมหมัดอิลยาส หญ้าปรัง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ให้ความเห็นต่อกรณีดังกล่าวว่า การนับถือศาสนาเป็นเรื่องส่วนตัวในรัฐชาติสมัยใหม่ โดยเฉพาะในสังคมพหุวัฒนธรรมที่ต้องยอมรับความแตกต่างและอยู่ร่วมกันอย่างเคารพซึ่งกันและกัน

น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์
น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์
การที่ น.ส.ซาบีดา มีชื่อได้รับตำแหน่งรัฐมนตรี ไม่ควรถูกตั้งคำถามด้วยศาสนา เพราะในอดีตก็มีตัวอย่างที่เห็นได้ชัด เช่น นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และอดีต รมว.มหาดไทย รมว.คมนาคม ซึ่งเป็นมุสลิมเช่นกัน ก็สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนการประกอบพิธี ที่ผ่านมา มีการส่งผู้แทนปฏิบัติหน้าที่แทนในเรื่องของพิธีกรรม และได้รับคำชื่นชมในช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งกรณีของ น.ส.ซาบีดา ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
สำหรับความกังวลเรื่องการร่วมพิธีกรรมทางศาสนา รศ.ดร.มูฮัมหมัดอิลยาส ระบุว่า การร่วมงานพิธีของศาสนาอื่นในฐานะผู้ร่วมงานสามารถทำได้ เช่น การไปร่วมงานฌาปนกิจ ฟังสวด เพื่อแสดงความเคารพต่อญาติพี่น้อง ซึ่งการไหว้พระสงฆ์เป็นสิ่งที่ชาวมุสลิมสามารถทำได้ในฐานะการให้เกียรติผู้ทรงศีล ยกเว้นเพียงการประกอบพิธีทางศาสนา
ในโลกสังคมสมัยใหม่ที่อยู่ร่วมกัน อาจจะมีบางคนที่เป็นชาวมุสลิมที่นับถือจารีตมากๆ ซึ่งเป็นเรื่องปกติทางสังคม เช่นเดียวกับเช่นเดียวกับในศาสนาพุทธ ที่บางกลุ่มถือศีล 5 ศีล 8 อย่าเคร่งครัด
สังคมไทยมีปฏิกิริยาต่ออัตลักษณ์แตกต่าง เป็นเรื่องปกติในแง่สังคมไทยในปัจจุบันที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยม ด้วยสาเหตุหลายๆ อย่าง เช่นเรื่องสงครามชายแดนไทย-กัมพูชา การสร้างความรู้สึกในเรื่องของการรักชาติ รวมถึงปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนมีส่วนทำให้ความรู้สึกคนไทยเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในเรื่องของการรักชาติ และอาจจะไม่เปิดรับในแง่ของความแตกต่างในช่วงเวลานี้แต่ที่ผ่านมาถ้าสังคมไทยมีเศรษฐกิจดี มีการเมืองการปกครองที่มีประชาธิปไตย มีความโปร่งใส่ ตรวจสอบได้ มีเสรีภาพในการพูดการเขียน ความรู้สึกของการไม่รับคนที่แตกต่างก็จะลดน้อยลง
ในปัจจุบันอาจจะมีประชาชนหลายส่วนที่อาจจะมีความรู้สึกในลักษณะนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ว่าในสังคมไทยในปัจจุบัน อยู่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่าน
รศ.ดร.มูฮัมหมัดอิลยาส ยังกล่าวถึงเสียงคัดค้านที่เกิดขึ้น ว่าไม่ควรตีความให้เลยเถิดไปมาก เป็นเรื่องปกติในปัจจุบันที่ความคิดแตกต่าง แม้แต่ความแตกต่างในเรื่องพรรคการเมือง ในสังคมไทยปัจจุบันมีแนวโน้มเกิดความขัดแยกได้ง่าย แม้แต่เรื่องเล็กน้อย ก็จะเกิดการแบ่งแยกชัดเจนไม่ใช่เฉพาะประเด็นทางศาสนาเท่านั้น แต่ประเด็นศาสนายิ่งทำให้เป็นกลุ่มเป็นก้อนและมีการคัดค้านเพิ่มมากขึ้น
ซึ่งสิ่งที่ควรกระทำ คือควรมีความอดทน อดกลั้น มีความเข้าใจ และยอมรับในการวิพากษ์วิจารณ์ ถ้าหากไม่ผิดกฎหมาย และทางการเมืองมีความเห็นว่าเหมาะสม ส่วนจะมีการวิพากษ์วิจารณ์ ก็เป็นเรื่องที่ต้องรับฟังและทำงานพิสูจน์ว่าแม้มีความแตกต่างทางศาสนาก็สามารถทำงานได้ รวมถึงการให้โอกาส ไม่ควรมีการถกเถียงหรือด่าทอซึ่งกันและกัน
ทั้งนี้ รศ.ดร.มูฮัมหมัดอิลยาส ยังกล่าวชื่นชม น.ส.ซาบีดา ว่ามีบุคลิกนุ่มนวล อดทน และยอมรับการวิพากษ์วิจารณ์ได้อย่างมีวุฒิภาวะ อีกทั้งยังเติบโตมาจากพื้นที่ จ.อุทัยธานี ซึ่งเป็นชุมชนชาวพุทธแบบดั้งเดิม เต็มไปด้วยวัด ทุ่งนา และวิถีเกษตรกรรม ทำให้มีความเข้าใจและคุ้นเคยกับวัฒนธรรมไทยแบบจารีต จึงอาจเป็นความท้าทาย แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นโอกาส ของประเทศไทยที่จะเดินหน้าเข้าสู่สังคมที่เปิดกว้างและเคารพความหลากหลาย
"การที่ น.ส.ซาบีดาเติบโตในสังคมพหุวัฒนธรรม ทำให้สามารถร่วมงานวัด งานบุญ และเป็นที่ยอมรับในพื้นที่อุทัยธานี จึงไม่ใช่ปัญหาในการปฏิบัติหน้าที่ แต่เป็นบทพิสูจน์ว่า คนที่มีความแตกต่างทางศาสนา ก็สามารถทำงานด้านวัฒนธรรมได้อย่างรอบด้าน"
อ่านข่าว :
"ศุภจี" ตอบรับนั่ง รมว.พาณิชย์ "ครม.อนุทิน 1"
“พล.อ.ณัฐพล” รับ “อนุทิน” ทาบทาม นั่ง รมว.กลาโหม
"บวรศักดิ์" นั่งรองนายกฯ ครม.อนุทิน 1 ชื่อครบส่งตรวจคุณสมบัติ 7-10 วัน