ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ศร.ไม่รับคำร้องให้วินิจฉัย "ฮุนเซน" และบุคคลอื่นรวม 15 คน ใช้สิทธิเสรีภาพล้มล้างการปกครอง

การเมือง
15:52
73
ศร.ไม่รับคำร้องให้วินิจฉัย "ฮุนเซน" และบุคคลอื่นรวม 15 คน ใช้สิทธิเสรีภาพล้มล้างการปกครอง
ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้อง"วินิจ จินใจ" ให้วินิจฉัย "ฮุนเซน" และผู้ถูกร้องคนอื่น ๆ รวม 15 คน ใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

วันนี้ (10 ก.ย.2568) นายวินิจ จินใจ (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 กล่าวอ้างว่า กรณีปรากฏข้อเท็จจริงที่แพร่หลายในสื่อมวลชนว่า สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา (ผู้ถูกร้องที่ 1) ได้เผยแพร่คลิปเสียงการสนทนาระหว่างผู้ถูกร้องที่ 1 กับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยมีเจตนาเพื่อเตรียมการรุกล้ำอธิปไตยของไทย

การกระทำดังกล่าวส่งผลให้เกิดความเคลื่อนไหวจากบุคคลหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นการส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยของนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา (ผู้ถูกร้องที่ 2) และสมาชิกวุฒิสภา จำนวน 36 คน (ผู้ถูกร้องที่ 3) 

การยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการเลือกตั้งเพื่อให้พิจารณาส่งคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อยุบพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาล ของนายสกนธ์ การกระสัง (ผู้ถูกร้องที่ 6) การแจ้งความดำเนินคดีอาญาของคณะบุคคล ประกอบด้วยนายสมชาย แสวงการ นายนิติธร ล้ำเหลือ และนายคมสัน โพธิ์คง (ผู้ถูกร้องที่ 12)

การเรียกร้องให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพื่อรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นของนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรค พลังประชารัฐ (ผู้ถูกร้องที่ 4) คณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (ผู้ถูกร้องที่ 5) นายวรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี (ผู้ถูกร้องที่ 9) พรรคไทยภักดี (ผู้ถูกร้องที่ 10) คณะกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย (ผู้ถูกร้องที่ 11) และแกนนำคณะรวมพลังแผ่นดิน (ผู้ถูกร้องที่ 14)

การลงนามถวายฎีกาของคณะนักวิชาการนักวิจัย และอาจารย์มหาวิทยาลัย จำนวน 155 คน (ผู้ถูกร้องที่ 13 รวมถึงการดำเนินงานของนายทะเบียนพรรคการเมือง (ผู้ถูกร้องที่ 7) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (ผู้ถูกร้องที่ 8) และคณะบุคคลผู้เกี่ยวข้องกับคดีการฮั้วการเลือกสมาชิกวุฒิสภาเมื่อปี พ.ศ.2567 จำนวน 229 คน (ผู้ถูกร้องที่ 15) 

การกระทำของผู้ถูกร้องทั้งสิบห้าเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ประกอบพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.260 มาตรา 45 มาตรา 46 และมาตรา 92 วรรรคหนึ่ง (1) (2) และ (3)

ผู้ร้องยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดและอัยการสูงสุดพิจารณาแล้วเห็นว่า ยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานรับฟังได้ว่าเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเป็นกรณีที่ได้มีบทบัญญัติแห่งกฎหมาย หลักเกณฑ์ วิธีการ และกระบวนการยุติธรรมกำหนดขั้นตอนไว้เป็นโดยเฉพาะแล้ว จึงมีคำสั่งไม่รับดำเนินการตามที่ร้องขอ

ผลการพิจารณา

ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยการอภิปรายแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบไม่ปรากฏข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานอื่นที่ชัดเจนเพียงพอที่แสดงให้เห็นได้ว่าผู้ถูกร้องทั้งสิบห้ากระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง

ส่วนกรณีการกระทำอื่นใดของผู้ถูกร้องทั้งสิบห้าจะเป็นความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญาหรือกฎหมายอื่นหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องไปว่ากล่าวกันอีกส่วนหนึ่งต่างหากตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป กรณีไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย

อ่านข่าว : ศาล รธน.ชี้สภามีอำนาจจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ได้ ต้องทำประชามติ 3 ครั้ง 

เปิดคำร้อง 20 สส.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ชี้แจงกรณีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ  

โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง "สราวุธ ทรงศิวิไล" ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ