ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ศาลฎีกาแก้ยกฟ้อง "เจ๊ปอง-ภูวดล-ยุทธิยง" คดียึด NBT ปี 51 - "ชิติพัทธ์" คุก 6 เดือน

อาชญากรรม
15:54
4,176
ศาลฎีกาแก้ยกฟ้อง "เจ๊ปอง-ภูวดล-ยุทธิยง" คดียึด NBT ปี 51 - "ชิติพัทธ์" คุก 6 เดือน
ศาลฎีกาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง "อัญชะลี-ภูวดล-ยุทธิยง" ส่วน "ชิติพัทธ์" ให้จำคุก 6 เดือน จากเดิม 8 เดือน ไม่รอลงอาญา คดีพาผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ บุก NBT ช่วงการชุมนุมขับไล่ รัฐบาล "สมัคร สุนทรเวช" เมื่อปี 51

วันนี้ (19 ก.ย.) นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก เดินทางถึงศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่อฟังคำพิพากษาชั้นฎีกา คดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลย รวม 5 คน กรณีร่วมกันบุกรุกสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (์ฺNBT) ในช่วงการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อขับไล่รัฐบาลสมัคร สุนทรเวช เมื่อปี 2551

ล่าสุด ศาลฎีกาฯ แก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง น.ส.อัญชะลี , นายภูวดล , นายยุทธิยง ส่วน นายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล น้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ให้จำคุก 6 เดือน จากเดิม 8 เดือน

เบื้องต้นศาลฎีกาได้อ่านคำพิพากษา พิเคราะห์แล้วเห็นว่า มีเหตุสงสัยบางประการของจำเลย 3 คน คือ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ และ นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที ที่พยานให้การไม่ตรงกันหลายปาก จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย ฎีกาจำเลยฟังขึ้น จึงพิพากษาแก้ยกฟ้อง

ส่วนนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ฎีกาฟังไม่ขึ้นจึงพิพากษาแก้ ให้จำคุก 8 เดือน ไม่รอลงอาญา เนื่องจากเห็นว่ามีเจตนาทำเพื่อประโยชน์ของชาติ และให้การเป็นประโยชน์ ต่อการพิจารณาอยู่บ้าง จึงลดโทษให้ 1 ใน 4 เหลือจำคุก 6 เดือน ไม่รอลงอาญา

ซึ่งขั้นตอนต่อไป ทางเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะควบคุมตัว นายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ไปคุมขังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก

น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก

น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก

ด้าน น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก เปิดเผยว่า ขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลที่ให้ความเมตตา ที่ผ่านมาก็มีการเตรียมความพร้อมหากศาลฎีกาพิพากษายืนลงโทษตามศาลอุทธรณ์ เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ โดยยืนยันว่าที่ผ่านมานั้น ทำไปตามหน้าที่ของสื่อมวลชน ถือเป็นการสิ้นสุดการต่อสู้คดีซึ่งมีระยะเวลาถึง 15 ปี และเป็นคดีสุดท้ายที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม จึงทำให้รู้สึกโล่งอก ซึ่งจากนี้หากพบความไม่ชอบธรรม หรือไม่ถูกต้องเกิดขึ้นในสังคม จากระบบการเมือง ก็อาจจะออกมาต่อสู้อีก ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมือง ยืนยันว่าตัวเองไม่ใช่นักการเมือง แต่เป็นภาคประชาชนเป็นสื่อมวลชน ที่เห็นอะไรที่ไม่ถูกไม่ควรก็คิดว่าจะต้องแก้ไขในสิ่งผิดให้ถูก ต้องไปช่วยคลี่คลายความทุกข์ให้ประชาชนในฐานะสื่อมวลชนคนหนึ่ง

ด้านนายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที เปิดเผยว่า ขอบคุณศาลที่เมตตา ทำให้รู้สึกโล่งอกเพราะเป็นคดีสุดท้ายเช่นกัน โดยตนเองมีความตั้งใจว่าจะเดินจากศาลอาญาถนนรัชดาภิเษก ไปกราบนมัสการพระพุทธชินสีห์ ที่วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร เนื่องจากที่ฐานองค์พระได้บรรจุพระสรีรางคาร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เพื่อความเป็นสิริมงคล

ยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที

ยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที

ยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที

ก่อนหน้านี้ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 12 ก.พ.2563 จำคุกจำเลยคนละ 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา ยกเว้นนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ที่ศาลพิพากษาจำคุก 2 ปี แต่เนื่องจากการเสียชีวิตของนายสมเกียรติเมื่อปี 2564 ศาลจึงมีคำสั่งจำหน่ายคดีในส่วนของนายไพบูลย์ออกจากสารบบ

ต่อมาวันที่ 10 พ.ค.2565 ศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษายืนให้จำคุกจำเลยที่เหลือคนละ 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา ในเวลาต่อมาจำเลยทั้ง 4 ได้ยื่นฎีกาและได้รับการประกันตัวในระหว่างชั้นฎีกาด้วยเงินสดคนละ 2 แสนบาท โดยไม่ได้กำหนดเงื่อนไขใด ๆ ในวันนี้ที่ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีดังกล่าว จึงจะทำให้คดีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยบุกยึด NBT ถึงที่สุด หลังผ่านเหตุการณ์ดังกล่าวมากว่า 17 ปี 

อ่านข่าว : ศาลฎีกาพิพากษาจำคุกคดีนักรบศรีวิชัยบุก NBT ปี 51 

ให้ประกัน "อัญชะลี ไพรีรัก" คดีพันธมิตรบุก NBT ปี 51

สิ้นสุดการต่อสู้ “ปลายทาง” 17 ปี คดีกลุ่มพันธมิตรบุกยึด NBT