ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

สิ้นสุดการต่อสู้ “ปลายทาง” 17 ปี คดีกลุ่มพันธมิตรบุกยึด NBT

การเมือง
18:09
1,484
สิ้นสุดการต่อสู้ “ปลายทาง” 17 ปี คดีกลุ่มพันธมิตรบุกยึด NBT
อ่านให้ฟัง
07:46อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

หากนับระยะเวลาในการต่อสู้คดีร่วมบุกยึดสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตั้งแต่ปี 2551 จนถึงวันพรุ่งนี้ (19 ก.ย.2568) ถือเป็นอีกหนึ่งคดีมหากาพย์ยาวถึง 17 ปี ซึ่งศาลฎีกาจะมีคำพิพากษาชี้ขาด จำเลยที่เหลือ 4 ราย ประกอบด้วย น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที แนวร่วม และชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล 

สำหรับคดีดังกล่าว เมื่อวันที่ 12 ก.พ.2563 ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาว่า การกระทำของจำเลยทั้ง 5 เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท พิพากษาให้ลงโทษบทหนักสุด ฐานร่วมกันบุกรุกในเวลากลางคืน โดยให้จำคุกนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ จำเลยที่ 1 มีกำหนด 2 ปี จำคุก น.ส.อัญชะลี จำเลยที่ 2 นายภูวดล จำเลยที่ 3 นายยุทธิยง จำเลยที่ 4 และนายชิติพัทธ์ จำเลยที่ 5 คนละ 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา

แต่สำหรับนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ จำเลยที่ 1 ได้เสียชีวิตเมื่อเดือน พ.ย.2564 และศาลจึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดี เฉพาะนายสมเกียรติออกจากสารบบความ

ต่อมาเมื่อวันที่ 10 พ.ค.2565 ศาลอุธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น โดยได้ตัดสินจำคุกอดีตแกนนำพันธมิตรทั้ง 4 คนละ 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา และทั้งหมดได้มายื่นขออนุญาตฎีกา โดยยื่นคำฎีกาและเอกสารประกอบในขั้นตอนการฎีกาต่อสู้คดี

คดีนี้พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องในความผิดฐานร่วมกันบุกรุก มั่วสุม สร้างความวุ่นวายในบ้านเมือง อั้งยี่ซ่องโจรฯ กรณีร่วมกันบุกยึดสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (เอ็นบีที) ในช่วงการชุมนุมของ พธม. เพื่อขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช เมื่อปี 2551

โดยโจทก์ระบุว่า เมื่อวันที่ 25-26 ส.ค.2551 จำเลยทั้ง 5 พร้อมกับพวกอีก 85 คนที่ศาลฎีกาพิพากษาลงโทษแล้ว ร่วมกันกระทำความผิดเป็นซ่องโจร มั่วสุมก่อการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง โดยร่วมกันเดินขบวนในถนนสาธารณะจากบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ และจากที่อื่น ๆ มีอาวุธปืน มีด ขวาน ไม้กอล์ฟ ไม้ท่อน หนังสติ๊ก ลูกเหล็ก ร่วมกันบุกรุกเข้าไปในบริเวณและอาคารสำนักงานสถานี NBT แล้วทุบทำลายประตูหน้าต่าง ตัดสายไฟฟ้าตู้ควบคุมระบบไฟฟ้า ระบบโทรศัพท์ ระบบคอมพิวเตอร์ ระบบกล้องวงจรปิดทำลายระบบส่งสัญญาณการออกอากาศวิทยุโทรทัศน์ และร่วมกันข่มขืนใจพนักงานไม่ให้ปฏิบัติหน้าที่ออกอากาศและกระจายเสียงและสั่งให้ออกไปจากอาคารสถานี

จำเลยทั้ง 5 เป็นหัวหน้าและเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการในการกระทำความผิด อันเป็นความผิดฐานร่วมกันเป็นซ่องโจร ฐานร่วมกันทำให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ฐานร่วมกันบุกรุก และฐานร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 210, 215, 309, 358, 364 และ 365 จำเลยทั้งห้าให้การปฏิเสธและได้รับการประกันตัว

สำหรับปฏิกิริยาของสังคม เมื่อวันที่ 18 ก.ย.2568 นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง โพสต์ข้อความระบุว่า “ขอได้รับการคารวะพรุ่งนี้ ศาลฎีกาจะพิพากษาคดีที่คุณอัญชะลี ไพรีรัก กับพวกชุมนุมที่สถานีโทรทัศน์ NBT เมื่อปี 2551 ในกลุ่มผู้ถูกดำเนินคดีชุดนี้ผมรู้จักกับคุณอัญชะลีและคุณยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที นอกนั้นผมไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว

-ทั้งคุณอัญชะลีและคุณยุทธิยง เป็นคนดี ท่านเหล่านี้ ฝากบ้านฝากเมืองได้
-ท่านเหล่านี้ หากฝากบ้านไว้กับเขาสัก 2-3 คืน แล้วเจ้าของบ้านลืมปิดตู้เซฟ รับรองเงินจะไม่หายแถมท่านเหล่านี้จะทำความสะอาดห้องพระและถวายน้ำพระให้เสียด้วยซ้ำ
-แต่เมื่อบ้านมีกฎบ้าน เมืองมีกฎเมือง คนเหล่านี้ ยอมรับกติกาของกฎเมือง ไม่หนีไปไหน นี่คือความยิ่งใหญ่ของหัวใจที่เราก็เทียบเขาไม่ได้
-บางคนมีคำถามในหัวใจว่า คนที่จงรักภักดีต่อบ้านเกิดเมืองนอน ทำไมต้องเอาคนเหล่านี้ไปจองจำ แล้วสิ่งที่เขาทำมันชั่วร้ายขนาดที่หากเขาอยู่ข้างนอกมันอันตรายต่อบ้านเมืองหรือ

ก็คิดเรื่องนี้มาตลอดจนพอจะเข้าใจได้ว่า เพราะช่วงนั้นประเทศเรามีผู้นำที่มีปัญหา เราจึงอยู่ถิ่นที่ไม่เป็นมงคลตามหลักมงคล 38 ข้อ 4 ว่าด้วย“ปฏิรูปเทสวาสะ" 

-ผู้มีน้ำใจกล้าหาญจึงพยายามปรับปรุงให้บ้านเมืองเป็นถิ่นที่อยู่ที่เหมาะสม
-ส่วนผู้ทำให้บ้านเมืองเป็นถิ่นอันไม่เหมาะสมก็เริ่มรับผลกรรมจากการกระทำแล้วตามที่เห็นกันอยู่
-แต่แน่นอนว่า การทำให้บ้านเมืองเข้ารูปเข้ารอย เป็นถิ่นอันเหมาะสม ก็อาจต้องละเมิดกฎแห่งเมือง
-เขาทำ เพราะใจเขาใหญ่กว่าเรา
-การตัดสินพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร ขอทุกท่านได้รับการคารวะจากผม" 

ขณะที่นายปฏิพล อภิญญาณกุล นักเขียน ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก "Padipon Apinyankul" ระบุว่า วันศุกร์ที่ 19 กันยายน 2568 .. คุณปอง อัญชะลี จะไปฟังคำตัดสินของศาลฎีกา คดีบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT)เป็นคดีที่เกิดในช่วงการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร

การต่อสู้ที่รู้ว่า บางอย่างนั้นผิดกฎหมาย แต่เป็นกฎหมายเกี่ยวกับสถานที่ราชการ ไม่ได้เป็นความผิดที่หวังทำลายชีวิตใครเป็นการเรียกร้องความเป็นธรรมต่อกระบวนการทางการเมืองที่นิ่งเฉยกันแน่นอนย่อมเป็นความผิดในการบุกรุกสถานที่ซึ่งเธอเคารพน้อมรับความผิดนั้นอย่างสง่าผ่าเผย

อัญชะลี ได้เตรียมความพร้อมต่อการติดคุก 1 ปี ถ้าศาลฎีกาลงความเห็นเช่นนั้น เธอจัดแจงทุกอย่างหนหลังให้กับผู้เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว เริ่มต้นตัดผมสั้น เริ่มต้นการฝึกกินอาหารน้อย ๆ หัวใจที่เด็ดเดี่ยว ไม่ได้ลดน้อยลงด้วยกาลเวลาเลย

 อ่านข่าว:

"พล.ท.อดุลย์" นักรบ "ตาควาย" เขากระโดง ส่งนั่ง "รมช.กลาโหม"

จับกระแสการเมือง : วันที่ 16 ก.ย.2568 หนุน “อภิสิทธิ์” คืนรัง ปชป. รทสช.แยกย้าย “ลูกหมี” นำทีมชุมพรซบ ภท.

ทางวิบาก "ทักษิณ" แพทองธาร นำ "พท." ลุยดงหนามการเมือง