ระส่ำ “ค่ายพระแม่ธรณีบีบมวยผม” เลือดไหลอีกรอบ หลัง “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่ 9 ได้ยื่นใบลาออกจากพรรคฯ อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 13 ก.ย.2568 ที่ผ่านมา ให้ “ประมวล พงศ์ถาวราเดช” รองหัวหน้าพรรคฯ ที่รับผิดชอบพื้นที่ภาคกลาง ปฏิบัติหน้าที่รักษาการหัวหน้าพรรคแทน ซึ่งตามข้อบังคับของพรรคการจัดประชุมใหญ่เพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ขึ้นมาภายใน 60 วัน
แม้ “ธนิตพล ไชยนันทน์” ผอ.ค่ายสีฟ้าจะยืนยันว่า เป็นเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นใน 4 เดือน และเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ซึ่งอาจมี สส.ไหลออกไปสังกัดพรรคใหม่ ถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดกับทุกพรรค การเมือง จึงไม่กังวล
คืนรัง “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” อดีต สส.พัทลุง 8 สมัย และอดีตรองหัวหน้าพรรค ปชป. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก สนับสนุน ดร.มาร์ค “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” กลับมาเป็นผู้นำพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้งหนึ่ง โดยระบุว่า และยินดีเข้าไปช่วยเหลือในการฟื้นฟูพรรค โดยจะยังไม่สมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อเข้าไปเลือกหัวหน้าพรรค และไม่ต้องการตำแหน่งแห่งหนใด ๆ ในพรรค พร้อมแนะนำการฟื้นฟูพรรคฯ ว่า ควรทำเป็น 2 ชุด คือ
1.ชุดคนหนุ่ม-สาว สำหรับลงเลือกตั้ง
2.ชุดผู้อาวุโสที่เคยสร้างพรรคให้ยิ่งใหญ่มาในอดีต สำหรับเป็นที่ปรึกษาให้กับคนหนุ่มที่จะลงเลือกตั้ง ต้องเป็นคนหนุ่ม-สาว ที่มีทัศนเป็นบวกต่อบ้านเมือง ไม่ทำลายรากฐานหรือแก่นของชาติ แต่ปรับปรุงให้ทันสมัยต่อโลกสมัยใหม่ เป็นคนหนุ่มสาวที่เป็นโซ่ข้อกลาง ให้คนทุกรุ่นอยู่กันได้อย่างสันติ ไม่ทำลายคนรุ่นใดรุ่นหนึ่ง เพื่อสร้างมนุษย์พันธุ์ใหม่ที่ไม่รู้จักขึ้นมา
อดีต สส.พัทลุง ระบุอีกว่า สำหรับประชาชน หากเห็นว่าสามก๊กใหญ่ คือ เพื่อไทย,ประชาชน,ภูมิใจไทย คือความหวังของชาติ ก็ไม่จำเป็นต้องสร้างประชาธิปัตย์ (ยุคใหม่) ขึ้นมาอีก หากเห็นว่ายังวางใจไม่ได้ ก็ต้องร่วมกันฟื้นพรรคประชาธิปัตย์ยุคใหม่ขึ้นมา
เงื่อนไขผมอาจจะเยอะ แต่คิดเอาเองว่า นี่คือ “ความรอดอย่างเดียวของชาติ”...การเลือกหัวหน้าพรรคฯ ครั้งนี้ เหมือน “เปิดถ้วยให้แทง” แล้ว หากสมาชิกพรรคยังแทงไม่ถูกอีก ก็รอวันพรรคล่มสลายอย่างนิรันดร์
อวยฉ่ำ สส.แทน “ชัยชนะ เดชเดโช” สส.นครศรีธรรมราช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ บอกพรรคฯ เปิดกว้างให้คนที่มีคุณสมบัติมาสมัครได้อยู่แล้ว เพราะพรรคฯ เป็นสถาบันทางการเมืองอยู่มากกว่า 80 ปี เปลี่ยนตามยุคตามสมัยไป
“คนที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ในครั้งหน้า ต้องยอมรับและเข้าใจการเมืองปัจจุบัน ในการพัฒนาทางการเมือง และสถานการณ์การเมืองในการจัดตั้งรัฐบาล ที่เป็นรัฐบาลที่มาจากเสียงข้างน้อย และระบบประชาธิปไตยเมื่อเกิดขึ้นแบบนี้ จะทำให้การเมืองอ่อนแอ”
สำหรับหัวหน้าพรรคคนใหม่นั้น มีหลายคนที่มีความสามารถ ไม่ว่าจะเป็น “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ซึ่งเคยเป็นอดีตนายกฯ และหัวหน้าพรรคฯ ถือเป็นบุคคลสำคัญทางการเมืองไทยที่เป็นบุคคลต้นแบบ มีอุดมการณ์ รักษาสัจจะคำพูด ก็มีความเหมาะสมที่จะกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคฯ
“ผมได้มีการพูดคุยกับนายอภิสิทธิ์อยู่ตลอด...มีการพบกันทานข้าวและกินกาแฟ เป็นเรื่องปกติ นอกจากนี้ก็ยังมีนายกรณ์ จาติกวณิช และ น.ส.วทันยา บุนนาค แต่ขอให้รอดูว่าพรรคประชาธิปัตย์จะกลับมาได้ คือสามัคคีคือพลัง ความมีเอกภาพคือสิ่งที่สำคัญที่สุด” สส.แทน “ชัยชนะ” กล่าว
ฟื้นค่ายแม่พระธรณี ต้องถอยไปข้างหน้า “เสี่ยจ้อน” อลงกรณ์ พลบุตร ลูกหม้อ ปชป.อีกคนหนึ่ง โพสต์เฟซบุ๊กประชาธิปัตย์ พรรคการเมืองเก่าแก่ที่สุดของไทย กำลังเผชิญกับจุดหักเหสำคัญ และเกิดการเปลี่ยน 2 เรื่องในเวลาใกล้เคียงกัน คือการกลับมาเป็นฝ่ายค้าน และการลาออกของหัวหน้าพรรค
โดยเปรียบเทียบให้เห็นความเหมือนและต่างระหว่าง ยอดขายกาแฟดังยี่ห้อหนึ่งกับ ปชป.ที่มีความเหมือนและต่าง คือขยายตัวอย่างรวดเร็วแต่สูญเสียจิตวิญญาณ และคุณค่าดั้งเดิม ยิ่งเมื่อประสบกับคู่แข่งใหม่ๆ ทำให้ลูกค้าตีจากยอดขายและราคาหุ้นลดลงอย่างมาก
“สาเหตุหลักคือการให้ประสบการณ์และรสชาติกาแฟที่ลดลง ทำให้ต้องหยุดและทบทวน เพื่อกลับสู่พื้นฐาน ปรับเปลี่ยนโลโก พัฒนาพนักงาน ...ปชป.ก็เช่นกัน ที่จำเป็นต้องค้นหาทางออกจากวิกฤต จากความไม่เป็นเอกภาพทั้งแนวคิดแนวทางและกลุ่มบุคคลภายในพรรค จุดยืนทางการเมืองที่สับสน ภายใต้บริบทการเมืองที่สลับขั้วและซับซ้อน และความคาดหวังของประชาชนที่เปลี่ยนแปลงไป” อดีต สส.เมืองขนมหม้อแกง ระบุ
บ่ายวันนี้ (16 ก.ย.2568) หลัง “กวาง” ไตรศุลี ไตรสรณกุล นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ได้เดินทางมายังตึกสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เพื่อนำรายชื่อบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรี ส่งให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ตรวจสอบคุณสมบัติ
โดยมี “ปกรณ์ นิลประพันธ์” เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา “พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์” ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และตัวแทนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เข้าร่วม โดยมี “นายกฯ หนู” อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามมาสมทบ คาดเป็นการตรวจสอบครั้งสุดท้าย ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ
ทันควัน “สมชาย แสวงการ” อดีต สว. โพสต์เฟซบุ๊ก # เสียดาย ครม.หนู 1 อาจอายุสั้น ถ้ารายชื่อ รมต.ตรงตามโผสื่อ คงถูกยื่นร้องขาดจริยธรรมตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 (5) อาจจบด้วย # ยุบสภา หนีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ปิดเกมส์ MOA ก่อนกำหนดครบ 4 เดือน
แตกยับ หลัง “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ขน 18 สส.หอบมาซบ “โอกาสใหม่” ทิ้ง “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” หัวหน้าพรรคฯ และ ”เลขาฯ ขิง” เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรคฯ
เมื่อเปลี่ยนตัวนายกฯ กลุ่ม “ขิง -เอกนัฏ” โหวตหนุน “นายกฯ หนู” อนุทิน โดยอ้างรักษาจุดยืนอนุรักษ์นิยม ไม่ต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรี ส่วนกลุ่มเสี่ยเฮ้ง “สุชาติ” โหวตช่วย และเปิดตัวร่วมรัฐบาล
ล่าสุด “กลุ่มชุมพร” นำโดยอดีต สส.ลูกหมี “ชุมพล จุลใส” โบกมือลา รทสช. ย้ายสังกัด เปิดตัวสมัครสมาชิกค่ายสีน้ำเงิน “ภูมิใจไทย” ในวันที่ 17 ก.ย. นี้ ขณะที่กลุ่มของ “ขิง-เอกนัฏ” ยังไม่ชัดเจนว่าจะหยุดอยู่ที่ “รทสช.” หรือ “ย้ายค่าย” ไปกลับเกลอเก่า
สัจธรรมการเมือง สส.ย้ายค่าย หามุ้งสังกัดใหม่ เข้มข้น ตามฤดูกาลก่อนนับถอยหลังยุบสภา
อ่านข่าว :
"อนุทิน" พยักหน้ารับ โผ ครม.เรียบร้อยแล้ว
ปรับ-เปลี่ยน 5 ขยัก เคาะ "ครม.อนุทิน 1"
"ประชาธิปัตย์" เดินหน้าจัดประชุมใหญ่ 18 ก.ย.นี้ เตรียมเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่