วันนี้ (19 ก.ย.2568) การประชุมสมัชชารัฐสภาอาเซียน (AIPA) ครั้งที่ 46 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-20 ก.ย.2568 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ในวันที่ 3 ของการประชุม ได้เปิดโอกาสให้คณะกรรมาธิการด้านต่าง ๆ ได้แก่ การเมือง เศรษฐกิจ สังคม กิจการ AIPA และการประชุมยุวสมาชิกรัฐสภาอาเซียน หารือ แลกเปลี่ยนข้อมูล และร่วมมือแก้ไขปัญหาในภูมิภาคอาเซียน คณะผู้แทนรัฐสภาไทยเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียงและพบความสำเร็จในการประชุมแต่ละชุด
สำหรับคณะกรรมาธิการด้านสังคม นำโดยศาสตราจารย์ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะหัวหน้าคณะ ร่วมด้วย น.ส.ชญาภา สินธุไพร และ น.ส.ภัสริน รามวงศ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่าการประชุมเป็นไปด้วยดี โดยที่ประชุมพิจารณาร่างข้อมติ 5 ประเด็น ได้แก่ ยาเสพติด การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แอลกอฮอล์ การศึกษา และสาธารณสุข ประธานทำหน้าที่อย่างเป็นกลาง สมาชิกให้ความร่วมมือด้วยมิตรภาพ ส่งผลให้ร่างข้อมติทั้งหมดได้รับความเห็นชอบ ซึ่งจะช่วยพัฒนาภาคสังคมอาเซียนให้ก้าวหน้า
ด้านคณะกรรมาธิการด้านกิจการ AIPA นำโดย น.ส.ปิยะรัฐช์ ติยะไพรัช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะหัวหน้าคณะ ร่วมด้วยนายธนกร ถาวรชินโชติ สมาชิกวุฒิสภา ที่ประชุมหารือรายงานทางการเงินว่ามีการใช้งบประมาณเหมาะสมหรือไม่ และวางเป้าหมายความร่วมมือในอนาคต อย่างไรก็ตาม กัมพูชาเสนอเปิดเวทีพิเศษสำหรับผู้นำหารือปัญหาชายแดน แต่ไทยยืนยันว่าการประชุมระดับผู้นำมีอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องตั้งเวทีใหม่เพื่อประหยัดงบประมาณและเวลา ซึ่งทุกประเทศเห็นด้วย ทำให้การหารือเป็นไปในทิศทางบวกและบรรยากาศดี

ส่วนคณะกรรมาธิการด้านเศรษฐกิจ นำโดยนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร และนายเอกชัย เรืองรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา ที่ประชุมหารือ 7 ด้าน ได้แก่ แผนแม่บทชุมชนเศรษฐกิจอาเซียน (AEC Blueprint) การรวมกลุ่มเศรษฐกิจและการค้า การพัฒนาบุคลากร เศรษฐกิจสีน้ำเงิน (Blue Economy) การใช้ทรัพยากรทะเลและพลังงานใต้ทะเล การค้าคาร์บอน (Carbon Trade) แนวโน้มโลก (Global Trend) โดยหยิบยกประเด็นภาษีสหรัฐฯ (ภาษีทรัมป์) เพื่อรวมตัวเพิ่มอำนาจต่อรองกับมหาอำนาจ การแลกเปลี่ยนสินค้าโดยไม่เก็บภาษี พลังงานหมุนเวียน และเศรษฐกิจดิจิทัล ทุกประเด็นได้รับเห็นชอบร่วมกัน

นายเท่าพิภพ กล่าวถึงบรรยากาศว่าช่วงแรกในห้องประชุมตึงเครียดจากการจับตาระหว่างไทยและกัมพูชา โดยเฉพาะช่วงแสดงความเห็น แต่ประธานทำหน้าที่เป็นกลาง ทำให้ตลอดการประชุมราบรื่น ไทยไม่ต้องการนำความขัดแย้งชายแดนมาทำให้เพื่อนสมาชิกอึดอัด และร่างที่ไทยเสนอได้รับการสนับสนุนจากกัมพูชา ซึ่งสอดคล้องกับการที่ AIPA ปฏิเสธข้อเสนอของกัมพูชาให้ใส่ปัญหาชายแดนในวาระด่วน โดยยืนยันให้แก้ไขแบบทวิภาคี เพื่อรักษาความสงบสุขในภูมิภาค
อ่านข่าวอื่น :
ทบ.ย้ำบ้านหนองหญ้าแก้วของไทย ซัด "ฮุน มาเนต" บิดเบือนข้อมูลในเวทีโลก
"ภราดร" คาดแถลงนโยบายสิ้น ก.ย. "พีระพันธุ์" อำลา ขรก.พลังงาน