วันนี้ (19 ต.ค.2568) การโยกย้ายผู้บริหารในหน่วยงานราชการ โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย กำลังถูกตั้งคำถามจากหลายฝ่าย ไม่ใช่แค่เรื่องการจัดสรรอำนาจ แต่รวมถึงความเหมาะสมในการบริหารงานสาธารณะ หนึ่งในตำแหน่งที่ถูกจับตามองมากที่สุด คือ "เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ" หรือ สทนช. ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่กำหนดนโยบายและควบคุมงบประมาณจัดการน้ำทั่วประเทศ ท่ามกลางข่าวลือว่าผู้ที่อาจได้รับแต่งตั้งใหม่ ไม่มีพื้นฐานความรู้ด้านการจัดการน้ำโดยตรง
การบริหารน้ำในไทยเป็นเรื่องใหญ่และซับซ้อน ไม่ใช่แค่แก้ภัยแล้งหรือน้ำท่วม แต่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานขนาดยักษ์ เช่น เขื่อน ประตูระบายน้ำ ระบบผันน้ำ ประปาหมู่บ้าน และโรงบำบัดน้ำเสีย ที่ต้องใช้เงินงบประมาณมหาศาล หลังวิกฤตน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 รัฐบาลจึงตั้ง สทนช. ขึ้นมา เพื่อวางแผนและจัดการน้ำอย่างเป็นระบบและยั่งยืน
ผศ.สิตางค์ พิลัยหล้า จากภาควิชาทรัพยากรน้ำ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ออกมาแสดงความกังวลต่อกระแสข่าวนี้ โดยชี้ว่าตำแหน่งเลขาฯ สทนช. คือจุดศูนย์กลางของทุกโครงการน้ำในประเทศ ทุกอย่างต้องผ่านการพิจารณาของที่นี่ ดังนั้นไม่ใช่ตำแหน่งที่ใครจะมานั่งบริหารได้ง่าย ๆ ต้องเป็นคนที่มีความเชี่ยวชาญจริง
ผศ.สิตางค์ เน้นว่า การเลือกคนต้องยึดหลักวิชาการ ไม่ใช่ "สายการเมือง" หรือ "ความใกล้ชิดผู้มีอำนาจ" เพราะเลขาฯ ต้องกำกับนโยบายน้ำและประสานงานกับหน่วยงานปฏิบัติกว่า 38 แห่งทั่วประเทศ ต้องมีความรู้ด้านวิศวกรรม แผนที่น้ำ ภูมิสังคม และสิ่งแวดล้อม
ไม่ได้สนใจว่าเป็นคนของใครหรือสีการเมืองอะไร แต่คนที่คุมน้ำทั้งประเทศ ควรมีพื้นฐานทางวิชาการน้ำ ไม่ใช่คนจบบัญชีหรือการเงิน
นักวิชาการยังกังวลว่า การดึงคนที่ไม่เชี่ยวชาญมาทำหน้าที่หลักใน สทนช. อาจทำลายโครงสร้างศักยภาพการจัดการน้ำของประเทศ และเปิดช่องให้การจัดการน้ำกลายเป็นเรื่องของ "การเมืองและเงินทอน" โดยเฉพาะในยุคที่งบประมาณน้ำถูกใช้เยอะมาก หากผู้บริหารขาดความเข้าใจจริง อาจนำไปสู่ปัญหายาวนาน
อ่านข่าวอื่น :
นายกฯ สั่ง กต.สอบข้อเท็จจริงข่าวนายกฯ เกาหลี พูดเปิดชื่อ 7 นักการเมืองไทย เอี่ยวสแกมเมอร์เขมร
สถานทูตเกาหลีโต้ ข่าว "7 นักการเมืองไทยเอี่ยวสแกมเมอร์กัมพูชา" ไม่เป็นความจริง