ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

นายกฯ สั่ง กต.สอบข้อเท็จจริงข่าวนายกฯ เกาหลี พูดเปิดชื่อ 7 นักการเมืองไทย เอี่ยวสแกมเมอร์เขมร

การเมือง
12:56
454
นายกฯ สั่ง กต.สอบข้อเท็จจริงข่าวนายกฯ เกาหลี พูดเปิดชื่อ 7 นักการเมืองไทย เอี่ยวสแกมเมอร์เขมร
“อนุทิน” สั่งกต.-ทีมงาน ตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังสะพัดนายกฯ โสมขาว เตรียมเปิดชื่อ 7 นักการเมืองไทย เอี่ยวสแกมเมอร์ในเขมร บอกคุยกับ ปธน.เกาหลีใต้ ไม่มีเรื่องนี้ ลั่นหากพบผิดจริงไม่มียกเว้น วอนสื่ออย่าถามนำ

วันนี้ (19 ต.ค.2568) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เพจของหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจระบุว่า นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ กล่าวว่า มีนักการเมืองไทย 7 คน ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการสแกมเมอร์ ในกัมพูชา ว่า ได้มอบหมายให้ กระทรวงการต่างประเทศ และทีมงาน สืบหาข้อเท็จจริง ขออย่ากังวลหากมีรายชื่อมา เราก็จะดำเนินการ และหากมีหลักฐานใดที่ทำผิดกฎหมาย ก็จะดำเนินคดีอยู่แล้ว ไม่มีข้อยกเว้น อย่ากังวลเรื่องนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อวันที่โทรศัพท์พูดคุยกับประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ทางเกาหลีใต้ได้แจ้งเรื่องดังกล่าวด้วยหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ท่านไม่ได้แจ้งเรื่องนี้กับตน และไม่ได้พูดเรื่องนี้เลย ตนถึงได้บอกว่า ให้รอการตรวจสอบก่อน

พร้อมถามกลับว่า ข่าวที่เกิดขึ้นมาจากเพจใช่หรือไม่ หากมาจากเพจ เราก็ต้องตรวจสอบ เพราะตนเพิ่งได้หารือกับประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เมื่อวันพฤหัสบดี (16 ต.ค.) ที่ผ่านมา ซึ่งไม่ได้มีการหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดคุย และตนจะมีโอกาสพบกับผู้นำเกาหลีใต้อีกครั้ง ในการประชุมเอเปกอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า หากเปิดเผยชื่อออกมาก่อน และมีหลักฐานก็จะดำเนินการตรวจสอบ และดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา

เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ หากจะให้กระทรวงการต่างประเทศ ดำเนินการตรวจสอบที่เกาหลีใต้ ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปร่วมประชุมเอเปก ซึ่งนายอนุทิน ตอบกลับในทันทีว่า “สั่งแล้วครับสั่งแล้ว เดี๋ยวเอาไลน์ให้ดูเลยว่าสั่งไปแล้ว และให้ทางสถานเอกอัครราชทูตไทยในเกาหลีใต้ ตรวจสอบในเรื่องนี้ด้วย”

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชนเรียกร้องให้ดำเนินการตรวจสอบ และปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากถูกกล่าวหาว่า มีความสนิทสนม กับนายเบน สมิธ และได้ตั้งทีมทนายความเดียวกันกับตนเอง ไปช่วยนายเบน สมิธ สู้คดี

นายอนุทินกล่าวว่า การตั้งทนายความ ถ้าหากตนจะตั้งทนายมาทำคดี ก็ต้องตั้งคนที่มีความใกล้ชิดกับตน เราก็ต้องหาคนที่ไว้ใจได้ และคุยกันรู้เรื่อง จะปลดหรือไม่ปลดอยู่ที่รูปคดี อยู่ที่คำพิพากษา และการกระทำผิด ขอให้ถามเรื่องงาน อย่าไปถามเรื่องชื่อบุคคลแบบนี้ไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ประชาชนรอดูท่าทีเชิงรุกของรัฐบาล ในการปราบปรามสแกมเมอร์และ อาชญากรรมออนไลน์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพียงสัปดาห์เดียว หลังจากที่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาทำงาน ก็มีรายงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงดิจิทัลฯ เข้ามาว่า จับกุมได้ 37 ราย และอยู่ระหว่างดำเนินการขยายผลต่าง ๆ อีกมากมาย และวันพรุ่งนี้จะมีการประชุมชุดใหญ่ เรื่องการปราบปรามสแกมเมอร์ เพื่อมอบหมายให้แต่ละหน่วยงาน ดำเนินการต่อยอด จากสิ่งที่เขาทำไว้อยู่แล้ว

เมื่อถามว่า หลายประเทศได้จับมือกันคว่ำบาตร กับบริษัทของกัมพูชา ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์ รัฐบาลไทยจะร่วมด้วยหรือไม่ และพรุ่งนี้จะนำเรื่องนี้เข้าหารือด้วยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกอย่าง เรื่องสแกมเมอร์ถือเป็นวาระของภูมิภาคนี้ วาระของโลกด้วยซ้ำ เราก็ต้องเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมมือในการปราบปราม ทุกวิถีทางและเต็มรูปแบบ

ส่วนมาตรการตัดอินเตอร์เน็ต และการขนส่งน้ำมัน ที่รัฐบาลชุดที่แล้วทำไว้กับฝั่งประเทศเมียนมา จะนำมาใช้ในการปราบสแกมเมอร์กับฝั่งกัมพูชาด้วยหรือไม่ นายกฯ ถามกลับว่า ไฟถูกตัดไหมครับ ทุกวันนี้หากเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เราก็ดำเนินการอยู่แล้ว

เมื่อถามถึงกรณีบริษัท ปริ๊นซ์ โฮลดิ้ง กรุ๊ป ซึ่งเกี่ยวข้องกับเครือข่ายสแกมเมอร์ มีที่ตั้งอยู่ในอาคาร Sino-Thai Tower นายกรัฐมนตรี รีบเดินออกจากวงสัมภาษณ์ พร้อมกับพูดว่า จะต้องรีบไปเปิดงานต่อ และกล่าวต่อว่า “เขาตอบไปแล้วนี่ครับ อย่าถามนำ ไม่เกี่ยวข้องนะครับ”

อ่านข่าว : เปิดตัว “เฉิน จื้อ” Chen Zhi (Vincent) ที่ปรึกษานายกฯ กัมพูชา

“ความลับ” ของ เฉิน จื้อ ที่ปรึกษานายกฯ กัมพูชา และธุรกิจที่อำพรางไว้