ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"กัน​ จอมพลัง​" แจง "กมธ.การทหาร" ยืนยัน​ มีทั้งทหาร-ตำรวจ ขอความอนุเคราะห์ช่วยเหลือ

การเมือง
18:53
274
"กัน​ จอมพลัง​" แจง "กมธ.การทหาร" ยืนยัน​ มีทั้งทหาร-ตำรวจ ขอความอนุเคราะห์ช่วยเหลือ
"กัน​ จอมพลัง​" ชี้แจง "กมธ.การทหาร" ยืนยัน​ มีทั้งทหาร-ตำรวจ ขอความอนุเคราะห์ช่วยเหลือ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา​ เชื่อ"กองทัพ" มีงบประมาณ​ แต่หน้างานต้องการความรวดเร็ว

วันนี้ (30 ต.ค.2568) คณะกรรมาธิการการทหาร​ สภาผู้แทนราษฎร​ เรียกกองทัพ​ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและ​ นายกัณฐัศว์ พงศ์​ไพบูลย์​เวชย์ หรือ​ "กัน​ จอมพลัง" มา​ชี้แจงข้อเท็จจริงการบริหารทรัพยากรของกองทัพในเหตุการณ์ความขัดแย้งชายแดน ไทย-กัมพูชา​ หลัง "มูลนิธิ​ กัน​ จอมพลัง" ลงไปช่วยและรับบริจาคสิ่งของ จนถูกตั้งคำถามถึงงบประมาณของกองทัพ แต่ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก​ และนายกัน จอมพลัง​ ขอเข้าร่วมประชุมทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์​ แล้ววันนี้กรรมาธิการยังเชิญ น.ส.รักชนก​ ศรีนอก​ สส.กทม.พรรคประชาชน​ เข้าร่วมซักถามด้วย​

ระหว่างรอการประชุม​ น.ส.รักชนก​ ได้สอบถามฝ่ายเลขา ต้องการเอกสารชี้แจงจากกองทัพและอยากขอดู statement ของมูลนิธิการจอมพลัง​ รวมไปถึงใบเสร็จการใช้จ่ายต่าง ๆ ว่า​ เงินบริจาคดังกล่าว​ ถูกนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์หรือไม่​ เช่น​ การซื้อยางรถยนต์​ ที่มีเอกสารปลอมหลุดออกมาก่อนหน้านี้​

จากนั้น​เวลา​ 16.28 น.​ "กัน​ จอมพลัง" เข้าสู่ห้องประชุมผ่าน​วิดีโอคอนเฟอเรนซ์​ โดยขอใช้เวลาชี้แจงเพียง 20 นาที​ เนื่องจากติดภารกิจขายสินค้า​

ประธานกรรมาธิการ​ เริ่มตั้งคำถาม​ว่า​ อยากเห็นหนังสือการขอความอนุเคราะห์ทั้งหมดจากกองทัพ​ มีหน่วยงานไหนบ้างและขออะไรบ้าง​ ทำให้​ กัน​ จอมพลัง​ โชว์หนังสือขอความอนุเคราะห์ ก่อนจะอ่านเนื้อหาให้ฟัง​ความว่า​ หน่วยงานมีความต้องการเงินไปซื้อของ​ใช้ จากบริษัทหนึ่ง​ (มีการระบุชื่อบริษัท​มาเลย​)​ จึงมาขอความอนุเคราะ​ห์ เงินจากมูลนิธิ เพื่อไปซื้อของที่ต้องการใช้​ อาทิ​ แผ่นเกราะแข็งป้องกันกระสุนระดับ 4​ จำนวน​ 250 แผ่น​ จากนั้นมูลนิธิก็โอนเงินไปที่บริษัทดังกล่าวเลย​ โดยไม่ได้ผ่านหน่วยงาน​ ส่วนการส่งมอบสินค้า​ บริษัทก็ส่งให้หน่วยงานเลย​ ส่วนตัวจะไปร่วมถ่ายรูปตอนส่งมอบบ้าง​บางครั้ง

ทั้ง​นี้​ กัน​ จอมพลัง​ ไม่ขอระบุว่า​ มีหน่วยงานใดบ้าง​ และใครเป็นคนเซ็น​ เนื่องจากกังวลว่า ผู้ขอความอนุเคราะห์จะได้รับผลกระทบ แต่ที่ผ่านมามีทั้งทหารและตำรวจที่ขอความอนุเคราะห์มา​

ทำให้​นายวิโรจน์​ ลักขณาอดิศร​ กรรมาธิการ ได้แสดงความคิดเห็นว่า​ เรื่องนี้ควรตั้งคำถามกับกองทัพ​ ที่ไปขอความอนุเคราะห์​ยุทธภัณฑ์ที่เป็นเกรดทำสงครามกับมูลนิธิต่าง ๆ​ เพราะในช่วงเวลาแบบนี้กลไกของมูลนิธิเกิดขึ้นได้​ แต่กรณีนี้มองว่า เป็นประเด็นของกองทัพที่ไปขอรับบริจาคยุทธภัณฑ์ จากเอกชนได้อย่างไร​ 

ส่วน น.ส.รักชนก​ กล่าวเสริมว่า อยากให้​ "กัน​ จอมพลัง" ส่งหนังสือขอความอนุเคราะห์​ มาให้กรรมาธิการทุกฉบับ​ เพื่อปกป้องตัวเอง​

นอกจากนี้ "กัน​ จอมพลัง" ยังชี้แจง​ เรื่องการเข้าพื้นที่กฎอัยการศึก​ว่า​ การเข้าไปไม่ได้เข้าไปสร้างปัญหา​ แต่ไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ ถือเป็นการร่วมแรงร่วมใจในการทำงาน ในเวลาที่เกิดเหตุฉุกเฉิน ซึ่งการเข้าไปในพื้นที่ตรงนั้นไม่ได้มีแค่ตนเอง​ มีชาวบ้านมีพระ​ และยังมีการขอความอนุเคราะห์ในเรื่องอื่น ๆ​ ที่ขอมาทางไลน์​ โดยไม่ได้ทำหนังสืออีก​

อย่าง Notebook ในการกดกระสุนปืนใหญ่ ที่ทหารชั้นผู้น้อยมีความจำเป็นเร่งด่วน เข้าใจว่า กองทัพมีเงินอยู่แล้ว​ แต่ในความรวดเร็วไม่รู้ว่าจะเร็วได้มากน้อยแค่ไหน​ ขอมาปุ๊บก็จัดให้​ ซึ่งเป็นการช่วยทหารได้และทำให้ทุกคนปลอดภัย มูลนิธิก็ปฏิบัติภารกิจหน้างาน เร่งดำเนินการให้​เชื่อว่า กองทัพมีตังค์ มีศักยภาพในการทำอยู่แล้ว แต่ถ้าความรวดเร็วและขั้นตอน ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไร แต่สำหรับมูลนิธิทำได้เลย​ จึงถือว่า เป็นการทำงานร่วมกันมูลนิธิจัดหาให้ทหารก็มาลงแรง​ ในสถานการณ์วิกฤต

สุดท้ายทางกรรมาธิการได้ขอเอกสารขอความอนุเคราะห์ทุกอย่าง​ โดยยืนยันว่า​ ไม่ต้องกังวลว่าทหารชั้นผู้น้อยที่ขอมาจะได้รับผลกระทบ​ ยืนยันว่า​ เป้าประสงค์​เพียงแค่ต้องการปรับปรุงการทำงานของกองทัพ

จากนั้น กรรมาธิการได้สอบถามโฆษก​กองทัพบกว่า​ ได้ขอรับบริจาคอะไรไปบ้าง รวมไปถึงการจัดการพื้นที่ในเชิงนโยบาย​ โดย พล.ต.วินธัยกล่าว​ว่า​ ของที่ได้รับการสนับสนุน​เข้ามามี 2 ลักษณะ​ คือ​ 1.เพื่อต้องการช่วยเหลือกำลังพล​ 2.ต้องการช่วยเหลือชีวิตความเป็นอยู่ของคนแนวหน้า​ ซึ่งการบริจาคจะไม่ขอเป็นเงิน​ เพราะมีความยุ่งยากทางกฎหมาย​ แต่ถ้ายืนยัน​จะให้เงิน เพื่อส่งต่อไปให้ทหารที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ทางกองทัพก็สามารถเป็นสะพานเชื่อมต่อให้​

ส่วนเรื่องบริจาค​ยุทธภัณฑ์​ ยืนยันไม่ทราบ​ว่ามีการบริจาคเข้ามาด้วยเพราะเป็นเรื่องทางเทคนิคและราคาสูง​ แต่ที่ผ่านมากองทัพ​ ก็ไม่ได้ห้ามบริจาค​ เพราะสุดท้ายแล้ว​ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับของบริจาค​ แต่คือกำลังใจว่า ยังมีคนนึกถึง​

ผมเพิ่งรู้วันนี้ว่า "กัน จอมพลัง" จัดหาของที่สูงกว่ามาตรฐาน ที่กองทัพทั่วไปใช้​ คือ​ ระดับ​ 4 ซึ่งในระดับ 4 เป็นสเปคที่สูง

กรรมาธิการได้ถามเพิ่มเติมว่า​ กองทัพได้มีการรับบริจาค ถุงเท้า​ รองเท้า​ น้ำ​ หรือไม่​ และที่ผ่านมาเคยบอกว่า​ ไม่ได้ขาดแคลน​ เหตุใดจึงรับบริจาคสิ่งของจำนวนมาก​ พล.ต.วินธัย​ ชี้แจงว่า​ สำหรับกองทัพบกไม่มี แต่สำหรับหน่วยงานที่ปฏิบัติอยู่หน้างานมี​ ส่วนสิ่งก่อสร้าง ที่มูลนิธิต่าง ๆ ไปทำให้​ หน่วยงานก็ไม่ได้เอากลับก็ตั้งอยู่ที่เดิม​

ตามนโยบายไม่มีการรับบริจาค และพยายามบริหารงบประมาณให้ไปได้​ แต่ก็มีหน่วยงานภายนอกที่แสดงน้ำใจ จึงได้รับไว้ ส่วนของที่บริจาคมา​ ก็เอาไปใช้​ แต่อาจจะใช้ฟุ่มเฟือยหน่อย แต่ยืนยันว่าไม่ได้ขาดแคลน​ ส่วนเรื่องเงินบริจาคไม่มีนโยบายแน่นอน​ หากเห็นว่าเป็นการฉ้อโกงให้แจ้งความดำเนินคดีได้เลย

พล.ต.วินธัย​ ยังชี้แจงเรื่อง​แผ่นเกราะแข็งป้องกันกระสุนระดับ 4​ ที่​ "กัน​ จอมพลัง" บริจาคว่า​ ยืนยัน​ ไม่ได้รับรายงานเรื่องการขอชุดเกราะ​ เห็นจากสื่อ​ และจากคลิปที่มีการทดสอบ​ ก็ไม่ใช่การทดสอบของกองทัพ​ สมมติว่าสิ่งที่ ​ "กัน​ จอมพลัง"​ ให้​มาแล้วเกิดการใช้จริง​ อาจจะมีการทดสอบแล้วก็ได้​ แต่กองทัพไม่อยากให้ใช้คำว่า ขาดแคลนเพราะไม่เคยพูดว่าขาดแคลน​ เสื้อเกราะอยู่ประจำการพลรบทุกคน​ เพียงแต่ใส่บ้างไม่ใส่บ้าง​และหากมีการขอเสื้อเกราะเพิ่มจริง​ ก็เป็นการเพิ่มเสื้อจากตัวเดียวเป็น 2 ตัว​

 

อ่านข่าว : "ทนายเดชา" ชี้ "กัน จอมพลัง" อาจเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมฯ-ฉ้อโกง ปมมูลนิธิ

 "กัน จอมพลัง" นำเยาวชนหญิงแจ้งความ ตร. อ้างถูกกลุ่ม "ตังค์ไม่ออก" ล่วงละเมิดทางเพศ

"กัน จอมพลัง" พาแม่-ลูกขอความเป็นธรรม หลังถูกราดน้ำกรดเจ็บสาหัส